มั่นใจ​แบบจำลองทางคณิ​ตศาสตร์พิสูจน์สาเหตุตึก สตง.ถล่มได้​

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – อธิบดีกรมโยธาฯ มั่นใจ​แบบจำลองทางคณิ​ตศาสตร์จะ​สามารถพิสูจน์สาเหตุอาคาร สตง.ถล่มได้​


นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคาร สตง. เข้ารายงานความคืบหน้าผลการตรวจสอบ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า​เข้ารายงานใน​ 3 ประเด็น​ คือ เรื่องการตรวจสอบความเสียหายของอาคาร​ แบ่งเป็นอาคารทั้งของภาครัฐและเอกชน​ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ​และต่างจังหวัด​ เบื้องต้นมีการตรวจสอบอาคารภาครัฐใน กทม.​ 300 กว่าหน่วยงาน​ ประมาณ​ 900 กว่าอาคาร​ พบว่ามีความเสียหายรุนแรงกระทบต่อการใช้งานเพียง​ 1 อาคาร​ คือ​อาคารของ สตง.​

ส่วนต่างจังหวัดจะเน้นอาคารโรงเรียน​ โรงพยาบาล​ อาคารราชการ​ ซึ่งมีการตรวจสอบไปแล้ว​ 3,000 กว่าหน่วยงาน​ ประมาณ​ 9,000 กว่าอาคาร​ ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งมีอาคารที่เสียหายและปิดการใช้ 16​ อาคาร​ จากทั้งหมด​ 76 จังหวัด​ อาคารที่เสียหายจะเห็นได้ว่ามีน้อยมาก และความรุนแรงระดับที่สามารถซ่อมแซมได้ตามหลักวิชาการก่อนที่จะเปิดบริการให้ใช้


ในส่วนที่เป็นอาคารของเอกชน มีการแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือเป็นอาคาร 9 ประเภท ตามกฎหมายที่ต้องมีการตรวจสอบทุกปี ให้แก่อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารที่มีการชุมนุมที่มีพื้นที่เกิน​ 1,000 ตารางเมตร ​ โรงมหรสพ สถานบริการที่มีพื้นที่มากกว่า 200 ตารางเมตร โรงแรมที่เกิน​ 80 ห้อง​ อาคารชุด​ หอพักที่มีเนื้อที่เกิน​ 2,000 ตารางเมตร​ และโรงงานที่มีความสูง​ 1 ชั้นขึ้นไป​ และมีพื้นที่เกิน 5,000 ตารางเมตร​ และป้ายที่มีความสูง​ เกิน​ 15 เมตร​ โดยอาคาร​ 9 ประเภทเหล่านี้​ โดยปกติต้องมีการตรวจสอบทุกปี​โดยผู้ตรวจสอบที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ​กรมโยธาธิการ​และ​ผังเมือง​

อธิบดีกรมโยธาฯ​ กล่าวอีกว่า​ หลังจากเกิดเหตุ​การณ์​แผ่นดินไหว​เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา​ นายอนุทิน​ ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งหนึ่ง​ว่าแผ่นดินไหวกระทบต่ออาคาร​ 9 ประเภท​เหล่านี้หรือไม่​ ซึ่งใน กทม.​ ด้านนายชัชชาติ​ สิทธิ​พันธุ์​ ผู้ว่าการ​กรุงเทพ​มหา​นคร​ ได้ออกคำสั่งให้เจ้าของอาคาร​ 9 ประเภท มีการตรวจสอบ​และได้มีการออกคำสั่งไปแล้ว​ 11,000 อาคาร ในเขต​ กทม.​ และมีการตรวจสอบแล้ว​ 5,000 กว่าอาคาร​ ที่มีการตรวจสอบและได้มีการรายงานมาแล้วว่าไม่ได้รับความเสียหาย​รุนแรงขั้นต้องปิดการใช้ หรือถึงขั้นสีแดง

ในส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดมีประมาณ 6 หมื่นกว่าอาคาร ใน 76 จังหวัด ทางท้องถิ่นได้มีการแจ้งให้เจ้าของอาคารตรวจสอบอยู่ การรายงานให้กรมโยธาธิการฯ ทราบในทุก 15 วัน ในกรณีที่เป็นอาคาร 9 ประเภท


ส่วนอาคารอื่นๆ อาคารขนาดเล็ก ทาง กทม. จะรับเรื่องร้องเรียนผ่าน Traffy fondue ของ กทม. เพื่อให้ชาวบ้านได้ร้องเรียน เพื่อ กทม. จะได้เข้าไปตรวจสอบ ปัจจุบันได้มีการแจ้งเรื่องให้ไปตรวจสอบประมาณ​ 20,000 เรื่อง และ กทม. มีการดำเนินการตรวจสอบและแนะนำแล้วประมาณ 18,000 กว่าเรื่อง เหลืออยู่ประมาณ 1,000 กว่าเรื่อง ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ในส่วนอาคารต่างจังหวัด สำนักโยธาธิการและผังเมืองทางจังหวัด ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้คำปรึกษาแนะนำกับประชาชน

อธิบดีกรมโยธาฯ​ ระบุอีกว่า​ การรายงานความก้าวหน้าในการสืบสวน สืบหาเหตุการณ์ความถล่มของอาคารสำนักงาน สตง. ได้นำเรียนในเบื้องต้นว่าเราได้ตรวจสอบในเรื่องของการคำนวณ ซึ่งกำลังตรวจสอบในเรื่องของรายละเอียด เนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมากที่กำลังตรวจสอบในเรื่องรายละเอียดอยู่ และมีแนวเรื่องที่กำลังทำคู่ขนานกันไป คือการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ว่าอาคาร สตง. ถล่มเกิดจากการออกแบบหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้ขอเวลาการพิสูจน์ต่อนายกรัฐมนตรีไว้​ 90 วัน​ ตามแผนมีอยู่​ 4 สูตร​ เป็นไทม์ไลน์​ที่กำหนดในระยะเวลา 90 วันนี้ ก็จะได้ผลว่าการออกแบบตามแบบทำให้อาคารพังหรือไม่​ วิธีการคือ​สร้างแบบจำลองโดยนำแบบเข้าในคอมพิวเตอร์​ และกำหนดคุณสมบัติของวัสดุ​เข้าไปในแบบจำลอง​ และให้แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจริงกระทำกับอาคาร​ จึงจะทำให้รู้ว่าอาคาร สตง.นี้พังหรือไม่​ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ​ และภายใน​ 90 วัน จะสามารถพิสูจน์ได้​

ในส่วนเรื่องการตรวจสอบเอกสารได้ร่วมตรวจสอบเอกสาร​จากการไปตรวจยึด​ในพื้นที่ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ​ดีเอสไอ​ จะมีการตรวจสอบในเรื่องของรายงานประจำวัน​ ประจำสัปดาห์​ การขออนุมัติ​ การเทคอนกรีต​ และในเรื่องการทดสอบวัสดุต่างๆ ส่วนวัสดุที่เก็บหน้างานมีการเก็บร่วมกับตำรวจ​ และทางตำรวจได้มีการอายัติไว้ไปตรวจสอบ​

นายพงษ์นรา กล่าวว่า​ ยังได้รายงานอีกว่า​ต้องไปปรับปรุง​กฎหมายกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง​ ว่าจะมีการออกกฎหมาย​ กฎระเบียบ​ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ร.บ.วิชาชีพวิศวกร​ และมาตรฐานของการก่อสร้าง​ของ พ.ร.บจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกัน​

เมื่อถามว่ากรอบระยะเวลา​ 90 วันจะสามารถสร้างแบบจำลองทาง​คณิตศาสตร์​ได้ใช่หรือไม่ อธิบดีกรมโยธาฯ​ ระบุว่า​ ขณะนี้ใช้เวลาดำเนินการไปแล้ว​ 1 เดือน​ และแบบจำลองนี้ทำโดย 5 หน่วยงาน​ แล้วมาวิเคราะห์​ร่วมกัน​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในแบบจำลอง​ และทำออกมาเป็นบทสรุป​

ส่วนตอนนี้คณะกรรมการชุดที่ตรวจสอบพุ่งเป้าไปที่ประเด็นใดนั้น​ นายพงษ์นรา เปิดเผยว่า สิ่งที่ดูได้ทันทีคือการคำนวณตามแบบที่มีการจ้างการก่อสร้างที่มีอยู่แล้ว​ และที่มีการแก้ไขแบบว่าปัจจุบันที่อาคารก่อสร้างหลังนี้มีการออกแบบก่อสร้างคู่สัญญา และมีการแก้ไขแบบส่วนใดบ้างที่เกี่ยวกับโครงสร้าง เราจะมีการนำเข้าแบบจำลอง ซึ่งแบบจำลองชุดนี้เหมือนกับนำอาคารจริง ก่อนที่จะมีการพังถล่ม​ และมีการรันโมเดลเข้าไปในระบบ

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ที่รองศาสตราจารย์เอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษา สาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์​ หรือ​ วศท.​ ให้ความเห็นว่าแบบไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวง​ นายพงษ์นรา กล่าวว่า​ ตอนนี้ต้องรอผลสรุปของคณะกรรมการ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมตนไม่สามารถพูดก่อนได้​

เมื่อถามย้ำถึงแบบจำลองทางคณิตศาสตร์จะมีผลทดสอบแล้วผลจะแน่นอน ออกมาเป็นคำตอบให้สังคมได้ใช่หรือไม่ นายพงษ์นรา ยืนยันว่าได้​ ซึ่งแบบจำลองที่เราตรวจสอบดำเนินการเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว​ แต่ต้องมีการสร้างแบบจำลองให้ครอบคลุม​ในหลายสถานะ​ ในรายละเอียดคงต้องให้ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปพิจารณา

การสอบสวนข้อเท็จจริงนั้นมีอยู่ 4 องค์ประกอบ องค์ประกอบแรก คือหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง​ คือสภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ และมีสถาบันการศึกษาเข้ามาร่วมด้วย​ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ​ สมอ.​ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.​และ กทม. รวมถึงข้าราชการของกรมโยธาธิการ​และ​ผังเมือง​ ที่มีความรู้และการชำนาญการเรื่องนี้ โดยมี วิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นประธานกรรมการ สภาวิศวกรเป็นที่ปรึกษา โดยจะเห็นว่าองค์ประกอบของคณะทำงานชุดนี้ครอบคลุมผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง ตนเชื่อว่าเมื่อผลออกมาจะสร้างความชัดเจนให้กับโครงการนี้ได้ว่าสาเหตุของอาคารนี้ที่ถล่มเป็นเพราะอะไร​

เมื่อถามว่าขณะอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ใช่หรือไม่ นายพงษ์นรา กล่าวว่า ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งมี​อยู่​ 4 ลำดับ​ ในลำดับแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการคีย์ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว พร้อมยอมรับว่ามีอยู่หลายขั้นตอนจึงต้องใช้เวลา ​และหลังจากเสร็จแล้วจะต้องมีการประชุมหารือ เพราะเราต่างคนต่างทำ​ เพราะถ้าหากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำ อาจจะมีเรื่อง​ Human error เพราะการคีย์ข้อมูลต้องใช้การคีย์โดยคน ฉะนั้นหากต่างคนต่างคีย์ข้อมูลเข้าไป ต้องมีการเช็กกัน และต้องมีการคุยถึงหลักเกณฑ์​ต่างๆ​ ว่าจะใช้หลักใด​ เพื่อให้เป็นฐานเดียวกัน​ ก่อนที่จะประมวลเป็นผลมา และต้องดูว่าผลของแต่ละสถาบันออกมาในแนวทางเดียวกันหรือไม่​ จึงออกมาเป็นผลสรุป​ของคณะกรรมการชุดนี้​.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาท คดีแตงโม

นนทบุรี 23 พ.ค. – ศาลนนทบุรี พิพากษายกฟ้อง “แซน-กระติก-จ๊อบ” ฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต คดีแตงโม ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.292/1566 (คดีหมายเลขแดง อ.769/2568) ที่พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายวิศาพัช หรือ แซน มโนมัยรัตน์ กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลยที่ 1-4 คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์หลัก โดยมีนางภนิดา เป็นโจทก์ร่วม ฟ้องจำเลยในความผิดฐานประมาท, แจ้งความเท็จ และทำลายหลักฐาน กรณีแตงโมตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือกว่า 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งในชั้นสอบสวน และชั้นศาล จำเลยทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้เป็นการต่อสู้กันในข้อหาประมาท ซึ่งทราบว่าอัยการที่เป็นโจทก์หลักได้บรรยายฟ้องถึงพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 4 […]

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” โพสต์หลังศาลสั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้คดีจำนำข้าว

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” โพสต์ไอจีสตอรี่หลังศาลปกครองสูงสุด ตัดสิน “ยิ่งลักษณ์” ใช้หนี้ความเสียหายระบายข้าวกว่าหมื่นล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ไอจีสตอรี่ ส่วนตัว หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายจากการปล่อยปละละเลยการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี 10,028 ล้านบาท โดยนายกฯ โพสต์ภาพถ่ายคู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกอบเพลง “ฤดูที่แตกต่าง” ที่มีเนื้อหาสื่อถึงการอดทนรอคอยเวลา“รวมถึงภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่โพสต์ตัดพ้อถึงการได้ได้รับความยุติธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นต้น.-316 -สำนักข่าวไทย