‘เท้ง’ ถามกลับใช้วิธีดูด สส.แบบนี้เหมาะสมหรือไม่

ขอนแก่น 14 พ.ค.- ‘เท้ง’ รับคลิปเสียงหลุดคุย ‘กฤษฎิ์’ เป็นของจริง ท้า ‘ธรรมนัส’ หากมั่นใจข้อมูล เปิดชื่อมา ถามกลับใช้วิธีดูด สส.แบบนี้เหมาะสมหรือไม่ ไม่รู้คนปล่อยมีเจตนาอะไร เหตุ ปชน.ไม่เสียหายเลย เผยหน่วยงานแรกที่ยื่นตีความหนังสือยุติบทบาท คือ กกต.


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงระหว่างตนเอง และนางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน โดยยืนยันว่า เป็นบทสนทนาของตนและนางสาวกฤษฎิ์จริง ซึ่งเมื่อตนได้ไปพูดคุย ก็ไม่ได้ทราบเช่นเดียวกันว่า ใครแอบอัด และคงตอบแทนนางสาวกฤษฎิ์ไม่ได้

นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ภายหลังการทราบข่าว ไม่ได้มีความกังวลใจใดๆ เพราะตนรู้ตัวอยู่เสมอว่าเข้าไปพูดคุยอะไรบ้าง เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ได้พูดคุยกันไป ไม่มีอะไรต่อขัดต่อหลักการของพรรค และเชื่อมั่นว่า เป็นการเข้าไปพูดคุย เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ที่ผ่านมา ในการแถลงข่าวของนางสาวกฤษฎิ์ ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจกับ สส.เขต 6 จังหวัดชลบุรี ก็ต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน


ส่วนเจตนาคนที่ปล่อย ทำไปเพื่อหวังผลอะไรนั้น หากดูในเนื้อหาของคลิป เชื่อว่าตน และพรรคไม่ได้เสียหายใดๆ จึงไม่แน่ใจว่า คนปล่อยคลิปทำไปเพื่ออะไร แต่สิ่งที่ตนอยากตั้งคำถามมากกว่า นอกจากตัวของนางสาวกฤษฎิ์และทีมงานที่ปล่อยออกมา คือ พรรคกล้าธรรม และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ว่า การที่จะได้ สส. เพิ่มมาอีกหนึ่งคน ด้วยวิธีการดูด สส.พรรคอื่นเข้าไป เป็นวิธีการที่สวยงามถูกต้องหรือไม่ หรือต้องใช้วิธีการนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อใดๆ ที่เขาต้องการจำนวน สส.ไปต่อรองจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีมากขึ้นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้รับฟังข้อมูลครบทุกด้าน เมื่อวานนี้ที่ตน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และนายสหัสวัส คุ้มคง สส.ชลบุรีพรรคประชาชน ได้พูดไปหมดแล้ว จึงเชื่อว่า สิ่งที่นางสาวกฤษฎิ์ออกมาแถลงข่าว เอาประโยชน์ตัวเองเป็นตัวตั้ง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้เอาเรื่องประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง หรือการดำเนินการของพรรคเป็นตัวตั้ง ดังนั้น ทุกการที่ให้เหตุผลมา ตนเชื่อว่า ทั้งกระบวนการก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่กรณีคลิปเสียง ซึ่งตนพยายามทำความเข้าใจอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นไปตามที่เขาบอก

สำหรับกรณีที่นางสาวกฤษฎิ์ หารือในสภา เพื่อขอเข้าเฝ้ารับเสด็จ แต่พรรคไม่มองว่าเป็นความผิดนั้น เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เราไม่ได้มองว่า เป็นอะไรที่ขัดกับพรรคอยู่แล้ว แต่มองว่าการนำเสนอนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมา เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมสมัยใหม่ได้ เป็นสิ่งที่เราคิดถึงมาโดยตลอด ส่วนกรณีของนางสาวกฤษฎิ์ ไม่ใช่ความผิดทางอาญา รวมถึงเราไม่เคยดำเนินการตามความผิดวินัยของพรรคแต่อย่างใด ส่วนที่บอกว่า เป็นฟางเส้นสุดท้าย อาจจะเป็นสิ่งที่เขารู้สึกไปเอง ย้ำว่า สิ่งที่เขาหารือในสภา ไม่ได้เป็นการหารือเรื่องของตัวเอง เพราะไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชนแต่อย่างใด


ส่วนอยากฝากอะไรไปถึงร้อยเอกธรรมนัสหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า สิ่งที่อยากได้ สส.เพิ่มเข้ามาใหม่ในพรรคกล้าธรรม โดยใช้วิธีดูด สส.เพิ่มเข้าไปแบบนี้ เป็นวิธีการที่เหมาะสมหรือไม่ และทำไปด้วยเหตุผลอะไร

สำหรับกรณีที่ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชรพรรคกล้าธรรม เตรียมยื่นร้องจริยธรรมต่อนายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรีพรรคประชาชน กรณีเปิดเผยเคยถูกเสนอเงิน 55 ล้านบาท ซื้อตัวเป็นงูเห่าให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อในบริสุทธิ์ใจของนายยอดชาย และเชื่อว่า การให้การของเขาเป็นเรื่องจริง หากจะมีการดำเนินการใดๆ ก็เชื่อว่านายยอดชายจะเข้าไปชี้แจง

นายณัฐพงษ์ เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคประชาชนจะยื่นให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตีความหนังสือขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชนของนางสาวกฤษฎิ์ว่า ขณะนี้ให้ทีมกฎหมายเตรียมร่างหนังสือไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียบร้อยแล้ว สำหรับขั้นตอนต่อไป ต้องรอ กกต.ตอบ หากตีความว่า ไม่ได้เป็นหนังสือลาออก จะดำเนินการยื่นร้องต่อหน่วยงานอื่นต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีที่นางสาวกฤษฎิ์ ระบุ หากพรรคประชาชนไม่ขับออก ก็จะไปนั่งกับพรรคกล้าธรรม และโหวตสวนมติพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ ระบุว่า หากมีการดำเนินการแบบนั้น เราคงไปห้ามอะไรเขาไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคเราเอง จะดำเนินการตัดสิทธิ์พึงมีทุกอย่าง เรื่องนี้เป็นเรื่อง กระบวนการทางด้านกฎหมายด้วย แต่ในการปฏิบัติ เราปฏิบัติเช่นนี้ จึงขอรอการตีความจาก กกต.ก่อนว่า ความเป็นสมาชิกภาพ สส.เขาสิ้นสุดหรือไม่ เพราะหากพรรคมีดำเนินการใดๆ ก็อาจจะทำให้มองได้ว่า พรรคยังคิดว่าเขายังไม่สิ้นสุดสมาชิกภาพ สส.หรือไม่ ย้ำว่า คงต้องรอการตีความจาก กกต.ก่อน

เมื่อถามถึงกรณีที่ร้อยเอกธรรนัส ระบุ จะมี สส.จากพรรคประชาชนย้ายเข้าไปอีก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากพรรคกล้าธรรมมั่นใจในข้อมูลตัวเอง ก็อยากให้เปิดชื่อออกมา ซึ่งทุกคนที่อยู่ในรายชื่อนั้น ก็คงออกมาชี้แจง ตนอยากให้เกิดการบลัฟกันไปบลัฟกันมา โยนกันไปโยนกันมา ถ้ามั่นใจในข้อมูลตัวเองจริงๆ ก็เปิดชื่อออกมาได้เลย

เมื่อถามต่อว่า อาจมีบิ๊กเนมของพรรคไทยสร้างไทยด้วย จะกระทบต่อเสถียรภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ได้รับผลกระทบอะไรเยอะ ในการทำงาน หรือในการผลักดันประเด็นร่วมกัน แต่ในส่วนของพรรคไทยสร้างไทย ตนคงตอบแทนเขาไม่ได้

เมื่อถามว่า การแสดงออกของนางสาวกฤษฎิ์ คืองูเห่า หรือความเห็นต่างในการทำหน้าที่ สส. นายณัฐพงษ์ เห็นว่า พฤติกรรมหนึ่งของนางสาวกฤษฎิ์ ไม่ว่าจะแอบอัดคลิปตน โดยที่ตนไม่รู้ตัว หรือการพยายามยืนยัน และกำหนดวันแถลงข่าวที่ผ่านมา เป็นเหตุที่เราเชื่อได้ว่า ก่อนหน้านี้ มีการตกลงกันมาแล้วกับพรรคกล้าธรรม หากย้อนดูจากการให้ข่าวของพรรคกล้าธรรม ก็มีการให้ข่าวแบบนี้ล่วงหน้า

เพราะฉะนั้น หากคุณมีปัญหา ไม่อยากไปต่อแนวทางอุดมการณ์พรรค คุณก็เข้ามาคุยกับพวกเรา แต่พฤติกรรมที่ผ่านมา เมื่อตนพยายามเข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจให้มากที่สุด แต่สุดท้ายเหตุผลของเขาฟังไม่ขึ้น และเราเชื่อว่าเขามีการตกลงอะไรกับพรรคอื่นไปแล้ว ก่อนที่จะย้ายพรรคล่วงหน้า ซึ่งเป็นการขัดต่อวินัยพรรค และแนวทางการทำงานของพรรคอย่างชัดเจน และปฏิเสธไม่ได้ว่า ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรค ที่ต้องอาสาเข้ามารับใช้ประชาชน โดยไม่ได้ยึดผลประโยชน์ของตัวเองเป็นตัวตั้ง

นายณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า กระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรคดีขึ้น และรัดกุมมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า กระบวนการคัดสรรใดๆ ก็ตาม ไม่สามารถคัดได้ 100% เพราะเรื่องที่ยากที่สุด คือใจของคน วันนี้อาจจะอยู่กับเรา แต่ในอนาคตเปลี่ยนใจได้ตลอด และเป็นโจทย์ที่พรรคต้องมาออกแบบกระบวนการ ไม่ใช่แค่การรับสมัคร แต่รวมถึงการทำงาน สส.ต่อไปในอนาคต รวมถึงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการตรวจสอบการทำงานของ สส.ด้วยเช่นเดียวกัน ตลอดจนการเปิดเว็บไซต์ของเรา เพื่อสะท้อนว่า สส.ของเราทำงานดี งานหนักอย่างไรบ้าง และเป็นการสะท้อนภาพการทำงาน.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย