“เท้ง” แนะตรวจสอบปม สว. ตรงไปตรงมา อย่าอิงการเมือง

17 พ.ค.- “เท้ง” ขอให้ผู้มีอำนาจตรวจสอบกรณี สว. อย่างตรงไปตรงมา อย่าอิงแต่การเมือง ชี้ สส.กฤษฏิ์ ตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลาง ปัญหาไม่ใช่พรรคประชาชน พร้อมย้ำชัดไม่มี สส.พรรคไหลออกเพิ่มแน่นอน


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้ความเห็นประเด็นทางการเมืองระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงินว่า ตนอยากให้รัฐบาลรวมถึงผู้มีอำนาจรัฐทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา อย่างประเด็นของการตรวจสอบที่มาของสมาชิกวุฒิสภา อยากให้เดินหน้าตามพยานหลักฐานต่างๆที่มี และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้ากระบวนการได้มาซึ่งสว.ไม่ได้โปร่งใสตรงไปตรงมาตามเจตนารมณ์ของทางรัฐธรรมนูญ ก็อยากให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้มีการเร่งเครื่องหรือดำเนินการใดๆ ส่วนจะเป็นสงครามระหว่างสีเสื้อในพรรคร่วมหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการมากกว่าคือการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุด

กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ทั้งสังคม รวมถึงตนเองก็ตั้งข้อสังเกตได้บางอย่างว่ามีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ที่ค่อนข้างพิเศษ เนื่องจากสั่งให้รัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการควบคุมเฉพาะ DSI หรือบางหน่วยงาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเราได้ตั้งคำถามมาโดยตลอดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราไม่อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นองค์กรอิสระ สามารถเขียนคำวินิจฉัยใดๆเพื่อสร้างส่วนต่อขยายของรัฐธรรมนูญได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือมุมมองในภาพใหญ่ เราเองก็ต้องพยายามเดินหน้าในการออกแบบและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำยังไงให้องค์กรอิสระต่างๆใช้อำนาจที่เป็นไปตามหลักสากลมากยิ่งขึ้น สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ ถ้าสิ่งที่เราตั้งสมมติฐานว่าเป็นเกมส์ระหว่างการเมืองที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลใช้อำนาจรัฐในการห้ำหั่นกันเองจริง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เชื่อว่าเสถียรภาพของรัฐบาลก็อาจจะมีปัญหา


ส่วนความคืบหน้านางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ที่แสดงออกเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะออกจากพรรค ตอนนี้ทางพรรคก็ดำเนินการทุกอย่าง เดินหน้าเต็มที่ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการร่างหนังสือส่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ตีความว่าหนังสือที่คุณกฤษฎิ์ยื่นต่อกรรมการบริหารพรรคมา ถือเป็นหนังสือลาออกหรือไม่ ส่วนในทางปฏิบัติ สิทธิต่างๆที่คุณกฤษฎิ์จะได้รับอย่างเช่น การเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการวิสามัญต่างๆ สิทธิในการหารือต่างๆ ที่เป็นโควต้าของพรรค จะตัดออกทุกกรณี

อีกทั้งที่มีการเปรยมาจากทางด้านของพรรคกล้าธรรมว่าการไม่ขับออกก็ไม่เป็นไร สามารถทำงานได้ ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างย้อนแย้งกับเจตจำนงค์ของรัฐธรรมนูญ แต่ตนเชื่อว่าคนร่างรัฐธรรมนูญเองไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะมีกรณีสส.งูเห่าแบบนี้ ที่มีการซื้อหรือดูดตัวสส.ข้ามพรรค โดยมีการบีบบังคับให้พรรคต้นสังกัดขับออก โดยที่เขาไม่ต้องยื่นหนังสือลาออกเอง เพราะฉนั้นตรงนี้ถือเป็นช่องว่างช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าประชาชนไม่ได้อยากเห็นสภาพแบบที่เป็นอยู่ที่คุณกฤษฎิ์เองสังกัดพรรคประชาชน แต่กลับจะดำเนินการทุกอย่าง อย่างเช่นการโหวดสวนในอนาคต หรือการดำเนินการหลายๆอย่างที่ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค

ส่วนที่มีคนบอกว่าคุณกฤษฎิ์ ไม่ใช่งูเห่า แต่เกิดจากเป็นสนิมภายในพรรคหรืออะไรก็ตามแต่ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ต้องฟังเหตุผลของทั้งสองฝั่ง และตามการให้ข่าวตามหน้าสื่อต่างๆ รวมถึงคลิปที่ถูกเปิดเผยออกมาที่แอบอัดบทสนทนาระหว่างตนกับคุณกฤษฎิ์ ถ้าสังคมฟังทั้งสองฝั่งก็น่าจะเห็นว่าเหตุผลที่คุณกฤษฎิ์ให้มาฟังไม่ขึ้น และเหตุผลที่เขาใช้เป็นข้ออ้างในการบอกให้พรรคต้องขับออก มุมหนึ่งของพรรคมองว่าหนังสือนั้นเป็นการแสดงเจตจำนงค์ว่าคุณไม่อยากเป็นสมาชิกพรรคต่อถือว่าเป็นหนังสือลาออก ก็เป็นเหตุผลที่เขาเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป จึงเชื่อว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาภายในพรรคแต่อย่างใด ปัญหาที่ถูกต้องมากกว่าน่าจะเป็นเรื่องที่พรรคปลายทางที่คุณกฤษฎิ์จะย้ายไปสังกัด เนื่องจากถ้าทุกพรรคการเมืองยืนยันในหลักการ ยกตัวอย่างสมมติตนเองเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน มีสส.อยากจะมาขอย้ายพรรค โดยให้ข้อเสนอว่าอยากจะให้พรรคต้นสังกัดขับออก ตนก็ต้องมีการพูดคุยทุกๆพรรคว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และไม่สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้


ทั้งนี้ตนเองเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมพรรคของตนทุกๆคนในตอนนี้ว่า ไม่น่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งตนก็ยังไม่ได้รับข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอะไร ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีสส.จากฝ่ายค้าน หรือสส.พรรคประชาชนย้ายไปอีก ส่วนที่ทางพรรคกล้าธรรมบอกว่าน่าจะมีสส.ออกมาอีกหลายคนนั้น ตนก็ยังไม่ได้รีเช็คอะไรขนาดนั้น เพราะว่าถ้าต้องไปนั่งพูดคุยเอง ก็จะเปรียบเป็นการไม่เชื่อใจเพื่อนร่วมพรรค ซึ่งเรามีการพูดคุยกันในพรรคมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนข้อกล่าวหาจากทางพรรคกล้าธรรมที่บอกว่ามีอีกหลายคนเตรียมจะย้ายไป ถ้ามั่นใจในข้อมูลก็เปิดชื่อมาเลย สังคมจะได้เห็น คนที่ถูกพาดพิงก็จะได้มีโอกาสชี้แจง

กรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบจริยธรรม นายยอดชาติ พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรคประชาชน กรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งยื่นข้อเสนอเป็นเงินสด 55 ล้านบาท นายณัฐพงษ์ บอกว่า ก็ปล่อยไปตามกระบวนการ สำหรับเรื่องการยื่นตรวจสอบจริยธรรมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ตนเชื่อมั่นในตัว สส.ยอดชาย กับข้อมูลที่เขามีอยู่ ดังนั้นถ้าเรื่องเข้าสู่กระบวนการเมื่อไร ตนก็เชื่อว่าทางคณะกรรมการก็ต้องมีการเรียกหลักฐานและรับฟังจากทั้งสองฝ่าย และเราเองจะได้เห็นข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนที่จะเปิดหลักฐานข้อมูลหรือไม่ เนื่องจากการไม่เปิดเหมือนช่วยปกปิดผู้กระทำผิดนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ทางพรรคมีการพูดคุยกับสส.ยอดชายอยู่แล้วจึงเชื่อมั่น แต่หลักฐานอะไรหลายๆอย่าง ถ้าเปิดเผยสาธารณะเลยอาจมีความสุ่มเสี่ยง ปล่อยให้ยื่นหลักฐานต่างๆผ่านกระบวนการน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด

โดยในวันพรุ่งนี้ที่จะลงพื้นที่ไปจังหวัดชลบุรีนั้น ไม่ได้เป็นการไปฟังซาวด์เสียงคุณกฤษฎิ์โดยตรง แต่ไปเพื่อรับฟังปัญหา ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือแหลมฉบัง เรื่องกลุ่มพ่อแม่พี่น้องชาวประมง และรับฟังเสียงประชาชนกับสมาชิกพรรคต่างๆว่าอยากให้ตัวแทนของพรรคขับเคลื่อนอย่างไร ซึ่งตอนนี้นายสหัสวัต คุ้มคง ก็เป็นตัวแทนที่จะมาดูแลพื้นที่เขต 6 ต่อ ยืนยันไม่ใช่วัวหายล้อมคอก แต่สส.ของพรรคย้ายไปโดยขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค ก็เป็นหน้าที่พรรคที่จะต้องส่งตัวแทนของพรรคลงไปดูแลพื้นที่ที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับพวกเรามา -.420 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]