“วินธัย” ลั่นเพจด่านักการเมืองไม่ใช่ของกองทัพ

รัฐสภา​ 1 พ.ค.- “วินธัย” โฆษกกองทัพบก โผล่แจง กมธ.ความมั่นคงฯ ยันกองทัพไม่มีปฏิบัติการ IO ยอมรับมีเป้าหมายติดตามคนที่มีทัศนคติไม่ดีกับทหาร เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ลั่นเพจด่านักการเมืองไม่ใช่ของกองทัพ ท้าหากเจอแจ้งดำเนินคดีเลย ขณะ “โรม” ไม่เห็นด้วยใช้ IO ตามนักการเมือง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงก่อนการประชุมกมธ.ฯในการพิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ว่าได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อกมธ.ฯ โดยมีพล.อ.ต. วิศัลย์ ธรรมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและการข่าว สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ,พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ,พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาฯจักร ( กอ.รมน.), พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ,พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.), นายวิสูตร ด้วงมาก ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ,นางนวรัตน์ สถาพรนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การพิจารณาวันนี้ทางกมธ.ฯเห็นว่าเรื่อง IO ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีพบว่ามีการใช้ปฏิบัติการ IO หลายครั้ง ทั้งต่อประชาชน นักวิชาการ นักการเมือง เมื่อเป็นแบบนี้ก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่จบเสียที และหลังจากที่เรามีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเราถือว่าเป็นรัฐบาลพลเรือน เราคาดหวังว่าปฏิบัติการ IO จะไม่มีอีกแล้ว แต่กลายเป็นว่า ปฏิบัติการ IO กลับรุนแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม และยังมีอยู่

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราเห็นว่าเรื่องการทลายลัง IO มีความก้าวหน้า อย่างน้อยที่สุดประชาชนได้เห็นโครงสร้างนี้แล้ว และ IO เหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะ IO การเมืองฝ่ายค้านเท่านั้น แต่พบว่าแม้กระทั่งคนในรัฐบาลหรือคนที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลก็โดน IO ฉะนั้นเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ตนคิดว่าจะเป็นต้องมีแนวทางในการแก้ปัญหา และจัดการเรื่องนี้อย่างมีความชัดเจน ซึ่งปัญหาที่เราเห้นอยู่ยังไม่มีทางออกในเรื่องนี้เลย ดังนั้นทางกรรมาธิการจึงพยายามเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในวันนี้


“หากถามว่าความคาดหวังคืออะไร ผมคิดว่าเราไม่ควรจะเห็นการใช้เงินภาษีของประชาชนในการทำข้อมูลปฏิบัติการข่าวสารแบบนี้ เวลาการทำข้อมูลข่าวสารแบบนี้มันเต็มไปด้วยเฟคนิวส์ เต็มไปด้วยการสร้างความเกลี่ยดชังมีจุดมั่งหมายสร้างความแตกแยก ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงข้ามกับอุดมการณ์ของกองทัพ อุดมการณ์ของทหารไทย และทำไมเราต้องปล่อยให้ปฏิบัติการแบบนี้ยังมีอยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าแสดงว่าส่วนตัวมองการใช้ IO ติดตามนักการเมืองไม่เหมาะสมหรือไม่ รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารในการรบ เช่น ถ้าเป็นการรบระหว่างประเทศ A กับ ประเทศ B ตนเข้าใจว่ามีความจำเป็นในเรื่องปฏิบัติการาข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้าถึงข้อมูล เพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับตนเอง ตนในฐานปรานคณะกรรมาธิการไม่ได้ขัดในเรื่องนี้แต่ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้ แทนที่จะนำเครื่องมือนี้ไปเตรียมความพร้อม หรือไปใช้ในเหตุการณ์ที่มีสงคราม มีการรบกันกับประเทศอื่นที่อาจเป็นอริราชศัตรู แต่กลายเป็นว่ามาปฏิบัติกับคนในประเทศราวกับเป็นศัตรูของชาติเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เป็นเรื่องมทำลายความมั่นคงเสียเอง

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การที่กองทัพใช้เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาไว้ทำสงครามกับรัฐอื่น แต่สุดท้ายกลับเอามาใช้กับคนในประเทศ สุดท้ายความั่นคงความสามัคคีของคนในชาติก็สูญสลายไป สุดท้ายเครื่องมือแบบนรี้จะถูกตั้งคำถามทั้งการจัดการ การตัดงบประมาณ สุดท้ายเครื่องมือแทนที่จะไปจัดการกับพ่อค้ายาเสพติด คนที่ทำลายความมั่นคงก็ทำไม่ได้ เพราะใช้เครื่องมือผิดประเภท จึงทำให้สภาฯไม่ไว้วางใจให้ใช้เครื่องมือแบบนี้ต่อไป กลายเป็นว่าความมั่นคงของประเทศโดยรวมอ่อนแอลง เพราะสาเหตุสำคัญคือหน่วยงานความมั่นคงใช้เครื่องมือในลักษณะแบบนี้ทำลายความั่นคงของชาติเอง


ขณะที่ในการประชุม กมธ.ฯ นายรังสิมันต์ ประธานที่ประชุม ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนฟังเพียงในช่วงแรก ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงทั้ง กอ.รมน., กระทรวงกลาโหม, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และสตช. ยืนยันว่าไม่มีนโยบายทำปฏิบัติการ Information Operation หรือ IO แต่เป็นการสื่อสารเพื่อความเข้าใจในการทำงานของหน่วยงาน และบทบาทหน้าที่ของทหารในการป้องกันประเทศ ช่วยเหลือประชาชน รวมถึงสนับสนุนงานของรัฐบาล

โดยพล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวในที่ประชุมว่า กองทัพบกไม่มีการทำ IO แต่คำนี้เกิดขึ้นกับทั่วโลก ซึ่งใช้ปฏิบัติการทางทหาร คือการใช้ IO เป็นเครื่องมือสื่อสารในการรบ และอยู่ในภารกิจป้องกันประเทศ ทั้งนี้เมื่อมาอยู่ในประเทศไทย กองทัพจึงใช้ในการเสริมสร้างความเข้าใจและแก้ไขในสิ่งที่เข้าใจผิด ด้วยวิธีประชาสัมพันธ์ ที่ผ่านมากองทัพพยายามที่จะแก้ไขเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยเน้นไปที่เรื่องการสร้างความรับรู้ เพื่อปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์กร แต่ทั้งหมดเป็นการกระทำโดยเปิดเผย รวมถึงเป้าหมายทั้งหมด คือ ประชาชน และนโยบายของเราไม่เคยคิดว่าความเข้าใจทั้งหมดเป็นเรื่องเลวร้าย แต่เป็นผลดีที่จะทำให้เราได้ชี้แจง ไม่มีลักษณะก้าวร้าว หรือทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน จึงไม่เรียกว่าปฏิบัติการ IO แต่มันคือการสร้างความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์ หรือการสร้างการรับรู้

“วันนี้เราใช้ช่องทางออนไลน์สื่อสารเป็นหลัก หากพบว่าไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม ก็มีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และเรื่องการหมิ่นประมาท ที่ดำเนินการได้อยู่แล้ว โดยขั้นตอนในการดำเนินการมีเป้าหมาย คือ บุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก อาจรวมไปถึงนักการเมืองหรือนักวิชาการด้วย ที่จะอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเนื่องจากสังคมให้ความสนใจ ซึ่งการติดตามจากกองทัพไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะสุดท้ายเราจะต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง” พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากความเข้าใจผิดเกิดจากเป้าหมายดังกล่าว ก็จะต้องเร่งชี้แจงก่อน และยอมรับตรงๆ เป้าหมายอื่นคือผู้ที่มีทัศนคติไม่ดีกับทหาร โดยมีความต้องการให้สังคมรับรู้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ขอย้ำว่า ไม่ได้โกรธ หรือตั้งตัวเป็นคู่ขัดแย้ง แต่ยอมรับว่ากองทัพบกใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ ในช่องทางออนไลน์ แต่ทำในลักษณะเปิดเผย

ส่วนต่างๆที่ออกมาโจมตีนักการเมือง และมีการแอบอ้างว่าเป็นทหาร หรือหน่วยงานด้านความมั่น พล.ต.วินธัย กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ หน่วยงานกองทัพ และหากพบเหตุในลักษณะนั้นก็สามารถดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เลย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]

“สีกากอล์ฟ” อิดโรย-ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบฯ

16 ก.ค. – “สีกากอล์ฟ” ปิดปากเงียบตอบคำถามสำนึกผิดหรืออยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขังกองปราบฯ ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ควบคุมตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้นจากการสังเกตพบว่าสีกากอล์ฟมีท่าทีอิดโรยและเครียดมาก ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งข้อหาสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ใน 3 ข้อหา คือ ม.147 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนแถลงจับกุมว่ พบลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อดีตท่านเจ้าคุณอาชว์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องทำก่อนคือการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ เพราะถ้ารูปต่างๆ หลุดออกไป อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบว่าสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ช่วงเดือน พ.ค. 2567 ก่อนที่จะห่างกันไป แต่กลับมาอ้างว่ามีลูกที่เจ้าคุณอาชว์ พร้อมขอค่าเลี้ยงดูเลี้ยง 7.2 ล้านบาท ตกเดือนละ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]