รัฐสภา 8 พ.ค.-กมธ.กาสิโน วุฒิสภา เตรียมเชิญนายกฯ แจง 15 พ.ค. เล็งเชิญอดีตนายกฯ “ชวน-อภิสิทธิ์-ทักษิณ-สมชาย” และอดีตประธานรัฐสภา “มีชัย-อาทิตย์” ให้ความเห็น ย้ำทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่มีธง หนุนเดินหน้าทำประชาพิจารณ์ เคาะตั้ง 2 อนุ กมธ. ศึกษาผลกระทบกฎหมาย-สังคม-เศรษฐกิจ ตีกรอบเสร็จปลาย ก.ค.
นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา แถลงผลการประชุมวันนี้ ว่า ที่ประชุมมีความคืบหน้าไปมากและเพื่อให้การทำงานราบรื่นและชัดเจนมากขึ้นมีมติตั้งอนุกรรมาธิการ 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาผลกระทบทางเศรฐกิจของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์ ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร จะได้หรือเสียประโยชน์ด้านใด โดยมีนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม เป็นประธาน และคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาผลกระทบทางสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์ (รวมถึงสิ่งแวดล้อม การผังเมือง ประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และการทำประชาพิจารณ์ ตามมาตรา 77 โดยมีนายนิพนธ์ เอกวานิช เป็นประธานซึ่งจะศึกษาข้อกฎหมายและความเห็นของประชาชน โดยจะพิจารณาทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร บวกกาสิโนไปด้วย
นายวีระพันธ์ ยอมรับถึงกรณีข้อถกเถียงเรื่องการเพิ่มนิยามคำว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” และมองว่าดี ที่มีความเห็นหลากหลาย ดังนั้น จึงต้องล้างความเห็นส่วนตัวทั้งหมด ต้องเป็นกลางที่สุด เพื่อรับฟังความเห็นทุกด้าน ตลอดจนการหารือเรื่องการทำประชาพิจารณ์ แต่ยังไม่มีการกำหนดว่า จะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ ยังมีความเห็นว่า ในการประชุมครั้งหน้า 15 พ.ค. คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญ คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยอยากให้นายกรัฐมนตรีมาด้วยตัวเองเพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ ยืนยันว่า ไม่ได้บังคับ เพียงแต่เชิญไปตามระเบียบ ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้รัฐมนตรีท่านใดมาชี้แจงแทนก็ได้ รวมถึงยังมีการเสนอให้มีการเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย นายเศรษฐา ทวีสิน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงจะเชิญอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อาทิ นายชวน หลีกภัย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์มาให้ความเห็นต่างๆ
นายวีระพันธ์ ยังกล่าวว่าที่ประชุมได้มีการพูดคุยว่าควรจะมีการทำประชาพิจารณ์แทนประชามติ ถามความเห็นบุคคลต่างๆ ทั่วประเทศไทย ซึ่งพูดคุยกันไว้แล้วแต่ไม่ได้กำหนดเป็นหน้าที่ของอนุกรรมาธิการด้านสังคม ที่จะไปดำเนินการ พร้อมยืนยันว่ากรรมาธิการจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง เปิดให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังอย่างเปิดเผย และไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง อยากทำให้เร็วตีกรอบปลายก.ค.น่าจะเสนอกรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่การประชุมได้มีการหารือถึงหัวข้อหลักในการศึกษา 3 เรื่อง คือ สังคม เศรษฐกิจ และกฎหมาย รวมถึงนิยามคำว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” เนื่องจากมีการเสนอว่า อยากให้ใช้คำตรงๆ เพราะจะสามารถสื่อความหมายได้มากกว่า ตลอดจนการเพิ่มคำว่า “การพนัน” ที่หมายรวมถึงการพนันทุกชนิด และการพนันออนไลน์ เข้าไปด้วย
เช่น เสนอให้ใช้ “สถานบันเทิงครบวงจรที่มีบ่อนกาสิโน หรือการพนันทุกรูปแบบ รวมทั้งการพนันออนไลน์”, ให้ใช้ชื่อ “สถานบันเทิงครบวงจรที่มีบ่อนกาสิโน” สั้นๆ แล้วจึงเติมรายละเอียดในบทนำเพิ่มแทน, ให้เขียนเพิ่มความหมายไว้ในนิยามศัพท์ ว่าจะหมายรวมถึงการพนันทุกรูปแบบ ดังนั้น จึงใช้คำว่า “สถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์” ซึ่งสอดรับตามร่างกฎหมายของรัฐบาล และหากเกิดกรณีต้องมีการทำประชามติ จะได้ป้องกันการเกิดความสับสนในการตอบคำถาม นอกจากนั้น ยังมีข้อเสนอให้รวมถึงผลกระทบด้านอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไปในการศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าระหว่างการประชุมมีการยืนยันถึงเรื่องความเป็นกลาง อย่าพิจารณาโดยมีธงในใจ นำเสนอในภาพรวม เมื่อการศึกษาครบถ้วนรอบด้านแล้ว สว.ทั้งหมด จะได้นำมาชั่งตวงวัด และส่งไปยังรัฐบาล เพื่อให้เกิดการยอมรับ รวมถึงจะได้สามารถตอบกับประชาชนได้ ป้องกันการถูกถามกลับ ว่าถ้าไม่เอาแล้วจะมาศึกษากันทำไม ทั้งนี้ตามกรอบเวลาเดิม 180 วัน ที่ประชุมมีความเห็นว่า อยากให้เร่งรัดจัดทำร่างรายงานให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคม เนื่องจากจะมีการเปิดสมัยประชุมในต้นเดือนกรกฎาคม จึงกังวลว่า ทางรัฐบาลอาจจะเสนอกฎหมายเข้ามาก่อน.-319.-สำนักข่าวไทย
