“มาริษ” ชี้ไม่ต้องกังวล ลุยปัญหาสารปนเปื้อน “แม่น้ำกก”

ทำเนียบ 21 พ.ค.-“มาริษ” ชี้ไม่ต้องกังวล รัฐบาลเดินหน้าเจรจาทุกฝ่าย แก้ปัญหาสารปนเปื้อน “แม่น้ำกก” เตรียมใช้เวที “อาเซียน” สางปัญหา พร้อมเร่งแก้ปัญหายาเสพติด เข้มงวดจัดระเบียบชายแดน

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเกี่ยวเนื่องมาจากความไม่สงบในประเทศเมียนมา ครั้งที่ 2 ว่า ได้ย้ำให้หน่วยงานพิจารณา ให้ความสำคัญอย่างเต็มที่กับเป้าหมาย 2-3 ประการ


คือ ต้องการเห็นการยุติความรุนแรง จากการสู้รบในเมียนมา และ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะต้องไม่ส่งผลกับคนไทย นี่เป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล และทั้งหมดต้องเป็นไปตามกรอบความร่วมมือที่ประเทศไทยและอาเซียนได้ตั้งไว้ร่วมกันและหาทางแก้ไขไปตามนั้น นอกจากนี้ยังต้องป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีผลกระทบกับประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งเรามีการพูดถึงเรื่องออนไลน์สแกม ยาเสพติด หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการ 3 ตัด ก็ถือว่าได้ผลในระดับหนึ่ง และมีการปรับแผนที่จะดำเนินการต่อไป เพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไข ชัดเจนมีผลเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันได้เร่งปัญหาการข้ามแดนที่ส่งผลกระทบกับประชาชน รวมถึงสารปนเปื้อนที่เกิดขึ้นในแม่น้ำกก ซึ่งทุกหน่วยได้บูรณาการ ร่วมกันโดยกระทรวงต่างประเทศได้พูดคุยกับ อู ตาน ส่วย รองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา เรื่องการแก้ปัญหาสารผิดในแม่น้ำ และการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม ที่ต้องมีการขุดลอกแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก ที่ต้องร่วมมือกัน

ทั้งนี้ ปัญหาสารพิษในแม่น้ำกก นอกจากตนได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมาแล้ว สถานทูตไทยในกรุงย่างกุ้งได้คุยกับกระทรวงต่างประเทศเมียนมา และกระทรวงการต่างประเทศของไทย ยังได้พูดคุยกับทูตเมียนมาในไทยด้วย


เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็มีการพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อคนไทย ซึ่งการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ก็ต้องมีการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา โดยมุ่งเน้นเรื่องการศึกษาให้กับเด็กและกลุ่มเปราะบางได้เรียนรู้ภาษาไทยด้วย เพื่อติดต่อสื่อสารและใช้ชีวิตร่วมกันบริเวณชายแดน รวมถึงปัญหาสาธารณสุข

อย่างไรก็ตาม ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อป้องกันโรคติดต่อข้ามแดน ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือนอกเหนือจากระบบทวิภาคี

นายมาริษ ยังกล่าวด้วยว่า จะมีการเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขัน การจัดระเบียบในพื้นที่ชายแดนให้มากขึ้น เพื่อป้องกัน ไม่ให้มีการสนับสนุนการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยคณะ กรรมการอำนวยการขับเคลื่อนและป้องกันแก้ไขภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ปชด. ที่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน ก็จะเป็นกลไกหลักในการบังคับใช้และควบคุมเพื่อจัดระเบียบในพื้นที่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามแผน ขณะที่การปราบปรามยาเสพติดจะเข้มงวดมากขึ้น โดยจะควบคุมสารทั้งหลายซึ่งไม่ใช่แค่สารตั้งต้นและบูรณาการปราบปรามจับกลุ่มยาเสพติดให้มากขึ้น


เมื่อถามว่า แนวโน้มต้นทางของการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำมาจากชนกลุ่มน้อย ซึ่งการเจรจาในระดับรัฐบาลทหารเมียนมา จะมีผลสัมฤทธิ์แค่ไหน นายมาริษ กล่าวว่า อย่างที่บอกเราต้องบูรณาการ ตนไม่ได้คุยเฉพาะเมียนมา แต่มีการคุยหลายกลุ่ม เพราะผู้ที่เข้าไปทำงานก็ไม่ใช่คนเมียนมา ซึ่งตนก็เข้าใจเรื่องนี้ แต่ขอให้พูดคุยให้ชัดเจนก่อน ส่วนเรื่องผลจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง พร้อมยืนยันไม่ต้องกังวล เพราะตนเข้าใจปัญหาดี

ทั้งนี้ในห้วงของการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 46 จะจัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ก็จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพูดคุยด้วย ซึ่งต้องให้ประเทศมาเลเซีย ที่เป็นประธานอาเซียน ได้มีบทบาทร่วมกับไทย และต้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยด้วยกันทั้งหมด เช่น ชนกลุ่มน้อย ผ่านกรอบของอาเซียน.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย ยัน “คนละครึ่ง” เริ่ม ต.ค.นี้

ทำเนียบ 26 ก.ย.-นายกฯ ร้องโหย ไม่มีวอร์รูมแถลงนโยบาย มีแต่เลิฟรูม ยัน “คนละครึ่ง” เริ่มทันที ต.ค.นี้ โยน รมว.คลัง แจงรายละเอียด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง 29-30 กันยายนนี้ ว่า ร่างสุดท้ายมา 100% แล้ว เมื่อถามว่า จะมีการตั้งวอร์รูมหรือไม่ นายอนุทิน ร้องโหย ก่อนจะบอกว่า “ไม่มีหรอกวอร์รูม มีแต่เลิฟรูม” เมื่อถามถึงนโยบายโครงการ “คนละครึ่ง” จะสามารถเริ่มได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี พยักหน้ารับ พร้อมระบุว่า ภายในเดือนตุลาคม แต่ขอให้ไปถามรายละเอียดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง.-319.-สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]