“ครูจวง” จวก ก.ศึกษาธิการ ทำงานลวกๆ ปัญหาชุดลูกเสือ

รัฐสภา​ 2 พ.ค.-“ครูจวง” จวก ก.ศึกษาธิการ ทำงานลวกๆ ไม่ปราณีต ไม่เตรียมการล่วงหน้า ปัญหาชุดลูกเสือ ซัดโยนภาระให้ “โรงเรียน” ตัดสินใจ แนะออกประกาศเพิ่มเติมต้องให้สะเด็ดน้ำ ไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ ฉะปรับหลักสูตร ไม่ใช่เรื่องเล่น

นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีการแก้กฎกระทรวงเรื่องเครื่องแบบและการแต่งกายชุดลูกเสือเนตรนารีของกระทรวงศึกษาธิการขณะนี้ ว่า ตนยึดตามหลักการส่วนตัวและของพรรคประชาชน ที่พรรคเรา ต้องการให้เครื่องแบบนักเรียนเป็นสิทธิสำคัญของตัวนักเรียนที่เขาเลือกเอง ซึ่งประเด็นนี้ตนยืนยันมาตลอดว่า อยากให้เครื่องแบบต่าง ๆ ยกเลิกบังคับ คือถ้าใครอยากจะใส่ก็ใส่ไป แต่ถ้าใครยังไม่อยากใส่ก็ปรับเปลี่ยนบ้าง แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการทำประเด็นนี้ แบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่สะเด็ดน้ำ มีความคล้ายเรื่องการยกเลิกทรงผม เหมือนเป็นการโยนภาระไปให้ครูและโรงเรียน


นายปารมี กล่าวต่อว่า ตอนนี้กระทรวงศึกษา ออกประกาศไม่สะเด็ดน้ำอีกแล้วเหมือนไม่บังคับ แล้วให้อำนาจโรงเรียนกับครูเป็นการไปเพิ่มภาระให้เขา ซึ่งประกาศยกเลิกชุดลูกเสือก็มีกฎหมายเฉพาะ และมีประกาศของตัวเองในเรื่องเกี่ยวกับเครื่องแบบลูกเสือ เช่น การมีระเบียบให้ใส่ชุดลูกเสือแค่วันเปิดกองและปิดกอง ซึ่งตนไม่เห็นกระทรวงศึกษาธิการพูดเรื่องนี้ พูดแค่ภาพกว้าง ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องใส่และซื้ออยู่ดี

“จึงอยากให้กระทรวงศึกษาฯ ออกประกาศเพิ่มเติมให้สะเด็ดน้ำ ถ้าคุณจะยกเลิกแล้วเปลี่ยน เช่น ให้นักเรียนใส่แค่ผ้าพันคอ ก็พอแล้ว ดิฉันคิดว่าแบบนี้น่าจะชัดเจนกว่า และกรณีชุดลูกเสือดิฉันเห็นใจ และยืนยันตามหลักการของพรรคประชาชนด้วยว่าไม่อยากให้มีการบังคับ เพราะค่าใช้จ่ายชุดลูกเสือสูง จึงอยากให้กระทรวงศึกษาฯทำเรื่องนี้อย่างชัดเจน ทำแบบนี้เหมือนไม่สะเด็ดน้ำทำครั้งๆ คราว ๆ ไปไม่ดีเลย” นายปารมีกล่าว


เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว นายปารมี กล่าวว่า ยืนยันว่าการดำเนินการทางนโยบาย ที่กระทบต่อสาธารณชนหรือนโยบายรัฐ ต้องทำล่วงหน้า เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กระทรวงศึกษาฯไม่ปราณีตอีกแล้ว จะเปิดเทอมในอีกไม่กี่วันแต่เพิ่งประกาศก่อนแค่ไม่กี่วัน ตนจึงเห็นใจผู้ประกอบการอยู่ส่วนหนึ่ง และขอย้อนกลับไปที่ผู้บริหารกระทรวงศึกษาฯว่าทำไมไม่มีการประกาศล่วงหน้า ซึ่งควรจะประกาศล่วงหน้า เป็นเทอม 2 หรือเทอม 1 ปีหน้า

“เพราะฉะนั้นควรประกาศล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือนก็ยังดี ดิฉันจึงไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการที่ไม่ทำล่วงหน้า แสดงถึงความไม่ปราณีตหรือรอบคอบ ลวก ๆ เหมือนนึกนโยบายอะไรขึ้นมา หรือโดนสังคมกดดันด้วยเรื่องอะไรอย่างช่วงนี้ปัญหาเศรษฐกิจ พ่อแม่พี่น้องก็ร้องระงมด้วยพิษเศรษฐกิจ อยู่ๆ ก็ออกยกเลิกชุดลูกเสือ ไม่คำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ ให้รอบด้าน” นายปารมีกล่าว

นายปารมี กล่าวต่อว่า กรณีนี้เหมือนหลักสูตรใหม่ของปฐมวัย และนักเรียนประถมต้น ที่กระทรวงศึกษาฯจะนำร่องในโรงเรียนประมาณ 4,000 กว่าแห่ง และจะเลือกประมาณ 200 แห่ง เพื่อวิจัยทดลองหลักสูตรปฐมวัยและนักเรียนประถมต้น ซึ่งหลักสูตรใหม่นี้จะใช้ในเทอม 1 ที่จะถึงนี้ ทางกระทรวงศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เพิ่งจะขับเคลื่อนหลักสูตรนี้ เมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่พอดีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งความจริงต้องมีการอบรมช่วงหลังสงกรานต์จึงเลื่อนออกมาเล็กน้อยเพิ่งจะมีการอบรมในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเรื่องหลักสูตรไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เป็นเรื่องใหญ่มาก และหลักสูตรเป็นสิ่งที่ต้องใช้ร่วมกันในโรงเรียน ต้องอบรมให้ครูที่นำไปใช้รู้ลึกรู้จริง และจัดการเรียนการสอน เรื่องนี้ต้องมีความปราณีต


ช”ขอฝากไปยังกระทรวงศึกษาฯ จะทำอะไรต้องมีความปราณีต และมีการวางแผนล่วงหน้า เรื่องนี้เรื่องใหญ่ เรื่องหลักสูตรที่เร่งอบรม แป๊บ ๆเอาไปใช้ ดิฉันคิดว่าผลงานวิจัยไม่เกิดประโยชน์แม้ว่าตอนนี้ สพฐ. จะอ้างว่าเป็นแค่นำร่องเพื่อวิจัยก็ตาม แต่คล้ายกับกรณีชุดลูกเสืออยู่ๆ ก็ประกาศเลย ย้ำว่าไม่ทำการล่วงหน้าไม่ได้” นายปารมี กล่าว.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]