“ปชน.” ปูดสภาฯ ละเลงงบฉ่ำ ทุ่ม 99 ล้าน สร้างห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง

รัฐสภา 2 พ.ค. – “ปชน.” ปูดสภาฯ ละเลงงบฉ่ำ ขอทำโรงหนัง 4D จำนวน 180 ล้านบาท ทุ่ม 99 ล้านบาท สร้างห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง ภาพเสียงจัดเต็ม แซะเลียนแบบ สตง. หรือไม่ ส่วน สว. ไม่น้อยหน้า ตั้งงบเรียนภาษาจีน 15 คน 2.3 ล้านบาท อ้างต้องแคมป์ที่ประเทศจีน


นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) ได้เข้าไปรับฟังคำชี้แจงจากทางสำนักเลขาสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน ซึ่งตนมองว่าค่อนข้างร้ายแรง ในฐานะที่เราเป็นการตรวจสอบการใช้เงินภาษีของประชาชน ของหน่วยงานทุกประเทศ แต่หากเราไม่สามารถตรวจสอบองค์กรตนเองได้ แสดงว่ามีปัญหา

โดยหมวดงบสร้างใหม่ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีการของบก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่บริเวณพิพิธภัณฑ์รัฐสภาจำนวน 42 ล้านบาท โดยมีงบผูกพันไปถึงปี 2570 อีกประมาณ 90 ล้านบาท รวม 120 ล้านบาท ตนสงสัยว่ามีความจำเป็นอะไรที่ของบขนาดนั้น ประชาชนได้จะได้ประโยชน์อะไร


“ตนไม่แน่ใจว่ามีคนไปใช้บริการหรือไม่ ปัจจุบันอยู่ชั้นเอ็มบี 1 ตนเองยังไม่เคยไปเหมือนกัน เขาบอกมีรูปปั้นรัชกาลที่ 7 อยู่ เดี๋ยวเสร็จจากแถลงข่าวตนจะลงไปดู” นายภัณฑิล กล่าว

นายภัณฑิล กล่าวว่า อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนาระบบโรงภาพยนตร์ 4D ในสภาฯ ไม่ใช่มีแค่แสงสีเสียง แต่จะมีลม มีฝน มีแรงสั่นสะเทือน เหมือนที่เราไปชมในห้างสรรพสินค้า งบประมาณ180 ล้านบาท เราได้ถามถึงความจำเป็น พร้อมส่งเสริมการประชาธิปไตยอย่างไร ซึ่งทางผู้บริหารสำนักงบประมาณตอบคำถามไม่ได้ ไม่ทราบรายละเอียด จึงได้ทำหนังสือไปถึงฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารและสถานที่เพื่อให้ได้คำตอบ

มีการของบทำโครงการปรับปรุงไฟส่องสว่างห้องสัมมนา ชั้น B1 และ B2 จำนวน 118 ล้านบาท ไม่เข้าใจว่าจะเติมไฟไปทำไม อยากไปสอบถามฝ่ายอาคารเหมือนกันว่าไฟเสียหรือไม่ จะเปลี่ยนไฟให้สว่าง อลังการหรืออย่างไร ถ้าหากของเก่ายังใช้ได้อยู่ ในส่วนของศาลาแก้วบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ทั้งสองหลังมีการของบปรับปรุง 123 ล้านบาท ซึ่งมีการระบุว่าจะทุบทำใหม่ เพราะมีน้ำรั่วซึมลงไปบริเวณชั้นล่างลานจอดรถ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดใช้งาน แต่จะทุบทำใหม่ ตนถามว่าไม่อายประชาชนเลยใช่หรือไม่


นายภัณฑิล กล่าวว่า มีการของบปรับปรุงห้องประชุม CB406 งบ 118 ล้านบาท ซึ่งตนก็ใช้อยู่เป็นประจำก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่ามีเรื่องขอมา รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ครัวอาคารรัฐสภา 117 ล้านบาท เดิมอยู่ที่ชั้น 1 แต่บริเวณดังกล่าวมีความตั้งทำเป็นห้องสันทนาการของสโมสรรัฐสภา ซึ่งตนมองว่าควรทำตรงเดิมให้ดีกว่า ถึงแม้ว่าแผนเดิมจะจัดให้อยู่บริเวณชั้น B2 ซึ่งงบที่ขอมาสามารถทำร้านอาหารได้เลย ตนได้ถามไปทางประธานสภาแต่ยังไม่ได้คำตอบ

นายภัณฑิล กล่าวว่า มีการของบจัดทำระบบภาพระบบเสียงห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง 99 ล้านบาท เราจะเลียนแบบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ใช่หรือไม่ เราจะเอาไปรับรองใคร จึงขอเรียกร้องขอความโปร่งใส รายละเอียดความจำเป็น

นายภัณฑิล กล่าวว่า ในส่วนของ สว. มีการขอตั้งเบี้ยประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน 30 คน เบี้ยประชุมคนละ1,500 บาท ที่แปลกคือวางการประชุมไว้ 52 ครั้งต่อปี คือประชุมทุกสัปดาห์ แปลกใจว่ามี กมธ. ทุกสัปดาห์ โดยไม่มีวันหยุด ซึ่งเขาชี้แจงว่าตั้งเผื่อไว้ ขอประมาณงบ 2.34 ล้านต่อปี และที่น่าสนใจคือค่า
ใช้จ่ายในการเพิ่มทักษะภาษาจีนสำหรับ สว. ตนตกใจที่ใช้เงินเงินหลวงไปเรียนภาษาจีน โดยของบ 2.3 ล้านบาท อ้างว่าเรียนเสร็จจะมีการบินไปเข้าแคมป์ที่ประเทศจีน โดยขอเฉพาะเจาะจง 15 คน ความชอบธรรมอยู่ตรงไหน ประหลาดมาก ถึงเงินไม่ได้มาก แต่ขอเรียนภาษาจีน ถ้าขอเจ้าหน้าที่สภาฯ ยังพอเข้าใจได้ แต่สำหรับ สว. จะเรียนคาดหวังผลอะไร

นายภัณฑิล กล่าวว่า ตนเรียกร้องให้เปิดเผยกับประชาชน ตนไม่สามารถยกมือผ่านได้ในวาระ 1 หรือวาระ 2 ในสภาฯ เพราะไม่ชอบธรรมเราจะตอบประชาชนอย่างไรที่เราตรวจสอบคนอื่น แต่ในเมื่อตัวเราเองยังไม่สามารถตอบสังคมได้ ทุกคนอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไร ขั้นตอนต่อไปตนจะเรียกผู้ออกแบบมาถามถึงเจตนาดั้งเดิมของการออกแบบสภาฯ แห่งนี้ว่าแต่ละพื้นที่เอาไว้ใช้ทำอะไร ประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหน.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย