นครพนม 27 เม.ย. – สำนักโฆษกฯ นำคณะสื่อมวลชนสักการะพระธาตุประสิทธิ์ ชมแหล่งทอผ้าไหม กลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ สำหรับตัดเสื้อ “ศรีโคตรบูร” มอบให้ ครม. สวมใส่ในการประชุม ครม.สัญจร

สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่จังหวัดนครพนม ระหว่างวันที่ 28-29 เมษายน 2568 เพื่อติดตามงานสำคัญด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ได้เยี่ยมชมและศึกษาพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมและเชิงศาสนา ประกอบด้วย วัดธาตุประสิทธิ์ กลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่อเรือ ชมโครงการสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี โครงการศิลปาชีพตามแนวพระราชดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
สำหรับวัดพระธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เป็นหนึ่งในสถานที่แหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญอย่างยิ่งของจังหวัดนครพนม โดยมีพระธาตุประสิทธิ์ประดิษฐานอยู่ภายในวัดธาตุประสิทธิ์ ซึ่งเป็นเจดีย์โบราณที่ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2376 และมีการจำลองรูปทรงมาจากองค์พระธาตุพนม ซึ่งภายในจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง และพระพุทธรูปเก่าแก่จำนวนมาก ซึ่งพระธาตุประสิทธิ์ ถือเป็นพระธาตุประจำวันผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี โดยเชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้ จะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้สัมฤทธิ์ผลในการปฏิบัติงาน

จากนั้นสื่อมวลชนเดินทางต่อไปยังกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ ตำบลท่าเรือ อำเภอน้าหว้า เพื่อเยี่ยมชมศึกษาโครงการสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี โครงการศิลปาชีพตามแนวพระราชดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โดยได้ฟังการบรรยายนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วยแนวพระดำริ Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระทัยตั้งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด ภูมิปัญญาการสร้างสรรค์ผืนผ้าในท้องถิ่นของไทยให้ดำรงอยู่ ตามแนวทางพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งจะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน และยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของชาติให้ดำรงคงอยู่ด้วยความมั่นคงและยั่งยืน
อีกทั้งทรงมีพระราชดำริให้จัดทำโครงการสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี โครงการศิลปาชีพ ได้ขับเคลื่อนและขยายผลโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับทีมที่ปรึกษา “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” และผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย ด้วยภารกิจในการฟื้นฟูภูมิปัญญา ลายผ้า และความเป็นมาของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วยแนวพระดำริ “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการผ้าและเครื่องแต่งกายในพื้นที่อำเภอนาหว้า เข้าร่วมสมาชิก จำนวน 285 คน แบ่งโครงการออกเป็นจำนวน 6 กลุ่ม ได้แก่
1) ศูนย์หัตถกรรมและจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านวัดธาตุประสิทธิ์ หมู่ที่ 4 ตำบลนาหว้า
2) กลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าเรือ
3) กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองและปลูกหม่อนเลี้ยงไหมวัดศรีบุญเรืองบ้านนางัว หมู่ที่ 2 ตำบลนางัว
4) กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านโคกสะอาด หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านเสียว
5) กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาหว้า หมู่ที่ 3 ตำบลนาหว้า
และ 6) กลุ่มคนรุ่นใหม่หัวใจคือชุมชน เยาวชนในพื้นที่อำเภอนาหว้า
โอกาสนี้ คณะสื่อมวลชนเข้าชมกระบวนการผลิต การออกแบบลายผ้า และการดำเนินงานทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ สำหรับนำไปตัดเสื้อ “ศรีโคตรบูร” ของคณะรัฐมนตรีที่จะสวมใส่ในการเข้าร่วมประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 2/2568 ในวันที่ 29 เมษายน 2568
สำหรับเสื้อ “ศรีโคตรบูร” ที่คณะรัฐมนตรีที่จะสวมใส่ในการเข้าร่วมประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งนี้ ถูกทอโดยกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ ตำบลท่าเรือ อำเภอนาหว้า ตามโครงการนาหว้าโมเดล ซึ่งเป็นผ้าไหม ย้อมสีธรรมชาติจากคราม (สีคราม) และครั่ง (สีแดง) ตกแต่งด้วยผ้าไหมมัดหมี่ลายขอก่ายแก้ว ซึ่งเป็นผ้าลายสร้างสรรค์จากโครงการ “นาหว้าโมเดล” โดยในกระบวนการย้อมเส้นไหม ในการก่อหม้อคราม จะใช้ใบกันเกรา ที่เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดนครพนม และใบหูกวาง นำมาต้มสกัดสีและนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำด่างธรรมชาติ ซึ่งจะใช้ในกระบวนการก่อหม้อย้อมครามต่อไป.-316-สำนักข่าวไทย