ไทยสร้างไทยพร้อมดำเนินการด้านจริยธรรมกับ สส.ขัดมติพรรค

กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – ไทยสร้างไทยออกแถลงการณ์ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พร้อมดำเนินการด้านจริยธรรมกับ สส.ขัดมติพรรค “คุณหญิง สุดารัตน์” ยอมรับ “อนุดิษฐ์-การุณ” จากกันด้วยดี


คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แถลงการณ์กรณีมีสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยบางส่วนลาออกจากพรรค หรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ทางพรรคยอมรับว่าเกิดจากความแตกต่างทางแนวคิดตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง ซึ่งสมาชิกส่วนหนึ่งต้องการจะไปร่วมรัฐบาล อีกส่วนหนึ่งต้องการรักษาจุดยืนและคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชน โดยขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เรามีการประชุมกันหลายครั้ง เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าพรรคไทยสร้างไทย ต้องรักษาจุดยืนอุดมการณ์ของพรรค ในการมุ่งสร้างการเมืองสุจริต โดยพรรคไทยสร้างไทยขอยืนหยัดทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดถือผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

หลังจากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์อย่างที่ทุกท่านทราบว่ามี สส.บางส่วนไม่ปฏิบัติตามมติพรรค แสดงตัวไปร่วมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการจริยธรรมของพรรค ที่มีนายโภคิน พลกุล เป็นประธาน กำลังดำเนินการตามกฎหมาย ต่อการกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของสมาชิกที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่เลือกเข้ามา และไม่ซื่อสัตย์ต่อพรรค ทั้งที่พรรคได้ทุ่มเทให้เขาอย่างสุดกำลัง จนทำให้คนเหล่านี้ได้เป็นผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ และหวังว่าเขาเหล่านั้นจะทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง


ซึ่งในประเด็นนี้ พรรคไทยสร้างไทย ต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดนี้ เนื่องจากเรามีเวลาน้อยมากในการหล่อหลอมอุดมการณ์ความคิด เพราะหลังจากที่พวกเราออกจากพรรคเดิม ไม่นานก็ต้องเข้าสู่การเลือกตั้ง

ส่วนกรณีของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล ที่ได้แสดงความจำนงไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการทำงานของพรรคไทยสร้างไทยแต่ประการใด เราขอแสดงความยินดีที่ทั้งสองได้ตัดสินใจไปอยู่ในที่ๆ คิดว่าเหมาะสมกับตนเอง โดยทั้งสองคนได้มาแจ้งต่อคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลายเดือนมาแล้ว ซึ่งคุณหญิง สุดารัตน์ ก็ไม่ขัดข้อง เข้าใจในความจำเป็น เพียงแต่ก่อนหน้านี้ทั้งสองยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค

พรรคไทยสร้างไทยขอยืนยันว่า กรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้กระทบต่อความมุ่งมั่นของพรรคไทยสร้างไทย แต่กลับจะ “เป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงพรรคไทยสร้างไทยให้เข้มแข็งขึ้น” เพราะปัญหาที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่นี้มันยิ่งใหญ่กว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคไทยสร้างไทยมากนัก


ประเทศไทยในวันนี้กำลังยืนอยู่บนรอยร้าวลึกในหัวใจของคนไทยที่ “หมดศรัทธา” กับการเมืองไทย เพราะบ้านเมืองนี้ถูกกัดกร่อนจากนักการเมืองสกปรก และระบบสีเทา เราเห็นนักการเมืองที่ไม่เคยยึดประโยชน์ประชาชน เราเห็นระบบที่เปิดทางให้ทุนสีเทาเข้ามายึดเศรษฐกิจไทย กฎหมายถูกบิดเบือน การใช้อำนาจเพื่อเอื้อพวกพ้อง การทุจริต กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เราชาชิน

จนทำให้คนไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม หนี้สินท่วมหัว ศักยภาพในการแข่งขันของประเทศตกต่ำ แถมด้วยยาเสพติด การพนัน ที่ผิดกฎหมายแต่เข้าถึงคนไทยได้ง่ายยิ่งกว่าเข้าร้านสะดวกซื้อ เป็นประเทศที่เสมือนไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้ เราเข้าใกล้การเป็นรัฐล้มเหลวเต็มทีแล้ว

ประเทศไทยไม่ควรอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทั้งที่ประเทศไทยเต็มไปด้วยทรัพยากร เรามีคนเก่งและคนดีมากมาย แต่กลับติดหล่มเพราะระบบการเมืองที่เน่าเฟะ ใช้เงินซื้อเสียง ซื้อ สส. แล้วก็เข้าไปโกงอย่างมโหฬาร

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องรื้อระบบสีเทาที่เต็มไปด้วยการทุจริต พรรคไทยสร้างไทยเราจะไม่ยอมจำนน พรรคไทยสร้างไทยไม่ใช่พรรคของใครบางคน แต่คือพรรคของประชาชนที่ไม่ทนกับความเหลวแหลกตกต่ำที่กำลังครอบงำประเทศ เราขอเชิญชวนคนดี คนมีความรู้ และกล้าสู้ มารวมพลังเป็นแสงสว่างฉายลงไปบนความมืดมิดของการเมืองไทย เพื่อกู้วิกฤติเศรษฐกิจ ทวงคืนเงินในกระเป๋าของประชาชน แก้หนี้อย่างเป็นระบบ ทุ่มกำลังฟื้นฟูการผลิต ปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรม High Tecnology ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกพลิกฟื้น SMEs ให้เข้มแข็ง
ปฏิรูปการศึกษา พร้อมพัฒนาทักษะแรงงานไทยให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นทางออกที่สำคัญที่จะทำให้คนไทยมีรายได้สูงขึ้น พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจไทย กอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศ เพื่อทำให้การท่องเที่ยวกลับคืนมา โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย สิ่งแวดล้อมต้องถูกฟื้นฟู สยามเมืองยิ้มต้องกลับมาเพื่อคืนความสุขให้คนไทย

เป้าหมายไทยสร้างไทยคือ สร้างการเมืองสุจริต สร้างเศรษฐกิจดี สร้างไทยให้โดดเด่น กล้าผ่าโครงสร้างที่ฉุดรั้งประเทศ ส่งเสริมสถาบันหลักให้เข้มแข็ง

“พรรคไทยสร้างไทย ขอยืนยันว่าเราจะไม่มีวันยอมแพ้ต่อระบบที่กำลังทำร้ายประเทศไทย แต่เราทำงานใหญ่นี้เพียงลำพังไม่ได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังเชื่อในความถูกต้องมาร่วมกันสร้างการเมืองสุจริต มาร่วมกันเปลี่ยนประเทศไทยไปกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อให้ทุกคนรอดในวิกฤตนี้” คุณหณิงสุดารัตน์ กล่าว.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]