เรียก “ผู้ว่า​ สตง.-อธิบดีโยธา” แจ้งคืบหน้าสอบตึก​ สตง.ถล่ม

รัฐสภา 15 พ.ค. – กมธ.ติดตามงบ​ เรียก “ผู้ว่า​ สตง.-อธิบดีโยธา” แจ้งคืบหน้าสอบ​ตึก​ สตง.ถล่ม​ ขณะ​ “มณเฑียร” เผย​ เตรียมให้ตำรวจอายัดที่ดินเป็นของกลางจนกว่าจะตรวจสอบเสร็จ พร้อมเซ็นให้ “ผู้รับเหมา” รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด​ ประกาศทวงเงินเยียวยาจากบริษัทประกัน​ 900 ล้าน​ ควรคืนให้รัฐ​ ด้าน ​”พงษ์นรา” ระบุ​ การออกแบบไม่เป็นไปตามกฎหมาย​​ แต่จะใช่สาเหตุถล่มหรือไม่​ รอผลจำลองจากโมเดลก่อน​ คาดใช้เวลา​ 90 วันเต็ม​ ด้าน​ “วิศวกรรมสถาน​” ชี้​ จุดวินาศคือชั้น 3​ แต่สงสัยชั้น​ 19 ปรับแบบหรือไม่​ เชื่อ​ เหล็กไม่ใช่สาเหตุหลัก​ของการถล่ม


คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ​ ที่มีนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ​ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงการใช้งบประมาณในการก่อสร้าง​ ตึก​ สตง.ที่ถล่ม​จากเหตุแผ่นดินไหว​ ซึ่งนายมณเฑียร เจริญผล​ ผู้ว่า​ สตง. นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง​ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง​ มาชี้แจงด้วยตนเอง​

โดย​คณะกรรมการเริ่มสอบถามถึง ขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างและความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของโครงการ ซึ่ง​ ผู้ว่า​ สตง.ชี้แจง​ ชี้แจงว่า​ สตง.ได้ส่งเอกสารสำคัญไปให้​ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่รัฐบาลตั้งขึ้น​และดีเอสไอแล้ว​ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ​แล้วด้วย​ พร้อมประสานบริษัทประกันทั้ง 4 บริษัท​ มาพูดคุย เพราะผู้รับจ้างได้ทำประกันความเสียหายไว้ หากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง​ พิสูจน์สาเหตุของความเสียหายได้แล้ว บริษัทประกันควรเป็นผู้จ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย​ เพราะรัฐจ่ายเงินในส่วนนี้ไปกว่า 900 ล้านบาท​ และเรายืนยันว่า​ “เราเป็นผู้เสียหาย จึงควรคืนเงินจำนวนนี้มา​ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่รัฐได้จ่ายไปทั้งหมด​” ส่วนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ผู้ว่า สตง ชี้แจง​ ว่า ได้ประสานไปยังผู้รับจ้าง ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างการรื้อถอน​


ส่วนข้อกฎหมายที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ ไม่ว่า​ จะเป็นข้อกฎหมายตามสัญญา หรือข้อกฎหมายอื่นๆ เราจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง​ ซึ่งส่งหนังสือไปถามสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว​ ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป​ ซึ่งตอนนี้รอตอบกลับมา​

สำหรับการส่งมอบพื้นที่นั้น ผู้ว่า สตง. ได้ทำหนังสือแจ้งตำรวจ ให้อายัดพื้นที่ไว้ก่อน จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางตำรวจจะเข้ามาอายัดพื้นที่ หลังจากที่​ กทม. ส่งมอบพื้นที่อย่างเป็นทางการแล้ว และตนเองได้เซ็นหนังสือไปยังผู้รับจ้าง ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ทั้งหมดด้วย​ พร้อมกันนี้​ ผู้ว่า สตง. ยังยืนยัน​ ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการสร้างตึกใหม่​ เพราะต้องให้ความสำคัญกับการเยียวยาผู้เสียชีวิต และการสอบสวนหาสาเหตุของตึกถล่ม​ก่อน​

จากนั้น​ ประธานกรรมาธิการ ได้สอบถามความคืบหน้า​ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง​ ว่า​ ภายใน 90 วัน​ จะตอบอะไรได้บ้าง​
โดยนายพงษ์นรา กล่าวชี้แจง​ ว่า​ จะได้คำตอบ​ ตึก​ สตง.ที่ถล่มเกิดความผิดพลาดตรงไหน​ โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้ 6 สถาบันรวมถึงกรมโยธาธิการและผังเมืองรวมเป็น​ 7 หน่วยงาน ทำแบบโมเดลอาคารถล่ม​ หลังจากได้แบบแต่ละสถาบันมาแล้วจะนำมาวิเคราะห์ แบบจำลองทางภูมิศาสตร์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 90 วัน ซึ่งขนาดของแรงแผ่นดินไหว​ ที่จะนำไปใช้กับ แบบจำลองคณิตศาสตร์ จะใช้ขนาดของแรงสั่นสะเทือนที่ตึกกรมโยธาธิการและผังเมืองบนถนนพระราม​ 6​ เป็นค่าตั้ง มาเป็นข้อมูลในการสร้างแบบโมเดล ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้คำตอบว่าสาเหตุการพังถล่มเกิดจากการออกแบบที่ไม่มั่นคงแข็งแรงหรือไม่​


โดยทางอธิบดีกรมโยธา ยังกล่าวถึงการเก็บตัวอย่างวัสดุการก่อสร้างจากตึก​ สตง.ที่พังถล่ม โดยการเก็บ เหล็กเส้น ซึ่งตามหลักแล้วไม่สามารถเก็บจากเหล็กที่โผล่มาจากปูนได้ เนื่องจากไปแปรสภาพไปแล้ว ซึ่งจะต้องเก็บเหล็กที่อยู่ในโครงสร้างและต้องกระเทาะเนื้อ คอนกรีตออกมา โดยขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างออกมาได้แล้ว โดยในช่วงของการเก็บตัวอย่างมีการกำหนดโซน โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด4โซน โดยแต่ละครั้งที่เข้าไปเก็บตัวอย่างนั้นได้เดินเข้าไปพร้อมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ​ หรือ​ ดีเอสไอพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่​ สตง. โดยกรมโยธาธิการ​ ทำหน้าที่ในการกำหนดโซน และการเข้าไปเก็บ ก็พบอุปสรรคว่าตัวอาคาร นั้นถล่ม 100% ทำให้ยากต่อการพิสูจน์ว่าสิ่งก่อสร้างนั้นเป็นการก่อสร้างอะไร

โดยตัวอย่างที่เก็บมาได้นั้นแบ่งออกเป็น เหล็กประมาณ 300 -400​ ชิ้นและคอนกรีตประมาณ 300 ตัวอย่าง ส่วนการเก็บตัวอย่างคอลิฟท์ ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสาเหตุของการพังถล่ม แต่จากการลงพื้นที่ พบว่า​ ฐานคอลิฟท์ พังทลายไปหมด เหลือแค่พื้นฐานล่าง ที่เชื่อมกัน​ แต่ตัวคอกำแพงพังทลายไปหมดแล้ว

ส่วนปัญหาการออกแบบทางอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง​ ระบุว่า​ การออกแบบนั้นไม่สอดคล้องกับกฎหมาย​ แต่ตามหลักการก่อสร้างนั้น​ จะมีเซฟตี้แฟคเตอร์ ซึ่งเป็นหลักการคำนวณเพื่อป้องกันการพังถล่ม ดังนั้น​ การออกแบบที่ไม่เป็นไปตามกฏหมาย อาจจะไม่ใช่สาเหตุของการพังถล่ม​ ซึ่งจะต้องไปรอดูผลของการจำลอง แบบคณิตศาสตร์ เพื่อดูว่าการออกแบบนั้นเป็นสาเหตุหรือไม่ แต่เบื้องต้นถือว่า​ เป็นการทำผิดกฎหมาย แต่จะพังหรือไม่พังขอให้ดูผลการจำลองเสียก่อน

อธิบดีกรมโยธาธิการฯ​ ยังกล่าวต่อด้วยว่า​ การจำลองโมเดล จะอ้างอิงข้อมูลจากแบบเป็นหลัก เพื่อนำมาคำนวณความแข็งแรงของตึก เพราะตัวอย่างวัสดุอุปกรณ์ที่เก็บมาจากหน้างาน ไม่ถือว่าเป็นตัวอย่าง​ที่ดี​ ในการหาความแข็งแรงของตึก​ แต่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบในการหาคำตอบว่าการก่อสร้างเป็นไปตามแบบหรือไม่ได้​

ด้านนายทศพร ศรีเอี่ยม ผู้อำนวยการสถาบันแบบจำลองสารสนเทศอาคาร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอวิดีโอ ขณะที่ตึก สตง.ถล่ม ผนังที่แตกไม่ใช่ชั้นล่างสุด แต่เป็นชั้น 3 ซึ่งแตกก่อนเสาด้านหน้า ซึ่งไม่เหมือนกับกรณีตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ถล่ม ที่ชั้นบนร่วงลงมาใส่ชั้นล่าง แต่สตง.จะเห็นว่า มีการพังทลายของชั้นบน ซึ่งในแบบจะเห็นว่ามีอะไรอยู่ชั้นที่ 19 แต่ตรงนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเพราะแบบผิด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่แน่ว่ามาจากแบบแรก หรือมีใครสั่งให้เปลี่ยนแปลง เพราะผู้รับผิดชอบจะไม่เหมือนกัน

นายทศพร กล่าวว่า ตึก สตง. ไม่ใช่วิศวกรรมที่ดีหลายจุด เพราะเหล็กเยอะ และคอนกรีตที่หุ้มเหล็ก ผลจากการถล่มทำให้ยากต่อการนำไปตรวจสอบ แต่ก็คิดว่า​ ไม่ใช่สาเหตุหลัก สิ่งที่กังวลที่สุดในตอนนี้คือ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหล็กข้ออ้อยกับเหล็กตัวที ที่มีการใช้งานตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งมีการวางมาตรฐานการผลิตเหล็กในประเทศที่ละเอียดมาก เหล็กที่ผลิตออกมาจะต้องผ่านวุฒิวิศวกรเข้าไปตรวจสอบด้วย จึงต้องย้อนกลับไปย้ำว่า​ การออกแบบตึก สตง.ไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง โดยเฉพาะชั้น 19 แต่บอกไม่ได้ว่า​ การออกแบบเป็นอย่างนั้​นมาตั้งแต่ต้นหรือไม่ เพราะเมื่อขอดูข้อมูลจากตำรวจและดีเอสไอ บอกว่า​ เป็นหลักฐานไม่สามารถเปิดเผยได้.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย

รวบ 2 นักพนันปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 22 มิ.ย.- รวบ 2 นักพนันชาวไทย อยากกลับภูมิลำเนา หลบจากบ่อนปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติ เหตุนำพาสปอร์ตจำนำไว้ที่บ่อน ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อคืนที่ผ่านมา กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ, ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12(ร้อย ชค.1201) เข้มงวดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะออกทำการลาดตระเวนแนวชายแดน ตรวจพบหญิง 2 คน กำลังปีนเครื่องกีดขวาง(ลวดหนามหีบเพลง) จากฝั่งกัมพูชา เข้ามาฝั่งประเทศไทย บริเวณแนวชายแดนคลองลึก บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากตรวจสอบเอกสารประจำตัวทราบชื่อต่อมา น.ส.จุฑาวรรณ ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ เดินทางไปเล่นการพนันช่วงเดือน เม.ย.68 ที่จุดผ่านแดนถาวร บ.คลองลึก และเสียการพนัน จึงได้จำนำหนังสือเดินทาง (passport) ไว้ที่บ่อน และ นางปนัดดา ภูมิลำเนา จ.ขอนแก่น เดินทางไปเล่นการพนัน ตั้งแต่ ส.ค.66 ทางช่องทางธรรมชาติ โดยทั้ง 2 คน ให้การเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ […]