“วิโรจน์” ท้า “วินธัย” แจง กมธ.ทหาร ปมคดี 112 “พอล แชมเบอร์ส”

รัฐสภา 29 เม.ย.- “วิโรจน์” ท้า “พล.ต.วินธัย” แจง กมธ.ทหาร ปมคดี 112 “พอล แชมเบอร์ส” ชี้ สับสนตำแหน่งตัวเอง ถามหากเกี่ยวภาษีทรัมป์ ใคร ยศไหน กล้ารับผิดชอบหายนะทางเศรษฐกิจกับคนไทยทั้งประเทศ


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การเรียกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้ามาชี้แจง ในคดีมาตรา 112 ของนายพอล แชมเบอร์ส ว่า ตอนนี้ยังติดใจอยู่หลายเรื่อง พอได้อ่านคำชี้แจงผ่านสื่อของพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก คำถามที่เกิดขึ้นคือ พลตรีวินธัย มีตำแหน่งอะไรในกอ.รมน. ซึ่งเคยเป็นอดีตโฆษกกอ.รมน. แต่รายละเอียดในข่าวระบุตำแหน่งว่าเป็นโฆษกกองทัพบก เขาสับสนขนาดไม่รู้ต้นสังกัด สายการบังคับบัญชาของตนเองแล้วหรือ ว่าโฆษกกองทัพบก ขึ้นตรงกับกองทัพบก กองทัพบกก็ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหม ขณะที่ กอ.รมน. ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี คนละกระทรวง ตนอยากจะหาคำตอบจาก พลตรีวินธัย เหมือนกันว่าคุณมีตำแหน่งอะไรใน กอ.รมน. คุณรับเงินเงินเดือนกี่ทาง โชคดีที่ตอนอ่านข่าวพบว่า พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. ตัวจริง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว แต่ก็ให้สัมภาษณ์ในลักษณะทำนองเดียวกัน เหมือนก๊อปปี้กันมา เพราะเนื้อหาตรงกัน จึงต้องตั้งคำถามว่าในเมื่อ พลตรีวินธัย ไม่ได้กล้าที่จะชี้แจงแทนกอ.รมน. ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นโฆษก กรรมาธิการทหาร จึงคิดว่า คงมีความรู้ทางด้านกฎหมายมหาชน และพระราชบัญญัติ กอ.รมน. ด้วย ดังนั้นในวันที่ 8 พฤษภาคม นี้ก็จะเชิญ พลตรีวินธัย และพลตรีธรรมนูญ มาด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้มาตรา 112 เป็นอาญาแผ่นดิน ตามหลัก ป.วิอาญา ประชาชนหรือบุคคลทั่วไป ที่พบเห็นการกระทำความผิด ก็สามารถแจ้งดำเนินคดีได้ นี่เป็นเรื่องพื้นฐานทางกฎหมาย แต่ กอ.รมน. เป็นหน่วยงานรัฐ ต้องยึดหลักกฏหมายมหาชน วันนี้ กอ.รมน. แยกตัวเองไม่ออกแล้วหรือ ว่าตัวเองเป็นบุคคลทั่วไปหรือหน่วยงานรัฐ ถ้าเกิด พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ไปร้องเรียนในฐานะบุคคลธรรมดา ย่อมทำได้ แต่นี่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ในฐานะ กอ.รมน. ก็ต้องตั้งคำถามว่าในตัวพระราชบัญญัติ กอ.รมน. ได้ให้อำนาจไว้ในมาตราใด ซึ่งในวันที่ 8 พฤษภาคม นายทหารพระธรรมนูญ มาก็ได้ เพราะตนก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมารับฟังด้วยเช่นกัน


“วันนี้กองทัพไม่สนใจกฎหมายมหาชนแล้วหรือ สับสน ขนาดที่ตัวเองเป็นบุคคลธรรมดาหรือหน่วยงานรัฐ ตกลงคนที่ไปแจ้งความชื่อ นาย กอ. นามสกุล รมน. หรือ ตกลงแล้วหลักกฏหมายมหาชน กอ.รมน. จะไม่เคารพแล้วหรือ อย่างนั้นคณะนิติศาสตร์ มหาลัยต่างๆ คงปั่นป่วนหมด ตกลง กอ.รมน. กับ ทบ. มีความสัมพันธ์กันอย่างไร อดีตโฆษกก็มาตอบแทนกันได้แล้วหรือ” นายวิโรจน์ กล่าว

ส่วนที่พลตรีวินธัย ออกมาให้สัมภาษณ์ กังวลเรื่องของการถูกไล่บี้ ภายใน กมธ. นายวิโรจน์ สวนกลับว่า ถ้าไม่ผิด กลัวอะไร คำพูดนี้ กอ.รมน. ก็ชอบพูด ไม่ใช่หรือ ถ้าใช้อำนาจโดยชอบ ไม่เข้าข่ายการประพฤติมิชอบ เคารพหลักกฏหมายมหาชน คุณกลัวอะไร และต้องยอมรับว่าทำไมต้องตรวจสอบ เพราะแม้นายทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมายอมรับ ว่าการดำเนินคดี การแจ้งข้อกล่าวหากับนายพอลครั้งนี้ มีส่วนไม่มากก็น้อย เกี่ยวกับการเจรจาภาษีศุลกากรตอบโต้สหรัฐ ใช่หรือไม่ นั่นหมายความว่าหากการดำเนินการของ กอ.รมน. ครั้งนี้ไม่รอบคอบเพียงพอ ไม่เคารพหลักกฏหมายมหาชน ที่สามารถอธิบายกับนักนิติศาสตร์ในและต่างประเทศได้ นี่อาจเป็นต้นเหตุของหายนะทางเศรษฐกิจ ที่กระทบกระเทือน ปากท้องกับประชาชนทั้งประเทศ ใครจะรับผิดชอบ และการแจ้งความในมาตรา 112 ก็อาจจะถูกพิจารณา และถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากเวทีโลกได้ว่า คุณกำลังนำเอาสถาบันเข้าไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตนขอถามไปทั้งพลตรีวินธัย และ พลตรีธรรมนูญ หากเกิดผลกระทบ และภายหลังยกฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าพอลไม่ผิด ใครจะรับผิดชอบกับหายนะทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชน

ส่วนที่กองทัพ ขออย่าโยงเรื่องภาษีสหรัฐฯ กับเรื่องนี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนถึงบอกว่า ถ้าเกี่ยว วันนี้นายทักษิณออกยอมรับแล้ว ว่าอาจเกี่ยว ขออย่าตอบว่าไม่เกี่ยว เพราะคำถามที่ถามกองทัพ จริงๆ ต้องถาม กอ.รมน. อย่าสับสน ถ้าสับสนเมื่อไหร่ กอ.รมน. ก็จะกลายเป็นมือที่มองไม่เห็นของกองทัพ ที่จะแทรกแซงอำนาจรัฐ และคุกคามประชาชน จึงขอถามไปที่ กอ.รมน. ว่า ถ้าเกี่ยวใครรับผิดชอบ


“พลตรีธรรมนูญ ถ้าเกี่ยว ใครรับผิดชอบ พูดมา พลตรีวินธัย เห็นแสดงภาพยนตร์ เก่ง สมบทบาท พูดมา ใครบุคคลใด ใน กอ.รมน. กองทัพบก กระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้รับผิดชอบ ชื่ออะไร ชั้นยศอะไร จะรับผิดชอบกับการที่สถาบัน ถูกหยิบยกไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าคิดว่าทำโดยชอบด้วยกฎหมายก็ทำไป แต่ถ้าสุดท้ายยกฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ใครรับผิดชอบ ไหนบอกว่ากล้าหาญไง นี่คือ หาร ที่ยังไม่ใช่ ญ ขนาด หาร รอ เรือ คุณยังไม่กล้าหาญความรับผิดชอบกันเลย” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า หาก กอ.รมน.และ พลตรีวิธัย สุวารี โฆษกองทัพบก ไม่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในสัปดาห์หน้า นายวิโรจน์ กล่าวว่า จะเรียกจนกว่าจะมา และยืนยันต่อพล.ต.วินธัย ที่ประชุมกรรมาธิการวันที่ 8 พฤษภาคม จะไม่มีปิดไมค์และไม่ปิดกล้องแน่นอน

“ผมอยากให้พล.ต.วินธัย มาเอง เพราะอยากรู้ว่าไอ้ห้อยไอ้โหนที่คอยส่งโพยให้หน้าตาเป็นอย่างไร และอยากให้ พล.ต.วินธัย มาพร้อมกับหลักกฏหมายมหาชน และเตรียมอ่าน พ.ร.บ.กอ.รมน. ของตัวเองมาให้เรียบร้อยก่อน หลักกฏหมายมหาชน ฟังให้ดีทั้ง พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ และ พล.ต.วินธัย สุวารี ไปถามทหารพระธรรมนูญ ที่มีมีความรู้ด้านกฎหมายได้ หน่วยงานรัฐต้องยึดหลักกฏหมายมหาชน ถ้าไม่ให้อำนาจไว้ก่อน ให้ถือว่ากระทำไม่ได้ ซึ่งต่างจากกฎหมายเอกชน คือถ้ากฎหมายไม่ห้าม” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในกรณีนี้ กอ.รมน. ตามพระราชบัญญัติของตัวเอง ให้อำนาจ โดยที่มาตราใด อยู่ดีๆ จะตอบว่าเกี่ยวกับมาตรา 7การทำแผน แล้วมาตราใด แล้วบอกว่าบุคคลทั่วไปธรรมดาสามารถแจ้งความได้ แยกไม่ออกหรือว่า กอ.รมน. เป็นบุคคลหรือหน่วยงาน ซึ่งจริงๆ ต้องการเชิญ พล.ต.วินธัย เพราะค้องการเชิญ พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ มากกว่า

“แต่ถ้าดูแล้วปากสั่นอยากจะมาตอบแทน กอ.รมน.ไง เลยคิดว่าท่านจะมีความรู้ ก็เลยเชิญมา อย่าบังอาจตอบว่าไม่ไม่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน. ถ้าตอบว่าไม่เกี่ยวข้อง เผยอหน้ามาให้สัมภาษณ์ทำไม สับสนในต้นสังกัดของตัวเองทำไม ในเมื่อกล้าให้สัมภาษณ์ก็ต้องกล้ามา“ นายวิโรจน์ กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย