“โรม” ฉะรัฐบาลล่าช้า แก้ปมสารพิษปนเปื้อนแม่น้ำกก

รัฐสภา 22 พ.ค.- “โรม” จี้เรียงคน “นายกฯ-ภูมิธรรม-มาริษ” คุยจีนแก้ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก ถามทำไมคนไทยต้องรับชะตากรรมทั้งที่ไม่ได้ก่อ ฉะรัฐบาลล่าช้า ทำคนมองไร้น้ำยา แก้ปัญหาไม่ได้ แนะฟ้องศาล บอกอย่างน้อยเอามาเรียกค่าเสียหาย


นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึง ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก จังหวัดเชียงรายว่า คณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่ที่แม่น้ำกก พบสารหนูหนักที่สุด เกินกว่าค่ามาตรฐานจริงโดยเฉพาะบริเวณที่ไหลจากเชียงใหม่มาสู่เชียงรายจะมีความเข้มข้นมาก หากเรื่องนี้จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีเสนอให้ทำเขื่อน ตนไม่แน่ใจว่าเข้าใจผิดหรือมีคนมารายงานไม่ถูกต้องหรืออย่างไร จริงๆมีการเสนอให้ทำฝายไม่ใช่เขื่อน ซึ่งทำได้ตั้งแต่ฝ่ายชั่วคราวจนไปถึงฝายถาวร แต่อยู่ที่ว่าเราจะประเมินปัญหาว่าหนักแค่ไหนและจะกินระยะเวลาเท่าไหร่

ซึ่งการทำฝาย จะช่วยแก้ปัญหาไป ไม่ให้สารหนูกระจายไปยังแม่น้ำกกส่วนอื่นๆ รวมถึงแม่น้ำโขง แต่จะเกิดปัญหาตะกอนที่เกาะกับสารหนู และขั้นตอนต่อไปที่จะต้องทำคือดูดตะกอน เพื่อเอาไปบำบัดจัดการ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีศักยภาพที่จะทำได้เอง ต้องส่งไปที่จังหวัดสระบุรี ก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่จะต้องใช้ในการแก้ปัญหา


ดังนั้น จึงเกิดคำถามที่ว่าทำไมคนไทยถึงจะต้อง รับชะตากรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในแม่น้ำกก ทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นคนก่อ และไม่ได้เป็นคนที่ทำให้ปัญหานี้เกิดขึ้น ปัญหานี้มีสาเหตุมาจากการทำเหมืองทองฝั่งเมียนมาร์ จากกลุ่มว้า ซึ่งจากคลิปวีดีโอพบว่ามีการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างสิ้นเชิงมีการร่อนแร่โดยใช้แม่น้ำธรรมชาติ และไหลสู่แม่น้ำธรรมชาติโดยตรง

ดังนั้นปัญหาแม่น้ำกก เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นรุนแรง และบรรดาสารต่างๆ รวมทั้งสารหนู เกินกว่าค่ามาตรฐานหลายเท่าตัวไปแล้ว ความน่าเป็นห่วงจะยิ่งมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัว บรรดาสารหนูอาจจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ก็ได้ หรือหากเกิดอุทกภัยในลักษณะที่คล้ายๆกับแม่น้ำสายอาจจะเกิดการพัดดินโคลนที่หนักกว่าเดิมก็ได้ เพราะมีการขยายเหมือง

วันนี้ต้องยอมรับว่าประเทศไทยถ้าจะทำลำพังอย่างเดียว โดยที่เราไม่คุยกับชาวบ้านเขา กับเพื่อนบ้าน เราทำได้แค่ ลดปัญหาโดยการสร้างฝายเท่านั้น ซึ่งนี่อาจจะทำได้ใช้งบประมาณภาษีของประชาชน แต่ก็ต้องมีภาระในเรื่องของการบำบัดตลอดเวลา แต่ถ้าเราอยากให้ปัญหานี้จบ อย่างถาวร


“ประเทศไทยจะต้องดำเนินการพูดคุยหรือใช้มาตรฐานมาตรการใดๆกับทางกลุ่มว้า การที่นายภูมิธรรมออกมาบอกว่า ได้คุยกับเมียนมาร์แล้วและเมียนมาร์ก็บอกมาว่า ไม่มีอำนาจตรงนี้เพราะพื้นที่เป็นของทางว้า ผมคิดว่าการพูดปัดแบบนี้ ไม่ได้ทำให้ประชาชนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเลย สุดท้ายจนเชื่อว่ามีช่องทางมีวิธีการ วันนี้กลุ่มว้าเขาไม่เกรงใจประเทศไทย เขารู้สึกว่าประเทศไทยไร้น้ำยา ไม่จำเป็นต้องเชื่อฟัง ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคนไทยจะได้รับความเดือดร้อนอย่างไร ดังนั้นรัฐบาลนี้จะต้องทำให้ประชาชนคนไทยรู้สึกอุ่นใจปลอดภัย ที่มีรัฐบาลแบบนี้”นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลทำงานช้ามาก กับเรื่องปัญหาความมั่นคงโดยเฉพาะกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรงต่อชีวิตและอนามัยสุขภาพของประชาชน เบื้องต้นกรรมาธิการความมั่นคง ได้มีการติดตามเรื่องนี้และได้มีการเชิญผู้ว่าจังหวัดเชียงราย มาให้ข้อมูลที่จังหวัดเชียงราย แต่ตนก็ยังติดตามต่อซึ่งในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ อาจจะมีการพิจารณาในเรื่องนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าต่อไป

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อว่าในชั้นต้นเรื่องการสร้างฝาย ใช้งบประมาณไม่เยอะ แต่เราไม่ได้คิดว่าจะให้เป็นฝ่ายถาวร ซึ่งจากการพูดคุยทางจังหวัดน่าจะให้การสนับสนุน แต่ในระยะยาว ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ นั่นคือปัญหาเรื่องเหมืองทองกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของว้า

ทั้งนี้ ยังมองกันแก้ปัญหาของรัฐบาลว่า ล่าช้า ไม่ชัดเจน และไม่รู้ว่าจะเอายังไง ตอนนี้ไม่มีอะไรทั้งสิ้นอย่าว่าแต่ล่าช้าเลย ปัญหาแม่น้ำกกเป็นไปได้อย่างไรที่เราปล่อยให้ สารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่าตัวแล้ว รัฐบาลไม่ชัดเจน เพราะประชาชนต้องรู้แล้วว่า ต้องรอถึงเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ปัญหาสารหนูถึงจะจบ ไม่มีไทม์ไลน์ ไม่มีแผน และไม่รู้จะเอายังไง

“การที่คุณภูมิธรรม พูดออกมาชัดเจนว่าคุยกับเมียนมาแล้ว เมียนมาช่วยอะไรเราไม่ได้ แล้วยังไงประชาชนที่นั่นก็ต้องอยู่ๆกันไป เสียงทั้งในเรื่องของสุขภาพ การท่องเที่ยวที่ถูกทำลายเละเทะ เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้เสียหายทั้งระบบไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว เพราะทุกคนก็กลัวอันตราย สัตว์น้ำก็ไม่มีใครกล้าจับไปกิน วันนี้เราไม่ควรจะปล่อยให้พี่น้องประชาชน ลอยคอความช่วยเหลือ โดยที่ไม่รู้ว่าความช่วยเหลือนั้นจะมาเมื่อไหร่และมีความชัดเจนอย่างไร”นายรังสิมันต์กล่าว

เมื่อถามว่านายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมพูดคุย โดยพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลเมียนมา ถือว่าไปพูดคุยถูกจุดหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนขอแนะนำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายภูมิธรรม ว่าถ้าอยากเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้ ต้องคุยกับจีน เพราะจะเป็นทางออกที่จะเห็นว่าจีนมองปัญหาเรื่องนี้อย่างไร แต่ก็เชื่อว่าทางจีนไม่รับปากเต็มคำ แต่การที่ประเทศไทยแสดงจุดยืน ว่าเราเห็นปัญหาเรื่องนี้ร้ายแรง และเมื่อเราเห็นว่าจีนมีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร ประเทศไทยก็ต้องแสดงความจำนงว่าจะไม่นิ่งเฉย กับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และจะมีมาตรการจากเบาไปหาหนัก การแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเพื่อปกป้องพี่น้องประชาชนคนไทย มีความจำเป็นอย่างมากที่เราต้องการความเป็นผู้นำ จากรัฐบาลนี้ซึ่งเราแทบไม่เห็น

“ผมคิดว่ากุญแจสำคัญก็จะตรงกับภาคประชาชน ที่บอกว่าถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไร จะทำหนังสือถึงทางการจีนเองแล้ว ตนจึงคิดว่าภาคประชาชนยังรู้เลย ตอนนี้ถ้าประชาชนรู้ ทุกคนรู้ ฉะนั้นถ้าคุณต้องการที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้คุณต้องคุยกับรัฐบาล พี่เนปิดอไม่ได้ คุณอาจจะต้องคุยกับว้าคุณอาจจะต้องคุยกับจีน แล้วทำไมไม่ทำ จะมาบอกว่าว้าไม่ใช่รัฐ ใช่ ผมรู้ว่าว้าไม่ใช่รัฐและมีพฤติกรรมหลายอย่าง ที่ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มก่อการร้าย แต่ ณ วันนี้ปัญหา เกิดขึ้นร้ายแรงอย่างนี้ได้อย่างไร ประชาชนก็บอกว่า ถ้างั้นว่าไม่ใช่รัฐ วันนี้ เรามีรัฐที่ไม่เหมือนรัฐบาล เราจะอยู่กันอย่างไร วันนี้เป็นปัญหาความร้ายแรง และมองว่าคงจะต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นรูปประธรรมไม่ควรจะนิ่งเฉย เป็นอันขาด”นายรังสิมันต์กล่าว

เมื่อถามว่าหากปัญหาไม่ดีขึ้นจำเป็นต้องใช้กลไกการฟ้องร้องศาลระหว่างประเทศหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า จากตัวอย่างคดีในต่างประเทศ โดยดึงนักวิชาการเข้ามาที่มีข้อเสนอว่าควรจะมีการฟ้องร้อง ในทางการบังคับใช้ เพื่อเอาค่าสินไหมทดแทน เยียวยาชดเชยต่างๆไม่ได้เกิดขึ้น ง่ายในเร็ววัน แต่อย่างน้อยการฟ้องร้องให้เป็นคดี และอย่างน้อยให้มีคำพิพากษาออกมา ถ้าคำพิพากษาเป็นคุณกับประชาชนคนไทย วันข้างหน้าก็อาจจะเอาตรงนี้มาเรียกร้องความเสียหายได้ เพราะเราไม่รู้ว่าความเสียหายไม่ได้มีเฉพาะวันนี้
อาจจะต้องมีการใช้เงินงบประมาณ ต่างๆในการปรับปรุงสภาพแวดล้อม แม่น้ำกกให้มันดีด้วยก็ได้ สุดท้ายทุกทางคนไทยเดือดร้อน ไม่เดือดร้อนเรื่องสุขภาพก็เดือดร้อนจากการเอาภาษีของประชาชนไปใช้

“สุดท้ายอยากจะฝากว่า วันนี้เราเห็นปัญหาบ้านเมืองผมเองก็ไม่สบายใจ มันมีความขัดแย้งภายในรัฐบาล จนทำให้ผมรู้สึกว่าปัญหาหลายๆอย่างของประชาชน ไม่ได้รับการตอบสนอง กลายเป็นว่ารัฐบาลโฟกัสในเรื่องของความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งผมเข้าใจแต่การโฟกัส กับปัญหาในรัฐบาล ก็ต้องคิดถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้วย”นายรังสิมันต์กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย