“เท้ง” แนะตรวจสอบปม สว. ตรงไปตรงมา อย่าอิงการเมือง

17 พ.ค.- “เท้ง” ขอให้ผู้มีอำนาจตรวจสอบกรณี สว. อย่างตรงไปตรงมา อย่าอิงแต่การเมือง ชี้ สส.กฤษฏิ์ ตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลาง ปัญหาไม่ใช่พรรคประชาชน พร้อมย้ำชัดไม่มี สส.พรรคไหลออกเพิ่มแน่นอน


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้ความเห็นประเด็นทางการเมืองระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงินว่า ตนอยากให้รัฐบาลรวมถึงผู้มีอำนาจรัฐทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา อย่างประเด็นของการตรวจสอบที่มาของสมาชิกวุฒิสภา อยากให้เดินหน้าตามพยานหลักฐานต่างๆที่มี และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้ากระบวนการได้มาซึ่งสว.ไม่ได้โปร่งใสตรงไปตรงมาตามเจตนารมณ์ของทางรัฐธรรมนูญ ก็อยากให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้มีการเร่งเครื่องหรือดำเนินการใดๆ ส่วนจะเป็นสงครามระหว่างสีเสื้อในพรรคร่วมหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการมากกว่าคือการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุด

กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ทั้งสังคม รวมถึงตนเองก็ตั้งข้อสังเกตได้บางอย่างว่ามีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ที่ค่อนข้างพิเศษ เนื่องจากสั่งให้รัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการควบคุมเฉพาะ DSI หรือบางหน่วยงาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเราได้ตั้งคำถามมาโดยตลอดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราไม่อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นองค์กรอิสระ สามารถเขียนคำวินิจฉัยใดๆเพื่อสร้างส่วนต่อขยายของรัฐธรรมนูญได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือมุมมองในภาพใหญ่ เราเองก็ต้องพยายามเดินหน้าในการออกแบบและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำยังไงให้องค์กรอิสระต่างๆใช้อำนาจที่เป็นไปตามหลักสากลมากยิ่งขึ้น สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ ถ้าสิ่งที่เราตั้งสมมติฐานว่าเป็นเกมส์ระหว่างการเมืองที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลใช้อำนาจรัฐในการห้ำหั่นกันเองจริง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เชื่อว่าเสถียรภาพของรัฐบาลก็อาจจะมีปัญหา


ส่วนความคืบหน้านางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ที่แสดงออกเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะออกจากพรรค ตอนนี้ทางพรรคก็ดำเนินการทุกอย่าง เดินหน้าเต็มที่ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการร่างหนังสือส่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ตีความว่าหนังสือที่คุณกฤษฎิ์ยื่นต่อกรรมการบริหารพรรคมา ถือเป็นหนังสือลาออกหรือไม่ ส่วนในทางปฏิบัติ สิทธิต่างๆที่คุณกฤษฎิ์จะได้รับอย่างเช่น การเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการวิสามัญต่างๆ สิทธิในการหารือต่างๆ ที่เป็นโควต้าของพรรค จะตัดออกทุกกรณี

อีกทั้งที่มีการเปรยมาจากทางด้านของพรรคกล้าธรรมว่าการไม่ขับออกก็ไม่เป็นไร สามารถทำงานได้ ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างย้อนแย้งกับเจตจำนงค์ของรัฐธรรมนูญ แต่ตนเชื่อว่าคนร่างรัฐธรรมนูญเองไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะมีกรณีสส.งูเห่าแบบนี้ ที่มีการซื้อหรือดูดตัวสส.ข้ามพรรค โดยมีการบีบบังคับให้พรรคต้นสังกัดขับออก โดยที่เขาไม่ต้องยื่นหนังสือลาออกเอง เพราะฉนั้นตรงนี้ถือเป็นช่องว่างช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าประชาชนไม่ได้อยากเห็นสภาพแบบที่เป็นอยู่ที่คุณกฤษฎิ์เองสังกัดพรรคประชาชน แต่กลับจะดำเนินการทุกอย่าง อย่างเช่นการโหวดสวนในอนาคต หรือการดำเนินการหลายๆอย่างที่ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค

ส่วนที่มีคนบอกว่าคุณกฤษฎิ์ ไม่ใช่งูเห่า แต่เกิดจากเป็นสนิมภายในพรรคหรืออะไรก็ตามแต่ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ต้องฟังเหตุผลของทั้งสองฝั่ง และตามการให้ข่าวตามหน้าสื่อต่างๆ รวมถึงคลิปที่ถูกเปิดเผยออกมาที่แอบอัดบทสนทนาระหว่างตนกับคุณกฤษฎิ์ ถ้าสังคมฟังทั้งสองฝั่งก็น่าจะเห็นว่าเหตุผลที่คุณกฤษฎิ์ให้มาฟังไม่ขึ้น และเหตุผลที่เขาใช้เป็นข้ออ้างในการบอกให้พรรคต้องขับออก มุมหนึ่งของพรรคมองว่าหนังสือนั้นเป็นการแสดงเจตจำนงค์ว่าคุณไม่อยากเป็นสมาชิกพรรคต่อถือว่าเป็นหนังสือลาออก ก็เป็นเหตุผลที่เขาเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป จึงเชื่อว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาภายในพรรคแต่อย่างใด ปัญหาที่ถูกต้องมากกว่าน่าจะเป็นเรื่องที่พรรคปลายทางที่คุณกฤษฎิ์จะย้ายไปสังกัด เนื่องจากถ้าทุกพรรคการเมืองยืนยันในหลักการ ยกตัวอย่างสมมติตนเองเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน มีสส.อยากจะมาขอย้ายพรรค โดยให้ข้อเสนอว่าอยากจะให้พรรคต้นสังกัดขับออก ตนก็ต้องมีการพูดคุยทุกๆพรรคว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และไม่สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้


ทั้งนี้ตนเองเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมพรรคของตนทุกๆคนในตอนนี้ว่า ไม่น่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งตนก็ยังไม่ได้รับข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอะไร ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีสส.จากฝ่ายค้าน หรือสส.พรรคประชาชนย้ายไปอีก ส่วนที่ทางพรรคกล้าธรรมบอกว่าน่าจะมีสส.ออกมาอีกหลายคนนั้น ตนก็ยังไม่ได้รีเช็คอะไรขนาดนั้น เพราะว่าถ้าต้องไปนั่งพูดคุยเอง ก็จะเปรียบเป็นการไม่เชื่อใจเพื่อนร่วมพรรค ซึ่งเรามีการพูดคุยกันในพรรคมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนข้อกล่าวหาจากทางพรรคกล้าธรรมที่บอกว่ามีอีกหลายคนเตรียมจะย้ายไป ถ้ามั่นใจในข้อมูลก็เปิดชื่อมาเลย สังคมจะได้เห็น คนที่ถูกพาดพิงก็จะได้มีโอกาสชี้แจง

กรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบจริยธรรม นายยอดชาติ พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรคประชาชน กรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งยื่นข้อเสนอเป็นเงินสด 55 ล้านบาท นายณัฐพงษ์ บอกว่า ก็ปล่อยไปตามกระบวนการ สำหรับเรื่องการยื่นตรวจสอบจริยธรรมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ตนเชื่อมั่นในตัว สส.ยอดชาย กับข้อมูลที่เขามีอยู่ ดังนั้นถ้าเรื่องเข้าสู่กระบวนการเมื่อไร ตนก็เชื่อว่าทางคณะกรรมการก็ต้องมีการเรียกหลักฐานและรับฟังจากทั้งสองฝ่าย และเราเองจะได้เห็นข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนที่จะเปิดหลักฐานข้อมูลหรือไม่ เนื่องจากการไม่เปิดเหมือนช่วยปกปิดผู้กระทำผิดนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ทางพรรคมีการพูดคุยกับสส.ยอดชายอยู่แล้วจึงเชื่อมั่น แต่หลักฐานอะไรหลายๆอย่าง ถ้าเปิดเผยสาธารณะเลยอาจมีความสุ่มเสี่ยง ปล่อยให้ยื่นหลักฐานต่างๆผ่านกระบวนการน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด

โดยในวันพรุ่งนี้ที่จะลงพื้นที่ไปจังหวัดชลบุรีนั้น ไม่ได้เป็นการไปฟังซาวด์เสียงคุณกฤษฎิ์โดยตรง แต่ไปเพื่อรับฟังปัญหา ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือแหลมฉบัง เรื่องกลุ่มพ่อแม่พี่น้องชาวประมง และรับฟังเสียงประชาชนกับสมาชิกพรรคต่างๆว่าอยากให้ตัวแทนของพรรคขับเคลื่อนอย่างไร ซึ่งตอนนี้นายสหัสวัต คุ้มคง ก็เป็นตัวแทนที่จะมาดูแลพื้นที่เขต 6 ต่อ ยืนยันไม่ใช่วัวหายล้อมคอก แต่สส.ของพรรคย้ายไปโดยขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค ก็เป็นหน้าที่พรรคที่จะต้องส่งตัวแทนของพรรคลงไปดูแลพื้นที่ที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับพวกเรามา -.420 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย

ฝากขังทิดแย้ม

ฝากขัง-ค้านประกัน “ทิดแย้ม” และพวก ยักยอกเงินวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พร้อมพวกอีก 2 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว คดียักยอกเงินวัดเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” และหญิงคนสนิทออกจากห้องควบคุม ขึ้นรถตู้ นำตัวไปฝากขัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน โดยทั้ง 2 มีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ตอบคำถามและให้สัมภาษณ์ใดๆ เมื่อทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้นได้นำไปเล่นการพนันหรือไม่ และเงินจำนวนทั้งหมดเป็นเงินของวัดหรือไม่ “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ยกมือแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธไม่ขอพูด และไม่ขอตอบคำถามใดๆ พร้อมกับเดินอย่างสงบนิ่งขึ้นรถตู้ออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขณะที่การสอบปากคำทั้งคู่ ยังคงให้การภาคเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้คัดค้านการประกันตัว ทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการทุจริต มูลค่าความเสียหาย จำนวนมาก อีกทั้งหากได้รับการประกันตัวหวั่นผู้ต้องหายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนีคดี ซึ่งยากต่อการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดีในภายหลัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทนายความพร้อมกับลูกศิษย์ เตรียมคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ยื่นขอประกันตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” เช่นเดียวกับหญิงคนสนิททางญาติก็เตรียมคำร้องพร้อมกับหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวเช่นเดียวกัน .-สำนักข่าวไทย