รัฐสภา 22 พ.ค.- “โรม” ซัด “แพทองธาร” ควรทำตัวให้สมเป็นนายกฯ ปม ยอมรับพฤติกรรมซื้อขายงูเห่า ทำการเมืองเสื่อมทั้งระบบ ถามทำไมต้องซื้องูเห่าแบบไม่แคร์สัญญาประชาชน
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวว่รู้สึกไม่สบายใจ ที่ขณะนี้มีความขัดแย้งในรัฐบาล ทำให้ปัญหาของประชาชนหลายเรื่องไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะรัฐบาลโฟกัส ในเรื่องความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งตนก็เข้าใจ แต่ควรคิดถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการที่รัฐบาลพยายามส่งสัญญาณให้พรรคการเมืองบางพรรค ไปซื้องูเห่าและไปดึงตัวสส.อาจสร้างเสถียรภาพระยะสั้นให้กับรัฐบาล แต่เป็นการทำลายการเมืองอย่างเป็นระบบ และส่งผลกระทบระยะยาว และการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดอย่างชัดเจนว่าการซื้องูเห่าเหมือนเป็นการเปลี่ยนงานเหมือนเปลี่ยนที่ทำงานที่ใหม่ หากเปรียบให้พรรคการเมืองเป็นเหมือนบริษัทเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
” ในวันที่พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบ ก็โชว์แคมเปญไล่หนูตีงูเห่า แต่มาวันนี้ ถึงแม้มีงูเห่า ก็อยู่ร่วมกันได้ และให้หนูอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่ จึงคิดว่าการทำการเมืองเช่นนี้ เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด จึงอยากฝากถึงนางสาวแพทองธาร ว่า เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ควรดำรงตนให้สมกับเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วควรผลักดันให้สังคม โดยเฉพาะการเมืองในสภาและประชาธิปไตยให้เข้มแข็ง ตราบใดที่นักการเมืองสามารถเปลี่ยนพรรคไปมาได้ โดยไม่ต้องมีอุดมการณ์ เพียงแค่ขอให้มีผลประโยชน์ตอบแทนกันอย่างหนำใจ จะนำไปสู่การเมืองที่เลวทราม และไม่ได้เป็นการเมืองที่ดีสำหรับสังคมไทยแน่นอน” นายรังสิมันต์กล่าว
สำหรับการปะทะเดือดในโซเชียลระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยนั้น เหมือนเป็นการตีปิงปองกันไปมาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องตีปิงปอง เป็นเรื่องที่ทุกคนไปคิดกันเอง แต่ขอยืนยันว่าการพูดของ นายกรัฐมนตรี เหมือนเป็นการรับรองว่าการซื้องูเห่าสามารถทำได้ แต่ถ้าหากนายกรัฐมนตรีมองว่ารับไม่ได้กับการซื้องูเห่า อาจมีการชะลอการซื้อตัวสส. ลง และแนวโน้มเรื่องดูดงูเห่าอาจจะชะลอลง เพราะไม่ได้รับประกันว่าทำไปจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี
“เพราะคนที่คิดเรื่องนี้ ว่าทำไปอาจจะไปแลกตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะดูดงูเห่าทุกวันนี้เหมือนการสะสม สส. และไปแลกตำแหน่งรัฐมนตรี นั่นหมายความว่าตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะความสามารถ ไม่ต้องสนใจเลือกตั้งไม่ต้องสนใจเจตจำนงของประชาชน ไม่ต้องสนใจ คำสัญญาและการเมืองที่ประชาชนอยากเห็น เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็ใช้เงินทอง ซื้อสัญญาใจไปดูด สส.กันมา แล้วเอาไปแลกรัฐมนตรี ทำการเมืองแบบนี้ประเทศไทยจะอยู่อย่างไรทุกอย่างมีราคามีมูลค่า ไม่มีสมการของประชาชนอยู่ข้างในเลย” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในพรรคเพื่อไทยเดือดร้อน หรือเจ็บปวดก็โชว์แคมเปญไล่หนูตีงูเห่า แต่วันนี้ตีแต่หนูงูเห่าเก็บไว้
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยบอกว่าที่สส.ย้ายพรรคเพราะปัญหาภายของพรรคประชาชนเองนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคงไม่รู้ว่าภายในพรรคประชาชนเป็นอย่างไร พรรคประชาชนพยายามทำการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเงินเดือนและ ผลประโยชน์ให้กับสส. ดังนั้นสมาชิกในพรรคต้องทำงาน เสียสละตัวเองเพื่อการเมืองที่อยากเห็นด้วยซ้ำไป แต่ยอมรับว่าสส.บางคนอาจไม่ได้มีความเข้มแข็ง ทางความคิดความเชื่อ
ทั้งนี้นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้นจึงเป็นปัญหาของนักการเมืองคนนั้น และเป็นปัญหาของผู้ที่มาจูงใจ เมื่อมีสัญญาเกิดขึ้น ก็ยอมรับว่าเกิดปัญหางูเห่า แต่พรรคก็พยายามคัดกรองและทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ปัญหางูเห่าทุเลาลง และคิดว่ามาถูกทาง และต้องหาวิธีการปรับปรุงต่อไปพรรคน้อมรับ คำติชมจากทุกฝ่ายแต่ขอตั้งคำถามกลับไปว่าทำไมต้องมีผู้ซื้องูเห่า และคนเหล่านี้ไม่ต้องไปแคร์ภาพลักษณ์ หรือคำสัญญากับประชาชน ตนคิดว่าการเมืองแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน.-312 -สำนักข่าวไทย