“แพทองธาร” ยัน​ไม่ท้อ​ หลังบ่น​ “หัวจะปวด”

กทม. 9 เม.ย.-นายกฯ ขอไปทำความเข้าใจพรรคร่วมฯ ปมเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เสียดายโอกาสหากไม่เกิดขึ้น พร้อมยัน​ไม่ท้อ​ หลังบ่น​ “หัวจะปวด”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ว่า หากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เสียดายโอกาสของประเทศที่ควรจะได้เดินหน้าไปต่อ ผ่านการสร้าง Man-Made Tourism ที่ยิ่งใหญ่ เพราะจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหญ่


ย้ำว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่ คาสิโน ขณะนี้ทุกประเทศ มุ่งไปทางการสร้าง Man-Made Tourism กันหมดแล้ว เพราะสิ่งที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอ เมื่อเศรษฐกิจฝืดเคืองเม็ดเงินเข้ามาไม่ทัน ดังนั้นจะต้องทำทุกวิถีทาง ส่วนเกมการเมือง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จะต้องโฟกัสเรื่องการทำงาน และเศรษฐกิจด้วย ซึ่งก็จะเดินหน้าทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด และคิดว่าระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ น่าจะเพียงพอ ที่จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจตรงกัน

รวมทั้งจะไปพูดคุยทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะยังพบว่ามี สส.ในพรรค และสมาชิก หลายคนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว เช่น นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานีพรรคภูมิใจไทย ก็มีการออกมาแสดงท่าที นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็คงต้องอธิบายให้เข้าใจ ว่าความตั้งใจจริงๆ คืออะไร เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่แรกแล้ว


ขณะที่พรรคประชาชาติ ระบุว่าเรื่องนี้ขัดกับหลักศาสนา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องอธิบายเรื่องนี้อย่างจริงจัง และย้ำสัดส่วน 10 % ของโอกาสที่จะทำให้ประเทศมีเงินเข้าระบบมากขึ้นจำนวนมาก ก็น่าเสียดาย แต่ตนเองจะทำให้เต็มที่

ขณะที่โอกาสจะชะลอ 10% ในสัดส่วนของคาสิโน ไว้ก่อน แลิวไปสร้างส่วนอื่นที่เป็นภาพใหญ่ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปก่อนได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าต้องดูในกระบวนการ เพราะอาจจะไม่มีเงินมาจ่ายทั้งหมด และงบประมาณที่ลงไปก็จะไม่มีเงินหมุนกลับมา เช่น โรงแรมกว่าจะคืนทุนใช้เวลา 5-10 ปี เชื่อว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ขนาดใหญ่ เงินจะหมุนกลับมาไม่ทันแน่นอน

พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมาการสื่อสารอาจยังไม่เพียงพอ ก็เลยทำให้ถูกบิดเบือน ย้ำว่าขั้นตอนการทำประชามติ ขณะนี้ยังไม่จำเป็น และจะต้องไปปรึกษากับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน


ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรื่องเกมการเมืองมาจากที่ใดนั้น นายกรัฐมนตรี มองว่า มาจากทุกที่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติก่อนเรื่องจองเกมการเมือง

ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า หากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เกิดไม่ทันในระบบรัฐบาลนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี มั่นใจในเรื่องนี้หรือไม่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องดูในกระบวนการ แต่ไม่อยากให้มองว่าเป็นแบบนั้น มองเน้นไปว่าเป็นกาสิโน พร้อมถามย้ำคนที่บอกว่าไปเล่นการพนัน ไปเล่นกันที่ไหน ถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งส่วนนี้ต้องนำมาเข้าระบบ เงินที่นำไปเล่นในกาสิโนต้องถูกจ่ายภาษีให้รัฐ นำมาใช้ประโยชน์ เช่น การสร้างสเตเดียม สำหรับการตั้งคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ พร้อมระบุว่าตั้งแต่ตนเองเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี 7 เดือน พลาดเรื่องใหญ่ๆ กิจกรรมงานใหญ่ๆ ไปเยอะมาก เพียงเพราะไม่มีสเตเดียมขนาดใหญ่มารองรับการจัดงานคอนเสิร์ตที่ทุกคนชอบ เป็นแฟนคลับ ก็ไม่มาจัด เพราะมีพื้นที่ไม่พอ ซึ่งงบประมาณการสร้างเป็นพันล้านหมื่นล้าน แค่การขายตั๋วไม่สามารถคืนทุนได้ จึงต้องนำเงินส่วนนี้ มาทำให้เศรษฐกิจภาพใหญ่เกิดการหมุนเวียน แต่หากถูกนำไปบิดเป็นเรื่องการเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง

ส่วนที่มีภาพขณะเสร็จสิ้นการแถลงข่าวหลังประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี บ่นว่า “หัวจะปวด” เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจำไม่ได้ พูดมั้ง แต่เมื่อเวลางานยุ่งก็จะพูดคำว่า “ปวดหัว หัวจะปวด” แต่ยืนยันว่าไม่ได้ท้อ แต่เป็นการบ่นแบบขำๆ เพราะมีงานมากมายหลายสิ่ง พร้อมถามกลับว่าทุกคนพูดคำนี้กันไหม.-324.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]