“จตุพร” เชื่อ 13 มิ.ย. ชี้ชะตาการเมืองไทย

17 พ.ค.- “จตุพร” เชื่อ 13 มิ.ย.นี้ ศาลนัดไต่สวน “ทักษิณ” จะชี้ชะตาการเมืองไทย มอง “นายกฯ แพทองธาร” เวลาใกล้หมด


วันนี้ (17 พฤษภาคม ) นายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงเรื่องศาลนัดไต่สวนนายทักษิณ ชินวัตร ในวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน กรณีการรักษาตัวที่ชั้น 14 ว่า ถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะมีความเห็นแย้ง ก็ต้องแย้งภายใน 15 วัน ก็คือภายในวันที่ 30 พฤษภาคม ขณะเดียวกันทางด้านผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และหมอใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ต้องทำคำชี้แจงภายใน 30 วัน อีกทั้งทางด้านของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อัยการ และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ก็ต้องทำคำชี้แจงเช่นเดียวกัน โดยทุกอย่างจะไปบรรจบกันวันที่ 30 พฤษภาคม

นอกจากนี้ศาลยังออกหมายเรียกให้กับบุคคลที่ศาลยังมีข้อสงสัยเพื่อนำไปไต่สวน เช่นมีการปิดหมายคุณทักษิณแล้ว แปลว่าคุณทักษิณต้องไป แต่คดีที่เป็นคดีทุจริตคอรัปชั่น แม้ว่าไม่ไป ศาลยังมีอำนาจพิจารณาลับหลังได้ และจากประสบการณ์ของตนการพิจารณาในลักษณะแบบนี้วันเดียวจบก็ได้ ตนขอเตือนไปยังกระทรวงสาธารณสุขว่า ให้ไปดูจำนวนเสียงที่แพทยสภาเคยออกมาแถลงว่ามติเป็นเสียงส่วนใหญ่”มาก มาก” แปลความว่าเกือบเอกฉันท์ หากคุณสมศักดิ์ เทพสุทินเห็นแย้ง เขาจะแย้งด้วยเรื่องอะไร


นายจตุพร กล่าวต่ออีกว่า ตามคำสัมภาษณ์ของหมอใหญ่นั้น โกหกมาตั้งแต่วันแรก ที่บอกว่าก่อนที่คุณทักษิณจะมาโรงพยาบาล อาจารย์หมอของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ทำการรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่เนื่องจากบุคลากรและอุปกรณ์น้อย จึงส่งมาโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งให้การขัดกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ได้พูดไว้ว่าเป็นเพียงเวรพยาบาล ไม่มีคุณหมอใดเข้ามาตรวจหรือรักษา เหตุก็คือว่าเพราะไม่ได้วางแผนอย่างแนบเนียน เนื่องจากไม่คาดคิดว่าในการยื่นถวายฎีกา ซึ่งปกติทั่วไปนั้นเขาจะยื่นเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษทั้งหมด ไม่มีใครขอเหลือ 1 ปี แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการลดเหลือ 1 ปี จาก 8 ปี ทุกอย่างจึงลวนไปหมด

ประเด็นที่สำคัญหากคุณทักษิณ ถูกศาลสั่งจำคุก การเมืองก็เปลี่ยนอีกแบบ คุณทักษิณไม่ไปศาลออกนอกประเทศอีกรอบ การเมืองก็เปลี่ยนอีกแบบ “ปัญหาอยู่ที่ว่าจะกวาดแบบพายุธรรมดา หรือจะกวาดแบบสึนามิ ถ้ากวาดแบบสึนามิ คำร้องเรื่องรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ก็ไปทั้งรัฐบาล ทั้ง สส. สว. รัฐธรรมนูญมาตรานี้เขาบัญญัติไว้ว่า ในการทำงบประมาณรายจ่ายห้ามไปแตะเงินต้น ดอกเบี้ย และเงินที่กฎหมายกำหนด ปรากฏว่าไปแตะทั้งสามข้อ เพื่อเอาเงินหมื่นมาแจก โทษก็คือให้พ้นจากตำแหน่ง ตัดสิทธิ์ทางการเมือง และต้องชดใช้ แบบนี้เรียกกวาดทั้งกระดาน ปัจจัยการเมืองอยู่ที่คุณทักษิณวันที่ 13 มิถุนายน ว่าอยู่หรือไป นั่นจะเป็นคำตอบของทางการเมืองนับจากนี้ไป” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร บอกอีกว่า ส่วนจะมองว่ากระดานออกด้านไหน โดยส่วนตัวที่ตนรู้จักกับคุณทักษิณมา 29 ปี ถ้าเขาเป็นคนกล้าเดินเข้าเรือนจำด้วยความสง่างาม เขาไม่มีวันหลบหนีถึง 17 ปี ไม่มีคนไทยคนไหนไล่เขาออกนอกประเทศ และไม่มีคนไทยคนไหนห้ามเขาเข้าประเทศ เขาไม่เข้าเองเพราะกลัวจะติดคุก เพราะฉนั้นเป็นคำตอบกันพอสมควร ตนหวังว่าครั้งนี้เขาจะใช้ความกล้าหาญเป็นครั้งแรก เดินเข้าเรือนจำด้วยความสง่างาม ลูกน้องเขาและนักเคลื่อนไหวจำนวนมาก ไปตายในคุกก็มีนอกจากในสนามรบ ทำไมคนที่เป็นหัวหน้าจึงกลัวตาย ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว


มองเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองสีน้ำเงิน และสีแดง ในขณะนี้อย่างไร นายจตุพร ตอบว่า เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว มันเป็นความรักที่ผิดธรรมชาติมาตั้งแต่ต้น ปลาคนละน้ำ หาเสียงด่ากันเกือบตาย แต่ยอมหักหลังประชานข้ามขั้วมา เมื่อมากันคนละทางจะอยู่กันได้อย่างไร จะเห็นได้ชัดเจนว่าความขัดแย้งนี้เป็นรักที่เลือกไม่ได้ ถ้าจะแยกตัวกันเสียงก็ปริ่ม และงบประมาณรายจ่ายปี 2569 ที่จะเข้าสภานั้นก็เป็นเดิมพันสูง ถ้าไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร นายกฯไม่ยุบสภาก็ลาออก ส่วนไม่ผ่านวุฒิสภายังไม่เคยมีประเพณี แต่เห็นว่าอยู่ยาก เรื่องบ่อนกาสิโนมันกลายเป็นเรื่องเดิมพันใหญ่ และเรื่องฮั้วสว.ก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ตนพูดมาแต่ต้นว่ากติกาแบบนี้หากไล่ตรวจสอบทั้ง 200 คน จะเจอตอนไหนตอนหนึ่งก็เท่านั้นเอง ความจริงควรเปลี่ยนกติกาเสียใหม่

“เชื่อว่าเวลาของคุณอุ๊งอิ๊งคงใกล้เต็มทีแล้ว ถ้าพ่อยังอยู่คุณอุ๊งอิ๊งก็ยังอยู่ แต่พ่อไม่อยู่ก็ไปตามพ่อน่ะแหละ หมายความว่า คุณอุ๊งอิ๊งเป็น 1 ใน 10 คน ที่ไปเข้าเยี่ยมก็เข้าข่ายร่วมในการปกปิด เป็นการช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้รับโทษทางอาญา เข้าข่ายจริยธรรมทางการเมือง ยาวไปไกลอีกหลายม้วน ไม่นับเรื่องราวอื่นๆที่จ่อรอกันหมด คือการเป็นนายกประเทศไทยเหมือนขึ้นลานประหาร ปัญหาอยู่ที่ว่าคุณจะลงก่อนถูกประหาร หรือว่าถูกประหารก่อนลงเท่านั้นเอง” นายจตุพร กล่าว -420 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย

ฝากขังทิดแย้ม

ฝากขัง-ค้านประกัน “ทิดแย้ม” และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พร้อมพวกอีก 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คดียักยอกเงินวัดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” และหญิงคนสนิทออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน โดยทั้ง 2 มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่การสอบปากคำทั้งคู่ ยังคงให้การภาคเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้คัดค้านการประกันตัว ทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหาย จำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ยื่นขอประกันตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” เช่นเดียวกับหญิงคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย