“ณัฐพงษ์” ตั้งโจทย์ปั้นรัฐบาลที่ดีที่สุด

27 เม.ย. – ปชน. มีมติปรับแก้ข้อบังคับให้สมาชิกยึดโยงพรรคมากขึ้น-เตรียมตัวเลือกตั้งปี 70 “เลขาฯ ติ่ง” อ้าแขนรับคนร่วมอุดมการณ์ลง สส. รอบหน้า “เท้ง” ตั้งโจทย์ปั้นรัฐบาลที่ดีที่สุด ยันคนเลือกเยอะรอบที่แล้ว ไม่ใช่เพราะ “เบื่อลุง” แต่เป็นเพราะรักประชาธิปไตย โยนถ้า “เพื่อไทย” ยอมรับผิดกับประชาชน อาจจะจับมือ


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน แถลงผลประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยนายศรายุทธิ์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นไปตามกรอบกฎหมายกำหนดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งจะต้องมีการรายงานผลดำเนินงานของพรรคตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แรงงานงบการเงินและการปรับปรุงข้อบังคับพรรค เพื่อให้การทำงานของพรรคสะดวกมากขึ้น

ซึ่งมีการสัมมนามา 2 วันก่อน 25-26 เมษายน วาระการสร้างพรรคและมวลชนที่เข้มแข็งที่กำหนดวาระเป้าหมายดำเนินการ โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนสมาชิกการมีส่วนร่วมของสมาชิก การทำให้โครงสร้างยึดโยงกับสมาชิกพรรค และเรื่องสุดท้ายการทำให้การเงินของพรรคมาจากประชาชน


สำหรับการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า ดำเนินการ 2 ส่วน คือ ส่วนนโยบาย ที่จะทำนโยบายสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในปี 2570 และการเตรียมพร้อมของผู้สมัครรองรับเลือกตั้งที่มีกระบวนการให้ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งเข้าสู่กระบวนการคัดสรรได้ ขณะนี้มีการเปิดอบรมโครงการนักการเมืองของพรรคในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเปิดอบรมจนถึงวันที่ 13 มิถุนายนนี้

“หมายความว่าเรายังต้องการผู้ที่ประสงค์ทำงานการเมืองร่วมกับเรา สามารถเข้ามาได้เรายังต้องการคนอีกมากดังนั้น ประชาชนคนไหนหรือสมาชิกพรรคมีความประสงค์ทำงานการเมืองสามารถเข้ามาได้”

นายศรายุทธิ์ ยังกล่าวถึงนโยบายที่ขณะนี้ยังขาดนโยบายที่ตอบสนองของประชาชนในระดับภูมิภาคที่มีความแตกต่างกัน จึงต้องการประชาชนก็มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ทำนโยบายร่วมกัน


นายณัฐพงษ์ กล่าวเสริมว่า จากที่มีการสัมมนาสมาชิกพรรคตลอด 3 เจอวัน ยังคงย้ำจุดยืนว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากมองในโจทย์ของประเทศ ไม่ได้ตั้งเป้าชนะการเลือกตั้งอย่างเดียวเท่านั้น ยังต้องการสร้างรัฐบาลที่ดีที่สุดที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคประชาชน และสิ่งสำคัญในตอนนี้หากพิจารณาบริบทสถานการณ์ประเทศในปัจจุบัน สถานการณ์โลกแวดล้อม และสถานการณ์ภายในประเทศที่บีบรัดเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว เพียงแค่การชนะจากเหตุผลดังกล่าวยังไม่ใช่ทางออกของประเทศ

“ทางออกของประเทศคือการเสนอรัฐบาลที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องต้องทำคือการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน แต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวก่ายเป็นความหวังให้กับประชาชน พอสื่อสารรณรงค์หาเสียงอย่างชัดเจนเป็นความหวังให้กับประชาชนได้ แต่โจทย์ต่อไปของพรรคประชาชนหากมองย้อนกลับมาคือการทำให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อพรรคประชาชนมากขึ้น ภายในพักเองต้องมีการทำงานกับประชาชนอย่างเข้มข้นและเตรียมนำเสนอนโยบายในอนาคต ทั้ง 3 เสานโยบาย การเมือง การปฏิรูประบบราชการ และเศรษฐกิจ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาชน ชีวาสสุดท้ายที่จะเป็นความหวังให้กับประชาชนคือนโยบายเศรษฐกิจ ที่เคยเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย แต่เห็นแล้วว่าไม่สามารถสร้างทางออกให้กับประชาชนได้ จึงขอเสนอตัวมาทำงานในจุดนี้เตรียมที่จะสื่อสารกับประชาชนต่อไปเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจ

เมื่อถามถึงการเตรียมเลือกตั้งปี 2570 อาจมีคนเปรียบเทียบว่าคราวที่แล้วคะแนนที่ได้มาจากคะแนนคนที่เบื่อลุงรอบนี้จะทำได้ยากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่เบื่อลุง คนที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย คนที่ต้องการการเมืองโปร่งใสปราศจากการทุจริตคอร์รัปชัน เชื่อว่าตอนนี้เห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลที่เหมารวมจัดตั้งรัฐบาลด้วยดีลแลกประเทศ ไม่ใช่ทางออก แต่ทางออกของประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าการเมืองที่โปร่งใสระบบราชการที่ตอบสนองต่อประชาชนนโยบายด้านเศรษฐกิจ และปราศจากการทุจริตในทุกระดับ เชื่อว่าปราประชาชนทุกกลุ่มล้วนต้องการนโยบายเช่นนี้ ซึ่งพรรคประชาชนมีจุดยืนมาตลอดจากนโยบายที่ได้กล่าวไปจึงพร้อมผลักดันและเสนอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับประชาชน

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งรอบหน้าอาจมีคนงดออกเสียงเพิ่มมากขึ้น นายณัฐพงษ์ กะว่าหน้าที่ของพรรคประชาชนคือการรณรงค์ ทางความคิดและสื่อสารกับประชาชนอย่างมากเพียงพอนับแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันเลือกตั้งครั้งหน้า ในทุกนโยบายที่ได้กล่าวไปเชื่อว่าประชาชนยังคงมีความหวังและสามารถฝากความหวังไว้กับพรรคประชาชนได้จากการทำหน้าที่ของ สส. และตัวแทนประชาชน

เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งสมัยหน้าแดง กับส้มจะจับมือกัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พูดชัดเจนว่าการจัดตั้งรัฐบาล แบบนี้ พรรคประชาชนไม่สามารถเข้าร่วมรัฐบาลได้ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลแบบที่เป็นอยู่ไม่ได้มีประชาชนเป็นศูนย์กลางในสมการการตัดสินใจ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดได้เลย ทั้งการปฏิรูปกองทัพ การทะลายทุนผูกขาด และนโยบายอีกหลายเรื่อง ตราบใดที่ประชาชนถูกถอดออกจากสมการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ปัญหาเชิงโครงสร้างทุกเรื่องไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งสิ่งนี้สิ่งที่ไทยต้องการคือการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง

เมื่อถามว่ารอบหน้าจะไม่ร่วมกับเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สื่อสารมาโดยตลอดหากพรรคเพื่อไทยจะร่วมกับพรรคประชาชนได้อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ต้องมีการสื่อสารว่าการกระทำที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยทำผิดต่อประชาชนจริงๆ หากสื่อสารเรื่องนี้อย่าง ไม่อยากให้มองว่าการจับไม่จับมือกับพรรคใดเป็นเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาลเองเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องเป็นเงื่อนไขที่พรรคการเมืองอื่นตั้งเงื่อนไขด้วยเช่นกัน

“ในส่วนของพรรคประชาชนสิ่งที่โฟกัสตอนนี้คือการทำงานทางความคิด นำเสนอทางออกให้กับประชาชนเป็นหลัก เพราะสุดท้ายส่งผลถึงคะแนนเลือกตั้งในอนาคต ส่วนการตัดสินใจของประชาชนในอนาคตผลเป็นอย่างไรจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ยืนยันได้ตอนนี้พรรคประชาชนมีจุดยืนว่าตอนเลือกตั้งนำเสนอต่อประชาชนอย่างไรก่อนจะจัดตั้งรัฐบาลก็ยืนยันจุดยืนเดิม เช่นนั้นไม่กลับไปกลับมาว่าหาเสียงแบบหนึ่งและทำแบบหนึ่งแน่นอน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาชน ย้ำว่าเป้าหมายของพรรคประชาชนไม่ใช่เพียงแค่การชนะเลือกตั้ง แต่เป้าหมายคือหาทางออกให้กับประเทศ หากผลการเลือกตั้งซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่จะส่งผลสะท้อนออกมาเป็นจำนวนเก้าอี้ สส. ในสภาฯ ถ้าวันนี้พรรคประชาชน หรือตัวเองในฐานะหัวหน้าพรรค สื่อสารไปแล้วเป็นเงื่อนไขทางการเมืองว่าจับมือกับพรรคใดหรือพรรคใดไม่ได้ซึ่งสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอด อย่างที่ได้เห็นเรื่องกำแพงภาษีทรัมป์ แล้วถึงเวลาเงื่อนไขของโลกเปลี่ยน แต่เงื่อนไขที่ตั้งล่วงหน้าอาจถูกตั้งคำถามในอนาคตอาจจะกลายเป็นว่าปิดประตูให้กับประเทศหรือไม่ เงื่อนไขการจับมือกับพรรคใดต้องหารือในช่วงใกล้เลือกตั้ง” นายณัฐพงษ์กล่าว

นายณัฐพงศ์ ยังกล่าวเรื่องเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลเรื่องนโยบายของพรรคจะสามารถมีจำนวน สส.ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ว่า อยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชนที่จะสะท้อนมาจากการทำงานของพรรค ถ้าวันนี้ที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง เชื่อว่าถ้าทำงานอย่างดีเพียงพอแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาก็จะสะท้อนถึงคะแนนเสียงที่ได้รับในอนาคต และหากประชาชนมอบความไว้วางใจได้มากเพียงพอ มั่นใจว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้

เมื่อถามเรื่องคดี 44 สส. ของอดีต สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งปัจจุบันคือพรรคประชาชน อาจกลายเป็นระเบิดเวลาทางการเมืองของพรรคประชาชนมีการเตรียมอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทีมกฎหมายทำงานอย่างเต็มที่ สส. แต่ละคนที่ถูกดำเนินคดีมีทีมกฎหมายประกบแต่ละบุคคล แต่การทำหน้าที่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงสมาธิในการทำงาน ยังคงตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่ได้ประมาทในการเตรียมตัวรับมือในการดำเนินคดี.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]