รัฐสภา 16 พ.ค.-“ทนายอั๋น” จี้ 55 สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ขอ สว.นันทนา ล่าชื่อ 20 สว. ส่ง “มงคล” ยื่นศาล รธน. ตีความ สว.กลุ่มพรรคการเมืองหนุน ขัด รธน. ม.113 หรือไม่ ด้าน สว.นันทนา ซัดภาพลักษณ์ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ หากปล่อยต่อไปประเทศชาติป่นปี้
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ให้เข้าชื่อส่งหนังสือถึงประธานวุฒิสภา เพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญถึงพฤติการณ์ของ สว.
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นคนร้องเรื่องการฮั้วสว.มาโดยตลอด เห็นการเลือกตั้งที่มีการทุจริตในลักษณะกลุ่มก้อน จนนำไปสู่การออกหมายเรียกสว.55 คน และเร็วๆ นี้จะมีการออกเพิ่ม สว.กลุ่มที่ตกค้าง และมีสว.ส่วนหนึ่งกลับใจมาให้การที่เป็นประโยชน์ ถึงแม้ตอนนี้จะอยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวน คดียังไม่ถึงที่สุด แต่ข้อเท็จจริงปรากฎชัดเจนว่ากลุ่มสว.ที่ถูกหมายเรียกไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองและมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง พฤติการณ์เหล่านี้ส่อให้เห็นถึงการฝักใฝ่พรรคการเมือง ทำวุฒิสภาตกต่ำ จึงได้มายื่นหนังสือให้ น.ส.นันทนา ให้ปฏิบัติตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ คือขอให้รวบรวมรายชื่อสว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 หรือไม่น้อยกว่า 20 คน ให้ประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าพฤติการณ์ของ สว.ที่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องห้ามตามมาตรา113 และ ทำให้สมาชิกภาพของสว.สิ้นสุดลงหรือไม่ ซึ่งตนอยากทราบว่าใครจะลงชื่อบ้างและหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้สว.กลุ่มนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน ซึ่งตนมีสายลับแจ้งว่าได้รับการสนับสนุนเกิน 20 คน แน่นอน
ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 93 ปีที่วุฒิสมาชิกถูกแจ้งข้อกล่าวหา ว่าเข้าสู่ตำแหน่งโดยมิชอบเกินกว่าครึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ และถือเป็นกติกาที่วิปริตที่ส่งผลให้มีการฮั้วกันเข้ามา และสังคมได้รับทราบแล้วว่าการได้มา ซึ่ง สว.ชุดนี้ ไม่ได้มาโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นข้อเคลือบแคลงและสงสัยมาโดยตลอด ตอนนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้คลี่คลายปัญหานี้ โดยแจ้งข้อกล่าวหากับสว. 55 คน และมีแนวโน้มว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาไปถึงกลุ่มผู้บงการ และสว.คนอื่นอีก ภาพลักษณ์ สว.ขณะนี้จึงตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ประชาชนไม่เชื่อถือในการทำหน้าที่ เพราะที่มาไม่ชัดเจนเป็นที่กังขอและสงสัย ดังนั้น ตนในฐานะสว. ได้เคยประกาศในที่ประชุมวุฒิสภาว่า ตนพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและขอหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการลงมติในการเห็นชอบแต่งตั้งองค์กรอิสระ เพราะประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าการที่สว.มีที่มาไม่ถูกต้อง แต่ทำหน้าที่ลงมติเห็นชอบผู้มาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระต่างๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน เพราะมีผลประโยชน์อย่างชัดเจน และเมื่อทันทีที่ สว.ลงมติเห็นชอบ ผู้ดำรงตำแหน่งแล้วคนเหล่านั้นกลับมาตรวจสอบ สว.เอง แล้วจะชอบธรรม ถูกต้อง โปร่งใส อย่างไร ถือเป็นการตอบแทนระหว่างผู้ลงมติกับผู้ดำรงตำแหน่ง จึงไม่สง่างามและไม่ควรจะเกิดขึ้น
น.ส.นันทนา กล่าวว่า ตนเรียกร้องมาตั้งแต่ต้นให้สว.หยุดเห็นชอบในการแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระใดๆ ทั้งสิ้น แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีใครยอมทำเพราะห่วงอำนาจ เพราะคิดว่าเป็นอำนาจสำคัญที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ในฐานะต่างตอบแทน จนวันนี้ประชาชนคงเห็นแล้วว่า หากปล่อยให้สว.ทั้งคณะนี้ทำหน้าที่ต่อไป ประเทศชาติป่นปี้พินาศแน่
“ตนจะนำเรื่องนี้ไปขอให้สว.ที่เป็นเสียงข้างน้อย และมีความเป็นอิสระไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการฮั้วเข้ามา รวมถึงสว.อิสระที่มีใจรักความถูกต้อง ให้มาลงชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 คือจำนวน 20 คน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและรักษาภาพลักษณ์เกียรติภูมิของวุฒิสภา ว่าเราไม่ยินดีที่จะทำหน้าที่ในขณะที่ที่มาของสว.ส่วนใหญ่มัว เทา และไม่โปร่งใส และจะชักชวนสว.ที่มีจิตใจประชาธิปไตยและเชื่อมั่นในประชาชน ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบจนกว่าจะสิ้นสงสัย” น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวว่า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะส่งเรื่องนี้ ไปถึงนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็น 1 ใน 55 คน ที่ถูกกล่าวหา เพื่อขอให้นำเรื่องส่งไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราจะได้เห็นกันว่าท่านจะทำหรือไม่ และจะได้เห็นถึงจิตวิญญาณของคนที่อาสามาทำงานตรงนี้ว่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนหรือของประเทศชาติ และวันนี้วิปวุฒิสภากำลังมีการประชุมเพื่อบรรจุวาระให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งในศาลรัฐธรรมนูญ 2 ตำแหน่ง และ กกต. 1 ตำแหน่ง หากบรรจุตรงนี้ไปแปลว่ากระบวนการนั้น ยังเดินต่อไป ซึ่งหมายความว่าเมื่อกรรมาธิการหน้าเดิมๆ ที่ตนไม่เคยได้รับเลือกให้เข้าไปอยู่ในชุดนี้ แต่เป็นเฉพาะกรรมาธิการที่เป็นกลุ่มเสียงข้างมาก เมื่อเปิดประชุมสภาก็จะมีการลงมติขอถามว่าสง่างามหรือชอบธรรมหรือไม่.-315.-สำนักข่าวไทย