“เท้ง” แนะตรวจสอบปม สว. ตรงไปตรงมา อย่าอิงการเมือง

17 พ.ค.- “เท้ง” ขอให้ผู้มีอำนาจตรวจสอบกรณี สว. อย่างตรงไปตรงมา อย่าอิงแต่การเมือง ชี้ สส.กฤษฏิ์ ตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลาง ปัญหาไม่ใช่พรรคประชาชน พร้อมย้ำชัดไม่มี สส.พรรคไหลออกเพิ่มแน่นอน


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้ความเห็นประเด็นทางการเมืองระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงินว่า ตนอยากให้รัฐบาลรวมถึงผู้มีอำนาจรัฐทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา อย่างประเด็นของการตรวจสอบที่มาของสมาชิกวุฒิสภา อยากให้เดินหน้าตามพยานหลักฐานต่างๆที่มี และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้ากระบวนการได้มาซึ่งสว.ไม่ได้โปร่งใสตรงไปตรงมาตามเจตนารมณ์ของทางรัฐธรรมนูญ ก็อยากให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้มีการเร่งเครื่องหรือดำเนินการใดๆ ส่วนจะเป็นสงครามระหว่างสีเสื้อในพรรคร่วมหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการมากกว่าคือการแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุด

กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ทั้งสังคม รวมถึงตนเองก็ตั้งข้อสังเกตได้บางอย่างว่ามีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ที่ค่อนข้างพิเศษ เนื่องจากสั่งให้รัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการควบคุมเฉพาะ DSI หรือบางหน่วยงาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พวกเราได้ตั้งคำถามมาโดยตลอดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราไม่อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นองค์กรอิสระ สามารถเขียนคำวินิจฉัยใดๆเพื่อสร้างส่วนต่อขยายของรัฐธรรมนูญได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือมุมมองในภาพใหญ่ เราเองก็ต้องพยายามเดินหน้าในการออกแบบและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำยังไงให้องค์กรอิสระต่างๆใช้อำนาจที่เป็นไปตามหลักสากลมากยิ่งขึ้น สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ ถ้าสิ่งที่เราตั้งสมมติฐานว่าเป็นเกมส์ระหว่างการเมืองที่บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลใช้อำนาจรัฐในการห้ำหั่นกันเองจริง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เชื่อว่าเสถียรภาพของรัฐบาลก็อาจจะมีปัญหา


ส่วนความคืบหน้านางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ที่แสดงออกเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะออกจากพรรค ตอนนี้ทางพรรคก็ดำเนินการทุกอย่าง เดินหน้าเต็มที่ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการร่างหนังสือส่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ตีความว่าหนังสือที่คุณกฤษฎิ์ยื่นต่อกรรมการบริหารพรรคมา ถือเป็นหนังสือลาออกหรือไม่ ส่วนในทางปฏิบัติ สิทธิต่างๆที่คุณกฤษฎิ์จะได้รับอย่างเช่น การเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการวิสามัญต่างๆ สิทธิในการหารือต่างๆ ที่เป็นโควต้าของพรรค จะตัดออกทุกกรณี

อีกทั้งที่มีการเปรยมาจากทางด้านของพรรคกล้าธรรมว่าการไม่ขับออกก็ไม่เป็นไร สามารถทำงานได้ ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างย้อนแย้งกับเจตจำนงค์ของรัฐธรรมนูญ แต่ตนเชื่อว่าคนร่างรัฐธรรมนูญเองไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะมีกรณีสส.งูเห่าแบบนี้ ที่มีการซื้อหรือดูดตัวสส.ข้ามพรรค โดยมีการบีบบังคับให้พรรคต้นสังกัดขับออก โดยที่เขาไม่ต้องยื่นหนังสือลาออกเอง เพราะฉนั้นตรงนี้ถือเป็นช่องว่างช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าประชาชนไม่ได้อยากเห็นสภาพแบบที่เป็นอยู่ที่คุณกฤษฎิ์เองสังกัดพรรคประชาชน แต่กลับจะดำเนินการทุกอย่าง อย่างเช่นการโหวดสวนในอนาคต หรือการดำเนินการหลายๆอย่างที่ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค

ส่วนที่มีคนบอกว่าคุณกฤษฎิ์ ไม่ใช่งูเห่า แต่เกิดจากเป็นสนิมภายในพรรคหรืออะไรก็ตามแต่ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ต้องฟังเหตุผลของทั้งสองฝั่ง และตามการให้ข่าวตามหน้าสื่อต่างๆ รวมถึงคลิปที่ถูกเปิดเผยออกมาที่แอบอัดบทสนทนาระหว่างตนกับคุณกฤษฎิ์ ถ้าสังคมฟังทั้งสองฝั่งก็น่าจะเห็นว่าเหตุผลที่คุณกฤษฎิ์ให้มาฟังไม่ขึ้น และเหตุผลที่เขาใช้เป็นข้ออ้างในการบอกให้พรรคต้องขับออก มุมหนึ่งของพรรคมองว่าหนังสือนั้นเป็นการแสดงเจตจำนงค์ว่าคุณไม่อยากเป็นสมาชิกพรรคต่อถือว่าเป็นหนังสือลาออก ก็เป็นเหตุผลที่เขาเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป จึงเชื่อว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาภายในพรรคแต่อย่างใด ปัญหาที่ถูกต้องมากกว่าน่าจะเป็นเรื่องที่พรรคปลายทางที่คุณกฤษฎิ์จะย้ายไปสังกัด เนื่องจากถ้าทุกพรรคการเมืองยืนยันในหลักการ ยกตัวอย่างสมมติตนเองเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน มีสส.อยากจะมาขอย้ายพรรค โดยให้ข้อเสนอว่าอยากจะให้พรรคต้นสังกัดขับออก ตนก็ต้องมีการพูดคุยทุกๆพรรคว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และไม่สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้


ทั้งนี้ตนเองเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมพรรคของตนทุกๆคนในตอนนี้ว่า ไม่น่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งตนก็ยังไม่ได้รับข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอะไร ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีสส.จากฝ่ายค้าน หรือสส.พรรคประชาชนย้ายไปอีก ส่วนที่ทางพรรคกล้าธรรมบอกว่าน่าจะมีสส.ออกมาอีกหลายคนนั้น ตนก็ยังไม่ได้รีเช็คอะไรขนาดนั้น เพราะว่าถ้าต้องไปนั่งพูดคุยเอง ก็จะเปรียบเป็นการไม่เชื่อใจเพื่อนร่วมพรรค ซึ่งเรามีการพูดคุยกันในพรรคมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนข้อกล่าวหาจากทางพรรคกล้าธรรมที่บอกว่ามีอีกหลายคนเตรียมจะย้ายไป ถ้ามั่นใจในข้อมูลก็เปิดชื่อมาเลย สังคมจะได้เห็น คนที่ถูกพาดพิงก็จะได้มีโอกาสชี้แจง

กรณีที่นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบจริยธรรม นายยอดชาติ พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรคประชาชน กรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งยื่นข้อเสนอเป็นเงินสด 55 ล้านบาท นายณัฐพงษ์ บอกว่า ก็ปล่อยไปตามกระบวนการ สำหรับเรื่องการยื่นตรวจสอบจริยธรรมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ตนเชื่อมั่นในตัว สส.ยอดชาย กับข้อมูลที่เขามีอยู่ ดังนั้นถ้าเรื่องเข้าสู่กระบวนการเมื่อไร ตนก็เชื่อว่าทางคณะกรรมการก็ต้องมีการเรียกหลักฐานและรับฟังจากทั้งสองฝ่าย และเราเองจะได้เห็นข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนที่จะเปิดหลักฐานข้อมูลหรือไม่ เนื่องจากการไม่เปิดเหมือนช่วยปกปิดผู้กระทำผิดนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ทางพรรคมีการพูดคุยกับสส.ยอดชายอยู่แล้วจึงเชื่อมั่น แต่หลักฐานอะไรหลายๆอย่าง ถ้าเปิดเผยสาธารณะเลยอาจมีความสุ่มเสี่ยง ปล่อยให้ยื่นหลักฐานต่างๆผ่านกระบวนการน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด

โดยในวันพรุ่งนี้ที่จะลงพื้นที่ไปจังหวัดชลบุรีนั้น ไม่ได้เป็นการไปฟังซาวด์เสียงคุณกฤษฎิ์โดยตรง แต่ไปเพื่อรับฟังปัญหา ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือแหลมฉบัง เรื่องกลุ่มพ่อแม่พี่น้องชาวประมง และรับฟังเสียงประชาชนกับสมาชิกพรรคต่างๆว่าอยากให้ตัวแทนของพรรคขับเคลื่อนอย่างไร ซึ่งตอนนี้นายสหัสวัต คุ้มคง ก็เป็นตัวแทนที่จะมาดูแลพื้นที่เขต 6 ต่อ ยืนยันไม่ใช่วัวหายล้อมคอก แต่สส.ของพรรคย้ายไปโดยขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค ก็เป็นหน้าที่พรรคที่จะต้องส่งตัวแทนของพรรคลงไปดูแลพื้นที่ที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับพวกเรามา -.420 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]