“อนุทิน” มอบนโยบายรับมือสถานการณ์น้ำ ย้ำบูรณาการทำงานร่วมกัน

อยุธยา 21 พ.ค. – “อนุทิน” มอบนโยบายรับมือสถานการณ์น้ำ ย้ำผู้ว่าฯ-ทุกภาคส่วน บูรณาการทำงานร่วมกันใกล้ชิด บอกอย่ากลัว สตง.ตรวจสอบ หากจำเป็นต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ เหตุทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม และมอบนโยบาย การเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนสาธารณภัยในระดับพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดี ผู้บริหารกระทรวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สส. สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และชลประทานพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วม


นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้ประชุมเตรียมการมาในระดับหนึ่ง เพราะเชื่อว่าอุทกภัย และภัยพิบัติทางธรรมชาติในปีนี้น่าจะมาในระดับหนึ่ง เราจะใช้องคาพยพที่มีลดความเดือดร้อน ลดผลกระทบให้ประชาชนทั่วประเทศ เราร่วมมือโดยตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญเรามีโมบายวอร์รูมที่เคลื่อนย้ายไปเรื่อยๆตามสถานการณ์ โดยติดตามสถานการณ์น้ำ และสภาพอากาศในเวลาที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ข้อมูลน้ำระดับจังหวัดที่เตรียมพร้อมขยายผลให้ครบ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าเราขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านนโนบาย เทคโนโลยี นวัตกรรม และด้านงบประมาณ

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเข้าฤดูฝนเมื่อวันที่ 15 พ.ค. คาดการณ์เฉลี่ยฝนอาจเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และจะมีพายุหมุนเขตร้อนเข้าไทยหลายลูก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาค และภาคอีสาน ส่งผลให้ฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ตนในฐานะผู้บัญชาการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มีหนังสือให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยในฤดูฝนปีนี้เรียบร้อยแล้ว โดยให้ทุกหน่วยงานจะบูรณาการสร้างความร่วมมือเต็มที่ เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันทุกระดับในการแก้ปัญหาให้ประชาชน


นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานส่วนกลาง ขอให้ ปภ. ประสานทำงานร่วมกับ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) ขณะที่ นโยบายระดับจังหวัดให้ผู้ว่าราชจังหวัด แสวงหาความร่วมมือทำงานร่วมกองอำนวยการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ที่มีผู้ว่าฯเป็นประธาน และขอให้จังหวัด และอำเภอ ติดตามสถานการณ์น้ำในฤดูฝนอย่างใกล้ชิด

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าฯ เตรียมพร้อมเครื่องมือเครื่องจักรให้พร้อมใช้งาน ถ้าเป็นไปได้หากมีการซักซ้อมจะเป็นเรื่องที่ดี เพื่อที่เมื่อเกิดเหตุจะได้ใช้งานได้ทันท่วงที รวมถึงการสื่อสารต้องแม่นยำ เมื่อเผขิญเหตุขอให้ผู้ว่าฯ ดำเนินงานผ่านองคาพยพของท่าน เมื่อถึงเวลาต้องหัวชนกันแล้วทำงาน ถ้าร่วมมือกันเต็มที่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ เมื่อถึงเวลาผู้ว่าฯต้องตัดสินใจประกาศภัยพิบัติ งบฉุกเฉินมีทุกหน่วยงาน สามารถเตรียมเรือท้องแบน เตรียมขุดลอกหรือเตรียมพร้อมด้านอื่นๆได้​ ถุงยังชีพ​ ค่าอาหารต่างๆ​ ท่านต้องดูว่าอำนาจหน้าที่การประกาศภาวะฉุกเฉินแต่ละครั้ง แต่ต้องกล้าที่จะประกาศตามอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมาย และตามขั้นตอน ไม่ต้องกลัวที่จะถูกตรวจสอบ เพราะคนตรวจสอบก็ถูกตรวจสอบอยู่​ ตึกหายไปทั้งตึก​ ไม่ต้องห่วงหรอก​ เพราะ​ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาที่ดี​ การที่ไม่กล้านำงบมาใช้เพียงเพราะกลัวสตง.มาตรวจสอบ เพราะท่านก็มาทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่เขาบอกว่าซื้อถุงยังชีพได้ราคาไม่เกิน 700 บาท เปิดถุงยังชีพมาเจอของไม่กี่อย่าง เพราะเราม่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้ ไม่ใช่ว่าเรามาเอาหน้า

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่าพวกเราต้องทำงานร่วมกันและเราจะสนับสนุนกันและกัน งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ฝากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกท้องถิ่น ทั้งหลายฝากชื่นชมชาวบ้านว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยชื่นชม ศรัทธาท่านเสียสละเป็นผู้รับน้ำ ซึ่งคำว่า ทุ่งรับน้ำ คือสิ่งที่ข้าราชการพูดกันเอง แต่จริงๆแล้วมันคือที่ดินของชาวบ้าน ๆ สามารถยืนประท้วงไม่ให้เอาน้ำเข้าในพื้นที่ก็ได้ แต่ไม่เคยมีใครทำเช่นนี้ ยินดีให้มีการผ่านน้ำเข้ามาเพื่อรองรับน้ำไม่ให้ไปท่วมพื้นที่อื่นๆ นี่คือความเสียสละอย่างใหญ่หลวง นี่คือการปิดทองหลังพระ อย่างไรก็ตาม สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยและ ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมีการช่วยเหลือจำเพาะเจาะจงกับบุคคลเหล่านี้ที่ยอมเสียสละพื้นที่มารับน้ำ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนชีวิตสำคัญที่สุด ประชาชนไม่มีใครอยากทิ้งบ้าน แต่ทุกคนก็หวงของ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องทำอย่างไร ถ้าหากมีมิจฉาชีพมาทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ต้องมีการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยดูแล เพื่อให้ประชาชนกล้าที่จะทิ้งบ้านชั่วคราวออกไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ชีวิตต้องสูญเสียไม่ได้ ต้องมีการวางแผนไว้ให้ดีเพราะน้ำเชี่ยว บ้านริมทางน้ำ ต้องมีตาข่ายในการพัดตกของเด็ก และของผู้ที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที.-319​.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]

นายกฯ นำทีมไทยแลนด์ถึงลอนดอนแล้ว จ่อพบเจ้าของค่ายมวยไทย

สหราชอาณาจักร 21 พ.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ นำทีมไทยแลนด์เดินทางถึงลอนดอนแล้ว เตรียมพบเจ้าของค่ายมวยไทยยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ พร้อมร่วมกันผลักดันศิลปะมวยไทยให้เป็นสินค้า “เมดอินไทยแลนด์” พร้อมพบผู้บริหารซูเปอร์สโตร์ หารือเปิดตลาดขยายโอกาสสินค้าและซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้กระจายทั่วยุโรป เวลา 10.00 น. กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางถึง ท่าอากาศยาน Heathrow กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อร่วมประชุมหารือทีมไทยแลนด์ ส่งเสริม สินค้าและบริการไทย ผลักดัน Soft Power กีฬาไทย ขยายตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของไทย ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 14.45 น. ตรงกับเวลา 20.45 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเข้าพบกับเจ้าของและผู้บริหาร ร่วมทั้งครูผู้ฝึกสอนค่ายมวยไทย […]

ลุ้นพรุ่งนี้ ศาลปกครองนัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” คดีทุจริตจำนำข้าว

ศาลปกครอง 21 พ.ค.-ลุ้นบ่ายพรุ่งนี้ ศาลปกครองสูงสุด นัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” ต้องชดใช้เงิน 35,717 ล้านบาท คดีทุจริตจำนำข้าวหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด นัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด […]