“วินธัย” ลั่นเพจด่านักการเมืองไม่ใช่ของกองทัพ

รัฐสภา​ 1 พ.ค.- “วินธัย” โฆษกกองทัพบก โผล่แจง กมธ.ความมั่นคงฯ ยันกองทัพไม่มีปฏิบัติการ IO ยอมรับมีเป้าหมายติดตามคนที่มีทัศนคติไม่ดีกับทหาร เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ลั่นเพจด่านักการเมืองไม่ใช่ของกองทัพ ท้าหากเจอแจ้งดำเนินคดีเลย ขณะ “โรม” ไม่เห็นด้วยใช้ IO ตามนักการเมือง

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงก่อนการประชุมกมธ.ฯในการพิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ว่าได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อกมธ.ฯ โดยมีพล.อ.ต. วิศัลย์ ธรรมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและการข่าว สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ,พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ,พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาฯจักร ( กอ.รมน.), พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ,พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.), นายวิสูตร ด้วงมาก ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ,นางนวรัตน์ สถาพรนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การพิจารณาวันนี้ทางกมธ.ฯเห็นว่าเรื่อง IO ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีพบว่ามีการใช้ปฏิบัติการ IO หลายครั้ง ทั้งต่อประชาชน นักวิชาการ นักการเมือง เมื่อเป็นแบบนี้ก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่จบเสียที และหลังจากที่เรามีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเราถือว่าเป็นรัฐบาลพลเรือน เราคาดหวังว่าปฏิบัติการ IO จะไม่มีอีกแล้ว แต่กลายเป็นว่า ปฏิบัติการ IO กลับรุนแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม และยังมีอยู่

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราเห็นว่าเรื่องการทลายลัง IO มีความก้าวหน้า อย่างน้อยที่สุดประชาชนได้เห็นโครงสร้างนี้แล้ว และ IO เหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะ IO การเมืองฝ่ายค้านเท่านั้น แต่พบว่าแม้กระทั่งคนในรัฐบาลหรือคนที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลก็โดน IO ฉะนั้นเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ตนคิดว่าจะเป็นต้องมีแนวทางในการแก้ปัญหา และจัดการเรื่องนี้อย่างมีความชัดเจน ซึ่งปัญหาที่เราเห้นอยู่ยังไม่มีทางออกในเรื่องนี้เลย ดังนั้นทางกรรมาธิการจึงพยายามเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในวันนี้


“หากถามว่าความคาดหวังคืออะไร ผมคิดว่าเราไม่ควรจะเห็นการใช้เงินภาษีของประชาชนในการทำข้อมูลปฏิบัติการข่าวสารแบบนี้ เวลาการทำข้อมูลข่าวสารแบบนี้มันเต็มไปด้วยเฟคนิวส์ เต็มไปด้วยการสร้างความเกลี่ยดชังมีจุดมั่งหมายสร้างความแตกแยก ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงข้ามกับอุดมการณ์ของกองทัพ อุดมการณ์ของทหารไทย และทำไมเราต้องปล่อยให้ปฏิบัติการแบบนี้ยังมีอยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าแสดงว่าส่วนตัวมองการใช้ IO ติดตามนักการเมืองไม่เหมาะสมหรือไม่ รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารในการรบ เช่น ถ้าเป็นการรบระหว่างประเทศ A กับ ประเทศ B ตนเข้าใจว่ามีความจำเป็นในเรื่องปฏิบัติการาข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้าถึงข้อมูล เพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับตนเอง ตนในฐานปรานคณะกรรมาธิการไม่ได้ขัดในเรื่องนี้แต่ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้ แทนที่จะนำเครื่องมือนี้ไปเตรียมความพร้อม หรือไปใช้ในเหตุการณ์ที่มีสงคราม มีการรบกันกับประเทศอื่นที่อาจเป็นอริราชศัตรู แต่กลายเป็นว่ามาปฏิบัติกับคนในประเทศราวกับเป็นศัตรูของชาติเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เป็นเรื่องมทำลายความมั่นคงเสียเอง

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การที่กองทัพใช้เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาไว้ทำสงครามกับรัฐอื่น แต่สุดท้ายกลับเอามาใช้กับคนในประเทศ สุดท้ายความั่นคงความสามัคคีของคนในชาติก็สูญสลายไป สุดท้ายเครื่องมือแบบนรี้จะถูกตั้งคำถามทั้งการจัดการ การตัดงบประมาณ สุดท้ายเครื่องมือแทนที่จะไปจัดการกับพ่อค้ายาเสพติด คนที่ทำลายความมั่นคงก็ทำไม่ได้ เพราะใช้เครื่องมือผิดประเภท จึงทำให้สภาฯไม่ไว้วางใจให้ใช้เครื่องมือแบบนี้ต่อไป กลายเป็นว่าความมั่นคงของประเทศโดยรวมอ่อนแอลง เพราะสาเหตุสำคัญคือหน่วยงานความมั่นคงใช้เครื่องมือในลักษณะแบบนี้ทำลายความั่นคงของชาติเอง


ขณะที่ในการประชุม กมธ.ฯ นายรังสิมันต์ ประธานที่ประชุม ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนฟังเพียงในช่วงแรก ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงทั้ง กอ.รมน., กระทรวงกลาโหม, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และสตช. ยืนยันว่าไม่มีนโยบายทำปฏิบัติการ Information Operation หรือ IO แต่เป็นการสื่อสารเพื่อความเข้าใจในการทำงานของหน่วยงาน และบทบาทหน้าที่ของทหารในการป้องกันประเทศ ช่วยเหลือประชาชน รวมถึงสนับสนุนงานของรัฐบาล

โดยพล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวในที่ประชุมว่า กองทัพบกไม่มีการทำ IO แต่คำนี้เกิดขึ้นกับทั่วโลก ซึ่งใช้ปฏิบัติการทางทหาร คือการใช้ IO เป็นเครื่องมือสื่อสารในการรบ และอยู่ในภารกิจป้องกันประเทศ ทั้งนี้เมื่อมาอยู่ในประเทศไทย กองทัพจึงใช้ในการเสริมสร้างความเข้าใจและแก้ไขในสิ่งที่เข้าใจผิด ด้วยวิธีประชาสัมพันธ์ ที่ผ่านมากองทัพพยายามที่จะแก้ไขเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยเน้นไปที่เรื่องการสร้างความรับรู้ เพื่อปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์กร แต่ทั้งหมดเป็นการกระทำโดยเปิดเผย รวมถึงเป้าหมายทั้งหมด คือ ประชาชน และนโยบายของเราไม่เคยคิดว่าความเข้าใจทั้งหมดเป็นเรื่องเลวร้าย แต่เป็นผลดีที่จะทำให้เราได้ชี้แจง ไม่มีลักษณะก้าวร้าว หรือทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน จึงไม่เรียกว่าปฏิบัติการ IO แต่มันคือการสร้างความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์ หรือการสร้างการรับรู้

“วันนี้เราใช้ช่องทางออนไลน์สื่อสารเป็นหลัก หากพบว่าไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม ก็มีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และเรื่องการหมิ่นประมาท ที่ดำเนินการได้อยู่แล้ว โดยขั้นตอนในการดำเนินการมีเป้าหมาย คือ บุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก อาจรวมไปถึงนักการเมืองหรือนักวิชาการด้วย ที่จะอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเนื่องจากสังคมให้ความสนใจ ซึ่งการติดตามจากกองทัพไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะสุดท้ายเราจะต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง” พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากความเข้าใจผิดเกิดจากเป้าหมายดังกล่าว ก็จะต้องเร่งชี้แจงก่อน และยอมรับตรงๆ เป้าหมายอื่นคือผู้ที่มีทัศนคติไม่ดีกับทหาร โดยมีความต้องการให้สังคมรับรู้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ขอย้ำว่า ไม่ได้โกรธ หรือตั้งตัวเป็นคู่ขัดแย้ง แต่ยอมรับว่ากองทัพบกใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ ในช่องทางออนไลน์ แต่ทำในลักษณะเปิดเผย

ส่วนต่างๆที่ออกมาโจมตีนักการเมือง และมีการแอบอ้างว่าเป็นทหาร หรือหน่วยงานด้านความมั่น พล.ต.วินธัย กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ หน่วยงานกองทัพ และหากพบเหตุในลักษณะนั้นก็สามารถดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เลย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]