“อนุทิน” มอบนโยบายรับมือสถานการณ์น้ำ ย้ำบูรณาการทำงานร่วมกัน

อยุธยา 21 พ.ค. – “อนุทิน” มอบนโยบายรับมือสถานการณ์น้ำ ย้ำผู้ว่าฯ-ทุกภาคส่วน บูรณาการทำงานร่วมกันใกล้ชิด บอกอย่ากลัว สตง.ตรวจสอบ หากจำเป็นต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ เหตุทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม และมอบนโยบาย การเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนสาธารณภัยในระดับพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้บริหารกระทรวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สส. สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และชลประทานพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วม


นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้ประชุมเตรียมการมาในระดับหนึ่ง เพราะเชื่อว่าอุทกภัย และภัยพิบัติทางธรรมชาติในปีนี้น่าจะมาในระดับหนึ่ง เราจะใช้องคาพยพที่มีลดความเดือดร้อน ลดผลกระทบให้ประชาชนทั่วประเทศ เราร่วมมือโดยตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญเรามีโมบายวอร์รูมที่เคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆตามสถานการณ์ โดยติดตามสถานการณ์น้ำ และสภาพอากาศในเวลาที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ข้อมูลน้ำระดับจังหวัดที่เตรียมพร้อมขยายผลให้ครบ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าเราขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านนโนบาย เทคโนโลยี นวัตกรรม และด้านงบประมาณ

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเข้าฤดูฝนเมื่อวันที่ 15 พ.ค. คาดการณ์เฉลี่ยฝนอาจเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และจะมีพายุหมุนเขตร้อนเข้าไทยหลายลูก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาค และภาคอีสาน ส่งผลให้ฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ตนในฐานะผู้บัญชาการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มีหนังสือให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยในฤดูฝนปีนี้เรียบร้อยแล้ว โดยให้ทุกหน่วยงานจะบูรณาการสร้างความร่วมมือเต็มที่ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันทุกระดับในการแก้ปัญหาให้ประชาชน


นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานส่วนกลาง ขอให้ ปภ. ประสานทำงานร่วมกับ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) ขณะที่ นโยบายระดับจังหวัดให้ผู้ว่าราชจังหวัด แสวงหาความร่วมมือทำงานร่วมกองอำนวยการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่มีผู้ว่าฯเป็นประธาน และขอให้จังหวัด และอำเภอ ติดตามสถานการณ์น้ำในฤดูฝนอย่างใกล้ชิด

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าฯ เตรียมพร้อมเครื่องมือเครื่องจักรให้พร้อมใช้งาน ถ้าเป็นไปได้หากมีการซักซ้อมจะเป็นเรื่องที่ดี เพื่อที่เมื่อเกิดเหตุจะได้ใช้งานได้ทันท่วงที รวมถึงการสื่อสารต้องแม่นยำ เมื่อเผขิญเหตุขอให้ผู้ว่าฯ ดำเนินงานผ่านองคาพยพของท่าน เมื่อถึงเวลาต้องหัวชนกันแล้วทำงาน ถ้าร่วมมือกันเต็มที่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ เมื่อถึงเวลาผู้ว่าฯต้องตัดสินใจประกาศภัยพิบัติ งบฉุกเฉินมีทุกหน่วยงาน สามารถเตรียมเรือท้องแบน เตรียมขุดลอกหรือเตรียมพร้อมด้านอื่นๆได้​ ถุงยังชีพ​ ค่าอาหารต่างๆ​ ท่านต้องดูว่าอำนาจหน้าที่การประกาศภาวะฉุกเฉินแต่ละครั้ง แต่ต้องกล้าที่จะประกาศตามอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมาย และตามขั้นตอน ไม่ต้องกลัวที่จะถูกตรวจสอบ เพราะคนตรวจสอบก็ถูกตรวจสอบอยู่​ ตึกหายไปทั้งตึก​ ไม่ต้องห่วงหรอก​ เพราะ​ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาที่ดี​ การที่ไม่กล้านำงบมาใช้เพียงเพราะกลัวสตง.มาตรวจสอบ เพราะท่านก็มาทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่เขาบอกว่าซื้อถุงยังชีพได้ราคาไม่เกิน 700 บาท เปิดถุงยังชีพมาเจอของไม่กี่อย่าง เพราะเราม่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้ ไม่ใช่ว่าเรามาเอาหน้า

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่าพวกเราต้องทำงานร่วมกันและเราจะสนับสนุนกันและกัน งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ฝากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกท้องถิ่น ทั้งหลายฝากชื่นชมชาวบ้านว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยชื่นชม ศรัทธาท่านเสียสละเป็นผู้รับน้ำ ซึ่งคำว่า ทุ่งรับน้ำ คือสิ่งที่ข้าราชการพูดกันเอง แต่จริงๆแล้วมันคือที่ดินของชาวบ้าน ๆ สามารถยืนประท้วงไม่ให้เอาน้ำเข้าในพื้นที่ก็ได้ แต่ไม่เคยมีใครทำเช่นนี้ ยินดีให้มีการผ่านน้ำเข้ามาเพื่อรองรับน้ำไม่ให้ไปท่วมพื้นที่อื่นๆ นี่คือความเสียสละอย่างใหญ่หลวง นี่คือการปิดทองหลังพระ อย่างไรก็ตาม สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยและ ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมีการช่วยเหลือจำเพาะเจาะจงกับบุคคลเหล่านี้ที่ยอมเสียสละพื้นที่มารับน้ำ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนชีวิตสำคัญที่สุด ประชาชนไม่มีใครอยากทิ้งบ้าน แต่ทุกคนก็หวงของ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องทำอย่างไร ถ้าหากมีมิจฉาชีพมาทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ต้องมีการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยดูแล เพื่อให้ประชาชนกล้าที่จะทิ้งบ้านชั่วคราวออกไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ชีวิตต้องสูญเสียไม่ได้ ต้องมีการวางแผนไว้ให้ดีเพราะน้ำเชี่ยว บ้านริมทางน้ำ ต้องมีตาข่ายในการพัดตกของเด็ก และของผู้ที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที.-319​.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย