“ทวี” บอกร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เกี่ยวหลักศาสนา

ทำเนียบ 8 เม.ย.- “ทวี” บอก ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เกี่ยวหลักศาสนา เชื่อทำความเข้าใจฐานเสียงที่เป็นมุสลิมได้ ชี้ สส. ทุกคนมีอิสระ ป้อง “ทักษิณ” ไร้ความคิดขับออกพรรคร่วมที่เห็นต่าง


พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาชาติต่อร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาซึ่งอยู่ในข้อ 7 เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ต่อยอดจากมาตรการฟรีวีซ่า เพื่อให้เกิดสถานบันเทิงครบวงจร และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ให้มีการจับจ่ายใช้เงิน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมหาศาล สิ่งที่รัฐบาลเสนอเข้ามา มี 3 วาระ วาระแรก เราจะพิจารณาเฉพาะหลักการ คือจะให้มีกฎหมายสถานบันเทิงฯ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องปฏิบัติตามนโยบายแถลงต่อสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ในส่วนของ สส. มีหน้าที่พิจารณากฎหมาย และสามารถแก้ไขได้หมด ไม่ว่าจะตัดหรือจะเพิ่ม แต่ที่แก้ไม่ได้อย่างเดียวคือเรื่องหลักการ

“อยากให้ไว้ใจสภา เพราะกฎหมายที่ผ่านสภาน่าจะดีกว่ากฎหมายที่ผ่านการยึดอำนาจ เพราะไม่ได้ฟังเสียงใครเลย แต่กฎหมายนี้ฟังเสียงประชาชน อีกทั้งไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนา แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่ง สส.ทุกคนมีอิสระ” พันตำรวจเอก ทวี กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะให้ สส.ประชาชาติ ฟรีโหวตใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า สส. ก็ต้องไปพิจารณา อีกทั้งเป็นเพียงขั้นตอนรับหลักการ แม้จะมีเรื่องการพนัน แต่เราก็มีการกำหนดเงื่อนไขคือ ต้องมีเงินฝาก 50 ล้านบาท ซึ่งตรวจสอบแล้ว คนไทยมีเงินฝากจำนวนนี้ประมาณ 26,000 คน ดังนั้นเราเปิดให้ต่างชาติเข้า

เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมแล้วหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ทุกคนมีอิสระ เราเข้าใจในเรื่องศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยที่อยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเรามีกฎหมายในลักษณะนี้ก็อยากให้ทำความเข้าใจ ยืนยันว่ารับฟังความเห็นของทุกคน แต่เรามีสภาซึ่งก็อาจจะต้องตั้งคณะกรรมาธิการ แม้จะแก้หลักการไม่ได้ แต่อาจจะมีกฎหมายเรื่องการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงฯ ส่วนเรื่องเหตุผลแต่ละรายมาตรา สามารถปรับแก้ได้ ส่วนจะรับหรือไม่ให้ดูวาระที่ 3

เมื่อถามว่า มีคนคัดค้านจำนวนมาก กังวลหรือไม่ว่าจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคประชาชาติ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า การสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดี และได้แสดงจุดยืนแล้วว่า คนมุสลิมจะทำอะไรที่ขัดหลักศาสนาไม่ได้ แต่ในทางปฏิบัติคนมุสลิมก็ต้องอยู่ร่วมกัน เพราะในวันนี้ เรามีกฎหมายที่มีดอกเบี้ยเป็นจำนวนมาก และมีการตั้งธนาคารอิสลาม ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อมีพื้นที่ให้พี่น้องได้ใช้ช่องทางนี้


เมื่อถามว่า จะทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการมีกาสิโน ช่วยเรื่องเศรษฐกิจใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำความเข้าใจ แต่ในส่วนของ สส. ต้องพิจารณากฎหมาย อะไรที่เห็นว่าขัดหลักการ ก็สามารถแก้ไขได้ เราต้องอยู่ในสังคมที่เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง

เมื่อถามต่อว่า ยอมรับกับผลที่จะตามมาหากเห็นด้วยกับรัฐบาล พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมายที่คุ้มครองปกป้องประชาชน และทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ซึ่งกฎหมายนี้ก็ผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนมา 4 รอบ โดยวันพรุ่งนี้ก็ต้องมีการพูดคุยในสภา

ส่วนที่มีข่าวนายทักษิณ ขู่ขับพรรคร่วมออกจากรัฐบาล หากไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายดังกล่าว พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ทางเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกำลังหาตัวคนที่ปล่อยข่าว เชื่อว่านายทักษิณไม่มีความคิดอย่างนี้ เราต้องมีความเข้าใจ เรายืนอยู่บนระบอบประชาธิปไตย สังคมก็เข้าใจว่านายกฯ ได้แถลงนโยบายต่อสภาว่าจะมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งวันนั้นไม่มีใครค้าน และวันนี้กฎหมายกำลังเข้าสู่สภา ซึ่งเป็นการรับหลักการ ส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ก็สามารถแก้ไขได้

ส่วนวันนี้จะขอความชัดเจนจากนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ ว่าถ้าไม่เห็นด้วยจะถึงขั้นขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลพันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า นายกฯ ชัดเจนแล้ว การเป็นรัฐบาลเราอยู่ร่วมกันแบบให้เกียรติและเคารพกัน อย่างกระทรวงยุติธรรม ก็ยึดกฎหมายเป็นหลัก และเห็นว่าร่างกฎหมายนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อเสนอของผู้นำศาสนาต่างๆ เราก็ต้องรับฟัง หาก สส. ไม่รับผิดชอบไม่พิจารณากฎหมาย แม้อาจทำสุดโต่งไม่ได้ทั้งหมด แต่ต้องรักษาพื้นที่ เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียม จะไม่ใช้ในพื้นที่ที่มีการใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก ดังนั้นกฎหมายสมรสเท่าเทียมจึงไม่บังคับใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สตูล นี่คือตัวอย่าง หน้าที่ของ สส. ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเมื่อมาด้วยประชาชนก็ต้องปกป้องประชาชน

ส่วนที่นักวิชาการออกมาระบุว่าเรื่องนี้อาจขัดรัฐธรรมนูญรวมไปถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วยนั้น พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเขียนไว้ให้ประชาชนและสมาชิกรัฐสภาได้อ่าน ไม่มีตรงไหนที่บิดเบือน ส่วนความเหมาะสมหรือไม่นั้น เหตุใดตอนแถลงนโยบายถึงไม่ต่อต้าน อะไรที่เกินไปก็รับฟัง และขอบคุณนักวิชาการที่ห่วงใย ก็อยากให้ส่งข้อมูลกับกรรมาธิการ จะได้ร่วมกันพิจารณา

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องม็อบหรือไม่ เพราะมีคนคัดค้านหลายส่วน พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เรื่องประชาธิปไตยเราต้องเคารพ การออกมาเรียกร้องก็ต้องรับฟัง

ส่วนที่ สว. เสนอให้มีการทำประชามติ ว่าควรมีกาสิโนหรือไม่นั้น พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ในข้อบังคับการประชุมกฎหมายสามารถเปิดรับฟังความเห็นได้ในระหว่างพิจารณา.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]