ทนาย จ่อขอรื้อคดีจำนำข้าว หวังเอายอดขายข้าวหักหนี้ ไม่ต้องจ่ายเงิน

ศาลปกครอง 22 พ.ค.-“นรวิชญ์” ทีมทนาย “ยิ่งลักษณ์” เตรียมยื่นหลักฐานใหม่ ขอรื้อคดีจำนำข้าว หลังศาลสั่งอดีตนายกฯ ชดใช้ จีทูจี หมื่นล้าน หวังเอายอดขายข้าวแสนล้านหักหนี้ เพื่อไม่ต้องจ่ายเงิน วอนสังคมหยุดให้ร้าย ก่อนโชว์เนคไทอดีตนายกฯ

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้ได้รับมอบจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ว่าคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อเทียบกับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น มีส่วนหนึ่งที่เหมือนกัน คือ ตามคำสั่งของกระทรวงการคลังที่ 1351/59 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดในโครงการจำนำข้าวปีการผลิตที่ 2555/56 และ 2556/57 จำนวน 178,000 กว่าล้านบาท ให้รับผิดชอบ 20% คือ 35,717,273,028 บาท และคำพิพากษาของทั้ง 2 ศาลตรงกัน คือไม่ต้องรับผิด เพราะเป็นผลการคำนวณจากการขาดทุนทั้ง 2 โครงการ


นายนรวิชญ์ กล่าวว่าแต่ที่คำพิพากษาของศาลปกครองที่แตกต่างจากคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น คือ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดในขั้นตอนการระบายข้าวแบบจีทูจี เพราะเห็นว่ามีการทุจริต แต่อย่าลืมว่าขั้นตอนการระบายข้าวนั้นอยู่ในขั้นตอนของฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งมีคณะอนุกรรมการการระบายข้าวเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ซึ่งขณะนั้นมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน อย่างไรก็ตามศาลพิพากษาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์รับผิดชอบจำนวนหมื่นกว่าล้านบาท ถ้าจำได้เมื่อมีการรัฐประหารในวันที่ 22 พ.ค.2557 มีข้าวคงเหลือในคลังประมาณ 18.9 ล้านตัน ในส่วนนี้คำสั่งของกระทรวงการคลังข้างต้น บอกว่าถ้าทางราชการขายข้าวได้ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าที่อนุปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวคำนวณไว้ เมื่อ 22 พ.ค.2557 ก็สามารถนำมาหักทอนกับที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบได้

“ปัจจุบันข้าวจำนวนนี้ได้ขายไปหมดแล้วในรัฐบาลนี้ กิโลกรัมละ 25 บาท ถ้าขายจริงๆ จะได้เงินประมาณ 2.5 แสนล้านบาท และเมื่อนำมาหักทอนกันก็สามารถหักทอนกันได้กับเงินหมื่นล้านบาท ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะไม่ต้องชดใช้เลย อย่างไรก็ดีตนในฐานะทนายความ เห็นว่าการจำหน่ายข้าวส่วนนี้ถือว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งความจริงเราพยายามยื่นเข้าไปในคดีนี้แล้ว แต่การยื่นนั้นมันสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ศาลท่านจึงไม่ได้รับไว้ แต่ถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ ดังนั้นในเรื่องนี้ทีมทนายจะหารือกัน ว่าจะนำประเด็นนี้ไปขอพิจารณาคดีใหม่ได้หรือไม่ เราก็จะดำเนินการในส่วนนี้จนถึงที่สุด เพื่อขอความเป็นธรรมให้อดีตนายกฯ” นายนรวิชญ์ กล่าว


นานนรวิชญ์ ยังกล่าวว่าต้องมีการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ภายใน 90 วัน ตามมาตรา 75 พ.ร.บ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ซึ่งหากศาลไม่รับพิจารณาใหม่ก็สิ้นสุด แต่เราก็พยายามสู้ให้ท่านเต็มที่ เพื่อคืนความเป็นธรรม เบื้องต้นยังไม่ได้รายงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์

นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ข้าว 18.9 ล้านตันนั้น มีบางช่วงในรัฐบาลปี 2558-2562 มีการนำข้าวดีไปจัดเกรดขายเป็นข้าวเน่า ทำให้ตอนนั้นไม่ได้ราคา เพราะขายในกิโลกรัมละ 3-5 บาท ต่างจากที่กระทรวงพาณิชย์ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีว่าการ ขายได้ราคาถึงกิโลกรัมละ 18 บาท ได้เงินไปประมาณหมื่นล้านบาท แต่ยอดรวมที่ขายมาทั้งหมดกว่า 2 แสนล้านบาท

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่กระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลนี้ ขายข้าวเพื่อต้องการกลบหนี้ช่วยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามกลับว่า ใครเป็นคนซื้อ เอกชนเป็นคนซื้อ ซึ่งคงไม่มีใครเอาเงินมากลบ ถ้าคิดแบบตรรกกะธรรมดา


เมื่อถามถึงทรัพย์ทั้งหมดที่ถูกอายัดไว้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ทรัพย์ที่ยึด อายัด และขายไปเกือบหมดแล้ว ส่วนมูลค่านั้นตนจำไม่ได้ ซึ่งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้ยกคำสั่งกระทรวงการคลัง ในส่วนที่เกินหนึ่งหมื่นกว่าล้านบาทนั้น

เมื่อถามถึงส่วนที่ศาลกันส่วนทรัพย์สินของสามี น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอะไรบ้าง มีมูลค่าเท่าไหร่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่ากันส่วนเกือบทุกรายการ ถือว่าเป็นทรัพย์สินอะไรก็ตามที่ได้มาหลัง พฤศจิกายน 2538 ศาลให้กันส่วนทั้งหมด ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม

เมื่อถามย้ำว่า เมื่อหักลบกลบหนี้แล้ว ต้องมีส่วนที่ต้องคืนให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่าไหร่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ตอนนี้ทรัพย์ที่ยึดไปแล้วนั้น มีทั้งที่ยังอยู่ ที่ขายไปแล้ว ซึ่งส่วนที่เกินก็ต้องคืนแต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ และไม่มีกำหนดว่าต้องคืนให้ภายในกี่วัน ต้องไปว่ากันในส่วนของการบังคับคดี ซึ่งเป็นเรื่องที่คู่ความจำต้องไปดำเนินการ เบื้องต้นคือกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลัก กรมบังคับคดีเป็นคนยึดให้เท่านั้นเอง ตามคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่ขอดูรายละเอียดก่อนว่าจะยื่นต่อกระทรวงการคลัง หรือกรมบัคงคับคดี

“อยากฝากสื่อมวลชน และคนที่เชียร์ หรือไม่เชียร์ท่าน โปรดอย่านำประเด็นพวกนี้ไปให้ร้าย ใส่ร้ายท่าน เพราะผมสงสารท่าน ทั้งคดีอาญา และคดีในส่วนนี้ และโดนไปหมื่นกว่าล้านบาท ส่วนทนายความ ถ้ามีช่องทางทางกฎหมายที่จะสามารถทำได้ เราก็ยินดีที่จะสู้ เพื่อคืนคามเป็นธรรมให้ท่าน” นายนรวิชญ์

คำพิพากษานี้จะมีผลต่อการกลับเข้าประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายนรวิชญ์ กล่าวว่าไม่ทราบว่ามีผลหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะเดินทางกลับเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าพำนักอยู่ที่ไหน ในคดีแพ่งพวกนี้ไม่มีผลอะไร

ส่วนเรื่องนี้ต้องแจ้งต่อ นายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ เพราะก็เป็นห่วงเป็นใยเรื่องนี้ นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ท่านคงทราบจากข่าวแล้ว แต่ส่วนตัวไม่ได้คุยอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการสัมภาษณ์ นายนรวิชญ์ได้โชว์เนคไทสีน้ำเงินที่มีลายปักลายเซ็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกล่าวว่า เนคไท เส้นนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนซื้อให้ ตั้งแต่สมัยเป็นนายกฯ ตั้งใจใส่มาในวันนี้ ก็เพื่อระลึกถึง และแสดงให้เห็นว่าจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]