“ธรรมนัส” โว 30 สส. จ่อตบเท้าซบกล้าธรรมรายสัปดาห์

โรงแรมโกลเด้นทิวลิป 16 พ.ค.- “ธรรมนัส” ยันเปิดตัว “อนุดิษฐ์-การุณ” ไม่เป็นพรรคสาขาใคร เผย พาคุย “ทักษิณ” ก่อนเข้าพรรคแล้ว จะทำอะไรต้องดูที่มาที่ไป โว 30 สส. เตรียมทยอยตบเท้าซบรายสัปดาห์ ยันจากซีกฝ่ายค้าน บอกหลายคนเป็น สส.ได้เพราะผม ไม่มีผมก็เหนื่อย พร้อมมั่นใจพรรคร่วมไม่เปลี่ยนขั้ว ยันไม่เคยมีแนวคิดแย่ง “เก้าอี้มท.1” ชงหวานบอก “เสี่ยหนู” นั่งดีอยู่แล้ว ชี้ปัญหาการเมืองต้องจบด้วยการคุยกัน อย่าให้การเมืองทะเลาะกันแล้วไปจบด้วยการทหาร


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย จะกลายเป็นพรรคสาขาหรือไม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ อยู่กันมาตั้งแต่วัยรุ่น และถือเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองของประเทศ เมื่อถึงจุดอิ่มตัวทางการเมืองตนก็ต้องการสร้างพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง เราต้องหาคนที่มีความพร้อม ความคิดความอ่านก็คล้ายกัน จากนี้จะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนมีความรู้ วุฒิภาวะ ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ตนพยายามที่จะไม่เปิดตัวทีเดียว

ซึ่งก่อนการทาบทามอดีตนักการเมือง 2 ท่านนี้ ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยว่าได้มีการพาไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว พร้อมกล่าวว่า ตนจะทำอะไรต้องหารือที่มาที่ไปของแต่ละคนอยู่แล้ว วิธีชีวิตที่เคยอยู่กันมา เมื่อถึงเวลาแยกกันก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน


ผู้สื่อข่าวถามถึง สส.อีกกว่า 30 ราย ที่จะย้ายเข้าพรรคกล้าธรรมนั้น ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า จะมีการทยอยเปิดตัวรายสัปดาห์ ซึ่งอาจจะมีบิ๊กเนม และ สส.สมัยปัจจุบันมาร่วมด้วย ส่วนจะเป็น สส.พลังประชารัฐหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ตอบว่า สส.เหล่านั้นก็เป็นพี่น้องทั้งนั้น หลายคนเป็น สส.ก็เพราะตนช่วยมา ถ้าไม่มีตนก่อนหน้านี้ก็คงเหนื่อย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะตนไปลุยศึกเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชมา พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้ไปแจกกล้วยให้ สส.ตามที่เป็นข่าว ตนต้องดูว่าแต่ละคนมีอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างไร ตอนนี้เหลือเวลาปีกว่า คงไม่มีใครไปทำอย่างนั้น พร้อมปฏิเสธพรรคประชาชนว่าพรรคกล้าธรรมไม่ได้มีพลังดูด เพียงแต่เป็นการดูว่าใครทำประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างไรได้บ้าง เช่น สส.ในพื้นที่นครศรีธรรมราชสะท้อนปัญหาเรื่องร้านปาล์มตกต่ำ ร้านปาล์มไม่รับซื้อ ซึ่งจะต้องแก้ไขปัญหานี้ทันที

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีคดีชั้น 14 นายทักษิณ ว่าจะส่งผลอะไรต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ไม่มี การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน

ยังปฏิเสธกรณีที่นางสาวพรรณิกา วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ตั้งข้อสังเกตว่าพรรคกล้าธรรม พยามดูด สส. เพื่อต่อรองเก้าอี้กระทรวงมหาดไทย ยืนยันไม่เคยมีแนวคิดเรื่องนี้ เพราะในพรรคกล้าทำไม่มีบุคลากรที่มีคุณสมบัติ ไปนั่งเป็น มท.1 ก่อนจะอ้างว่า ขณะนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งก็ดีอยู่แล้ว เมื่อถามว่าได้ไปเยี่ยมหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสบอกว่า ตอนนั้นที่นายอนุทินป่วย ตนเองก็ป่วย


ยังกล่าวถึงกรณีหากในอนาคตพรรคกล้าธรรมมี สส. เพิ่มจะส่งผลถึงโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีกันใหม่ ว่า ได้มองข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ได้มองในครั้งนี้ หากรัฐบาลไม่ได้มีปัญหากันก็อยู่แบบนี้ดีอยู่แล้ว และขออย่ามองว่าพรรคกล้าธรรมพยายามขยับมาแทนที่อันดับพรรคภูมิใจไทย เพียงแต่มองว่าหากพรรคก็ทำได้ สส. มาเยอะสามารถมีตัวแทนช่วยเหลือประชาชนได้

ส่วนประเด็นที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยไปกันไม่ค่อยได้ทำให้กระทบต่อการบริหารงานหรือไม่ว่า เน้นว่าเรื่องการเมืองต้องคุยกัน การเมืองต้องจบด้วยการคุยกัน อย่าให้การเมืองเมื่อทะเลาะกันแล้วหรือขัดแย้งกันแล้วไปจบการทหาร ซึ่งมีความมั่นใจว่าสามารถคุยกันได้

ส่วนกรณีปัญหาในรัฐบาลจะอยู่กับเทอมหรือไม่ร้อยเอกไม่ได้ตอบยืนยันชัดเพียงระบุว่าในฐานะเป็นนักการเมืองก็มีการประเมินการเมืองตลอดเวลา ซึ่งในท้ายที่สุดต้องมีการเจรจากัน และเป็นคนกันเองทั้งนั้น

ก่อนที่จะไล่เรียงไทมไลน์ว่าเปิดรัฐสภาในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมก็จะเหลือเวลาอีกปีกว่า ซึ่งทุกพรรคการเมืองก็จะต้องเริ่มจัดพรรคแล้ว และเชื่อว่าในปีนี้จะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่กับเทอมและจะมีการคุยกัน
ไม่มีการขับพรรคใดออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

“คนไม่สมหวังก็คอยยุคอยแหย่เป็นเรื่องปกติ แต่ท้ายที่สุดหากเค้าคุยกันคุณก็ผิดหวัง สังคมไทยเราต้องเปลี่ยน” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ร้อยเอกธรรมนัส ปฏิเสธแสดงความเห็นว่าหากการเลือกตั้งครั้งหน้าตัวเลข สส. พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เสียงข้างมาก จะทำให้สมการจะเปลี่ยนหรือไม่ เพียงกล่าวว่าทุกพรรคต่างก็มีจุดยืนของตัวเอง ไม่ขอพูดเรื่องการปรับ ครม. ได้เพราะไม่ใช่อำนาจ และเชื่อว่าไม่มีการปรับขั้วการเมือง และเป็นคนละเรื่องกับกรณีฮั้ว สว. ก็ว่าไป ส่วนเรื่องการเมืองสภาล่างก็ว่ากันไป.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

คุมฝากขัง “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

17 พ.ค.- ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “เอกพจน์” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ฝากขัง พร้อมบอกตอนนี้ตัวใครตัวมัน เมื่อเวลา 08.45 น. พนักงานสอบสวน ตำรวจไซเบอร์ สอท.3 เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เบิกตัวนายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ พระคนสนิท อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ข้อหา “พ.ร.บ.การพนันร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันทางสื่ออีเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐามผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง ทั้งนี้ ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถ นายเอกพจน์ เปิดเผยว่า อดีตเจ้าวาสวัดไร่ขิงหรือทิดแย้มให้กดเงินและโอนเงินให้กับนางสาวธัญญวัฒน์ จริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร โดยโอนให้หลายครั้ง แต่ละครั้งก็หลักล้าน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตอนนี้ยังนับถืออดีตเจ้าคุณแย้มหรือไม่ หรือไม่ นายเอกพจน์ตอบว่าตอนนี้ตัวใครตัวมัน ก่อนจะขึ้นรถควบคุมตัวไปที่ศาลอาญารัชดา .-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 17 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยเกือบทั่วทุกภาคของไทยมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]