‘เท้ง’ ถามกลับใช้วิธีดูด สส.แบบนี้เหมาะสมหรือไม่

ขอนแก่น 14 พ.ค.- ‘เท้ง’ รับคลิปเสียงหลุดคุย ‘กฤษฎิ์’ เป็นของจริง ท้า ‘ธรรมนัส’ หากมั่นใจข้อมูล เปิดชื่อมา ถามกลับใช้วิธีดูด สส.แบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ไม่รู้คนปล่อยมีเจตนาอะไร เหตุ ปชน.ไม่เสียหายเลย เผยหน่วยงานแรกที่ยื่นตีความหนังสือยุติบทบาท คือ กกต.


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงระหว่างตนเอง และนางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน โดยยืนยันว่า เป็นบทสนทนาของตนและนางสาวกฤษฎิ์จริง ซึ่งเมื่อตนได้ไปพูดคุย ก็ไม่ได้ทราบเช่นเดียวกันว่า ใครแอบอัด และคงตอบแทนนางสาวกฤษฎิ์ไม่ได้

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ภายหลังการทราบข่าว ไม่ได้มีความกังวลใจใดๆ เพราะตนรู้ตัวอยู่เสมอว่าเข้าไปพูดคุยอะไรบ้าง เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ได้พูดคุยกันไป ไม่มีอะไรต่อขัดต่อหลักการของพรรค และเชื่อมั่นว่า เป็นการเข้าไปพูดคุย เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวของนางสาวกฤษฎิ์ ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจกับ สส.เขต 6 จังหวัดชลบุรี ก็ต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน


ส่วนเจตนาคนที่ปล่อย ทำไปเพื่อหวังผลอะไรนั้น หากดูในเนื้อหาของคลิป เชื่อว่าตน และพรรคไม่ได้เสียหายใดๆ จึงไม่แน่ใจว่า คนปล่อยคลิปทำไปเพื่ออะไร แต่สิ่งที่ตนอยากตั้งคำถามมากกว่า นอกจากตัวของนางสาวกฤษฎิ์และทีมงานที่ปล่อยออกมา คือ พรรคกล้าธรรม และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ว่า การที่จะได้ สส. เพิ่มมาอีกหนึ่งคน ด้วยวิธีการดูด สส.พรรคอื่นเข้าไป เป็นวิธีการที่สวยงามถูกต้องหรือไม่ หรือต้องใช้วิธีการนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อใดๆ ที่เขาต้องการจำนวน สส.ไปต่อรองจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีมากขึ้นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้รับฟังข้อมูลครบทุกด้าน เมื่อวานนี้ที่ตน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และนายสหัสวัส คุ้มคง สส.ชลบุรีพรรคประชาชน ได้พูดไปหมดแล้ว จึงเชื่อว่า สิ่งที่นางสาวกฤษฎิ์ออกมาแถลงข่าว เอาประโยชน์ตัวเองเป็นตัวตั้ง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้เอาเรื่องประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง หรือการดำเนินการของพรรคเป็นตัวตั้ง ดังนั้น ทุกการที่ให้เหตุผลมา ตนเชื่อว่า ทั้งกระบวนการก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่กรณีคลิปเสียง ซึ่งตนพยายามทำความเข้าใจอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นไปตามที่เขาบอก

สำหรับกรณีที่นางสาวกฤษฎิ์ หารือในสภา เพื่อขอเข้าเฝ้ารับเสด็จ แต่พรรคไม่มองว่าเป็นความผิดนั้น เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เราไม่ได้มองว่า เป็นอะไรที่ขัดกับพรรคอยู่แล้ว แต่มองว่าการนำเสนอนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมา เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมสมัยใหม่ได้ เป็นสิ่งที่เราคิดถึงมาโดยตลอด ส่วนกรณีของนางสาวกฤษฎิ์ ไม่ใช่ความผิดทางอาญา รวมถึงเราไม่เคยดำเนินการตามความผิดวินัยของพรรคแต่อย่างใด ส่วนที่บอกว่า เป็นฟางเส้นสุดท้าย อาจจะเป็นสิ่งที่เขารู้สึกไปเอง ย้ำว่า สิ่งที่เขาหารือในสภา ไม่ได้เป็นการหารือเรื่องของตัวเอง เพราะไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชนแต่อย่างใด


ส่วนอยากฝากอะไรไปถึงร้อยเอกธรรมนัสหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า สิ่งที่อยากได้ สส.เพิ่มเข้ามาใหม่ในพรรคกล้าธรรม โดยใช้วิธีดูด สส.เพิ่มเข้าไปแบบนี้ เป็นวิธีการที่เหมาะสมหรือไม่ และทำไปด้วยเหตุผลอะไร

สำหรับกรณีที่ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชรพรรคกล้าธรรม เตรียมยื่นร้องจริยธรรมต่อนายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรีพรรคประชาชน กรณีเปิดเผยเคยถูกเสนอเงิน 55 ล้านบาท ซื้อตัวเป็นงูเห่าให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อในบริสุทธิ์ใจของนายยอดชาย และเชื่อว่า การให้การของเขาเป็นเรื่องจริง หากจะมีการดำเนินการใดๆ ก็เชื่อว่านายยอดชายจะเข้าไปชี้แจง

นายณัฐพงษ์ เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคประชาชนจะยื่นให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตีความหนังสือขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชนของนางสาวกฤษฎิ์ว่า ขณะนี้ให้ทีมกฎหมายเตรียมร่างหนังสือไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียบร้อยแล้ว สำหรับขั้นตอนต่อไป ต้องรอ กกต.ตอบ หากตีความว่า ไม่ได้เป็นหนังสือลาออก จะดำเนินการยื่นร้องต่อหน่วยงานอื่นต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีที่นางสาวกฤษฎิ์ ระบุ หากพรรคประชาชนไม่ขับออก ก็จะไปนั่งกับพรรคกล้าธรรม และโหวตสวนมติพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ ระบุว่า หากมีการดำเนินการแบบนั้น เราคงไปห้ามอะไรเขาไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเราเอง จะดำเนินการตัดสิทธิ์พึงมีทุกอย่าง เรื่องนี้เป็นเรื่อง กระบวนการทางด้านกฎหมายด้วย แต่ในการปฏิบัติ เราปฏิบัติเช่นนี้ จึงขอรอการตีความจาก กกต.ก่อนว่า ความเป็นสมาชิกภาพ สส.เขาสิ้นสุดหรือไม่ เพราะหากพรรคมีดำเนินการใดๆ ก็อาจจะทำให้มองได้ว่า พรรคยังคิดว่าเขายังไม่สิ้นสุดสมาชิกภาพ สส.หรือไม่ ย้ำว่า คงต้องรอการตีความจาก กกต.ก่อน

เมื่อถามถึงกรณีที่ร้อยเอกธรรนัส ระบุ จะมี สส.จากพรรคประชาชนย้ายเข้าไปอีก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากพรรคกล้าธรรมมั่นใจในข้อมูลตัวเอง ก็อยากให้เปิดชื่อออกมา ซึ่งทุกคนที่อยู่ในรายชื่อนั้น ก็คงออกมาชี้แจง ตนอยากให้เกิดการบลัฟกันไปบลัฟกันมา โยนกันไปโยนกันมา ถ้ามั่นใจในข้อมูลตัวเองจริงๆ ก็เปิดชื่อออกมาได้เลย

เมื่อถามต่อว่า อาจมีบิ๊กเนมของพรรคไทยสร้างไทยด้วย จะกระทบต่อเสถียรภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้รับผลกระทบอะไรเยอะ ในการทำงาน หรือในการผลักดันประเด็นร่วมกัน แต่ในส่วนของพรรคไทยสร้างไทย ตนคงตอบแทนเขาไม่ได้

เมื่อถามว่า การแสดงออกของนางสาวกฤษฎิ์ คืองูเห่า หรือความเห็นต่างในการทำหน้าที่ สส. นายณัฐพงษ์ เห็นว่า พฤติกรรมหนึ่งของนางสาวกฤษฎิ์ ไม่ว่าจะแอบอัดคลิปตน โดยที่ตนไม่รู้ตัว หรือการพยายามยืนยัน และกำหนดวันแถลงข่าวที่ผ่านมา เป็นเหตุที่เราเชื่อได้ว่า ก่อนหน้านี้ มีการตกลงกันมาแล้วกับพรรคกล้าธรรม หากย้อนดูจากการให้ข่าวของพรรคกล้าธรรม ก็มีการให้ข่าวแบบนี้ล่วงหน้า

เพราะฉะนั้น หากคุณมีปัญหา ไม่อยากไปต่อแนวทางอุดมการณ์พรรค คุณก็เข้ามาคุยกับพวกเรา แต่พฤติกรรมที่ผ่านมา เมื่อตนพยายามเข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจให้มากที่สุด แต่สุดท้ายเหตุผลของเขาฟังไม่ขึ้น และเราเชื่อว่าเขามีการตกลงอะไรกับพรรคอื่นไปแล้ว ก่อนที่จะย้ายพรรคล่วงหน้า ซึ่งเป็นการขัดต่อวินัยพรรค และแนวทางการทำงานของพรรคอย่างชัดเจน และปฏิเสธไม่ได้ว่า ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค ที่ต้องอาสาเข้ามารับใช้ประชาชน โดยไม่ได้ยึดผลประโยชน์ของตัวเองเป็นตัวตั้ง

นายณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า กระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรคดีขึ้น และรัดกุมมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า กระบวนการคัดสรรใดๆ ก็ตาม ไม่สามารถคัดได้ 100% เพราะเรื่องที่ยากที่สุด คือใจของคน วันนี้อาจจะอยู่กับเรา แต่ในอนาคตเปลี่ยนใจได้ตลอด และเป็นโจทย์ที่พรรคต้องมาออกแบบกระบวนการ ไม่ใช่แค่การรับสมัคร แต่รวมถึงการทำงาน สส.ต่อไปในอนาคต รวมถึงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการตรวจสอบการทำงานของ สส.ด้วยเช่นเดียวกัน ตลอดจนการเปิดเว็บไซต์ของเรา เพื่อสะท้อนว่า สส.ของเราทำงานดี งานหนักอย่างไรบ้าง และเป็นการสะท้อนภาพการทำงาน.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]