พม.เปิดหน่วยงานทั่วประเทศเป็นจุดพักรถ-พักคน ช่วงหยุดยาวสงกรานต์

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – “วราวุธ” เผย พม. เปิดหน่วยงานทั่วประเทศเป็นจุดพักรถ-พักคน ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ รองรับพี่น้องประชาชน-กลุ่มเปราะบาง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย 2568 นี้ มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน มีวันสำคัญคือ วันผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 13 เมษายน และวันแห่งครอบครัว ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายน ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขออวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันกับครอบครัว ญาติพี่น้อง ปู่ย่า ตายาย และลูกหลาน เพื่อสร้างสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็งให้กับสังคมไทย

สำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันนั้น ขอให้ทุกๆ คนเดินทางโดยสวัสดิภาพ ขับรถด้วยความระมัดระวัง ปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น และขอให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง เมาไม่ขับ และง่วงไม่ขับ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ ประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อความปลอดภัยระหว่างการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวต่างจังหวัด ทางกระทรวง พม. โดยทีม พม. หนึ่งเดียวจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายหลักและถนนสายรอง จึงได้เปิดพื้นที่หน่วยงานเป็นจุดพักรถบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ตั้งแต่วันนี้-17 เมษายน 2568 โดยให้บริการที่จอดรถ ห้องน้ำคนพิการและผู้สูงอายุ มุมพักผ่อนสำหรับน้ำดื่ม กาแฟ อาหารว่าง พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาด้านสิทธิสวัสดิการสังคมต่างๆ ของกระทรวง พม.


หน่วยงานทีม พม.หนึ่งเดียว จังหวัดทั่วประเทศ ที่เปิดจุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 มีดังนี้
1) ภาคเหนือ ได้แก่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่ พะเยา และตาก, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งสันมหาพน จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่านและแม่ฮ่องสอน, นิคมสร้างตนเองเขื่อนภูมิพล จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ (ถนนสายเขื่อนแม่งัด), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย และอุตรดิตถ์, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ลำพูน และลำปาง, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดลำปาง

2) ภาคกลาง ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านกึ่งวิถี (ชาย) จังหวัดปทุมธานี (ถนนรังสิต-นครนายก), ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านโมกุล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ จังหวัดลพบุรี (อำเภอชัยบาดาล), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครนายก นนทบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ และสุพรรณบุรี, สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิตและพญาไท, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ, สถานแรกรับเด็กชายบ้านปากเกร็ด, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด, สถานสงเคราะห์เด็กหญิงสระบุรี, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ กทม., ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านสองแคว จังหวัดพิษณุโลก, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครปฐม สุโขทัย และกำแพงเพชร, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งวังทอง จังหวัดพิษณุโลก, นิคมสร้างตนเองตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์, นิคมสร้างตนเองทุ่งโพธิ์ทะเล จังหวัดกำแพงเพชร, นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และนิคมสร้างตนเองประจวบคีรีขันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค กทม., ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนเวศม์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี

3) ภาคตะวันตก ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการจังหวัดราชบุรี (อำเภอเมือง) และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดราชบุรี


4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ บ้านทองพูนเผ่าพนัส อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร ยโสธร เลย ศรีสะเกษ สกลนคร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี อุดรธานี และนครราชสีมา, สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กขอนแก่น, สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง, สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดหนองคาย, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านหนองคาย, ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม ขอนแก่น และบุรีรัมย์, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น และศรีสะเกษ, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุรินทร์ กาฬสินธุ์ นครพนม บึงกาฬ ร้อยเอ็ด อุดรธานี และอุบลราชธานี, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งปรือใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตาจังหวัดนครราชสีมา, นิคมสร้างตนเองปราสาท จังหวัดสุรินทร์, นิคมสร้างตนเองโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย, นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยจังหวัดอุบลราชธานี, นิคมสร้างตนเองลำโดมใหญ่จังหวัดอุบลราชธานี และนิคมสร้างตนเองลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์

5) ภาคใต้ ได้แก่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา, สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช, นิคมสร้างตนเองรัตภูมิ จังหวัดสงขลา, นิคมสร้างตนเองขุนทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา, สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา และสตูล, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านศรีธรรมราช, สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา, สถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา, สถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต และสงขลา และศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา

6) ภาคตะวันออก ได้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการการุณยเวศม์ จังหวัดชลบุรี (ถนนสุขุมวิท), บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ระยอง และปราจีนบุรี, สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านบางละมุง, สถานสงเคราะห์พัฒนาและฟื้นฟูเด็ก จังหวัดชลบุรี, สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กจังหวัดระยอง, ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี และศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี

กระทรวง พม. พร้อมเคียงข้างพี่น้องประชาชน หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้ติดต่อที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 บริการ 24 ชั่วโมง .-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 24 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 7 ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึง 27 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568) ในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้วันที่ 24 พฤษภาคม 2568ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ […]

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]