“เนวิน” บอกซื้อใจนายกอบจ. ต้องปลดล็อกวาระ 2 สมัย

บุรีรัมย์​ 4 เม.ย. – “เนวิน” ตรวจแถว ผู้ว่าฯ – นายกอบจ. ทั่วประเทศ สีน้ำเงินพรึ่บ ตบเท้าใส่เสื้อบอลบุรีรัมย์ คุมประพฤติ ขอบิณฑบาตใช้งบพัฒนาจังหวัดไม่ใช่มรดกเจ้าคุณปู่ ซื้อใจนายกอบจ. ต้องปลดล็อก วาระดำรงตำแหน่ง 2 สมัย​ และออก กม.​บริจาคภาษีบ้านเกิดเมืองนอน​ คืนงบให้ท้องถิ่น​ หลังส่งลูกหลานภูมิใจไทยผลักดัน ก่อนเหน็บคงไม่ด่วนเท่า “กาสิโน” พร้อมจี้ให้ ล็อบบี้ สส. ในพื้นที่ช่วยผลักดัน


นายเนวิน​ ชิดชอบ​ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “แนวทางการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ยุคใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์การบริหารส่วนจังหวัด” แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายกอบจ.ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ ด้านการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อบูรณาการขับเคลื่อน การพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ 2568​ ว่าวันนี้เป็นวันที่ตั้งใจ มีความหวัง และมีความมุ่งหวังว่า สิ่งที่ได้นำเสนอต่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดในวันนี้ จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นในประเทศ ซึ่งใช้เวลาร่วมกับพี่น้องประชาชน โดยการสนับสนุนของภาคราชการ 15 ปี ในการสร้างบุรีรัมย์จากเมืองผ่านเป็นเมืองพัก ถ้าเทียบกับสุรินทร์ บุรีรัมย์เป็นเมืองตำน้ำกิน ส่วนสุรินทร์กินน้ำตำ เป็นสองประโยคที่อธิบายให้เห็นความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของพี่น้องบุรีรัมย์ในอดีต แต่วันนี้บุรีรัมย์กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยสองเหตุผล

นายเนวิน กล่าวต่อว่า เหตุผลแรกด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่เสด็จพระราชดำเนินมาดูแลทุกข์สุขของพี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เรารู้ตัวดีว่าเมืองบุรีรัมย์เริ่มต้นอย่างไร ทำให้เราได้แรงบันดาลใจที่ได้เห็นจากรุ่นสู่รุ่นที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาที่คุณต่อชาวบุรีรัมย์ ส่วนเหตุผลที่สองที่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เมืองบุรีรัมย์เปลี่ยนแปลงมาจนถึงวันนี้ได้ คืออำนาจของประชาชน กลไกที่ทำให้บุรีรัมย์เปลี่ยนจากเมืองตำน้ำกิน กลายเป็นเมืองที่ทำให้ผู้คนมาศึกษาดูงานจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นจากอำนาจของประชาชน


นายเนวิน กล่าวว่า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมาจากอำนาจของประชาชน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข เพื่อให้ประชาชนมีความสุข โดยนิตินัยเรามีผู้ว่าราชการจังหวัด 76 คน และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 1 คน เรามีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 76 คน บางเมืองยืนอยู่ได้อย่างชัดเจนซึ่งเป็นส่วนน้อย บางเมืองไม่เติบโต บางเมืองแย่ลง เพราะความไม่ต่อเนื่อง ความไม่ยั่งยืนของฝ่ายบริหาร ของรัฐ และของผู้อำนาจที่เข้ามาทำหน้าที่ในบ้านเมือง

นายเนวิน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาที่บุรีรัมย์สะดุดขาดความต่อเนื่องตลอดมา เพราะคำว่านโยบายที่ไม่คำนึงถึงความต้องการของพี่น้องประชาชนที่แท้จริง ดังนั้น สิ่งที่ตนหวังในวันนี้คือเห็นคนที่มาจากอำนาจของประชาชนคือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และคนที่มาจากอำนาจรัฐอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มานั่งอยู่ในห้องนี้ร่วมกัน แชร์ และเคลียร์ว่าถ้าเราจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองต้องมีผู้เสียสละด้วยกันทุกฝ่าย ที่ตนพูดเรื่องความไม่ต่อเนื่องไม่ยั่งยืน ต้องยอมรับความจริงว่ากว่า 80% ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ไปดำรงตำแหน่งแต่ละจังหวัดท่านไม่ใช่คนเกิดที่นั่น แต่มาโดยวาระของราชการที่มาแล้วก็ไป ซึ่งการที่บุรีรัมย์ผ่านมาได้เพราะ 15 ปีที่ผ่านมา อำนาจของประชาชนมั่นคงมุ่งมั่นมีจุดยืน มากกว่าอำนาจฝ่ายบริหารที่มาอยู่ที่บุรีรัมย์ นี่คือหัวใจสำคัญ

“ผมเห็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานที่บุรีรัมย์บ้านของผม ท่านมาพร้อมอำนาจความคิดของตัวเอง แต่พอหมดวาระแล้วก็ไปหลายสิ่งหลายอย่างท่านทิ้งไว้ไม่ได้ดำเนินการต่อ สูญเสียทั้งเวลา งบประมาณ หยาดเหงื่อแรงงานของคนบุรีรัมย์ แต่หลังจากนั้น 15 ปี ชาวบุรีรัมย์จับมือกันยืนอยู่บนพื้นฐานว่าเราจะไม่เปลี่ยน ไม่ว่าใครจะไป ใครจะสั่งอะไร เรายึดหลักรักษาทรัพยากร งบประมาณเพื่อความยั่งยืน และความมั่นคงของคนบุรีรัมย์ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำในวันเดียว หรือสำเร็จโดยมีอำนาจการเมืองไปลงงบประมาณ แต่เป็นเรื่องของความยั่งยืน ความต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเดียวกันของคนบุรีรัมย์ สำคัญที่สุดคืออำนาจของประชาชน ที่จะร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเมืองของตัวเอง ไม่มีใครรักบ้านเมืองเรามากกว่าคนที่เกิดที่นั่นและจะตายที่นั่น ดังนั้น สำคัญที่สุดคือบ้านเกิดเมืองนอน และความสำเร็จของบุรีรัมย์ที่มีอยู่ผมได้ถ่ายทอดไปสู่เจเนอเรชั่นต่อไป” นายเนวิน กล่าว


นายเนวิน กล่าวอีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจจริงหรือ ที่จะทำโครงการอะไรก็ทำเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตัวเอง การที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหลายได้คะแนนมาของปลอมทั้งนั้น หากท่านเปิดดูข้อบัญญัติจังหวัดในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กระจายอำนาจของท้องถิ่น ถามว่าสิ่งที่ท่านจะเสนอต่อจังหวัดท่านมีอำนาจที่จะจัดสรรโครงการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนของท่านจริงหรือไม่ หรือท่านเป็นได้แค่แคชเชียร์ ความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ความยั่งยืนที่จะใช้งบประมาณที่เหลือน้อยนิดที่จะสร้างบ้านเมืองให้ดีจะทำอย่างไร ในที่สุดก็เอาแบบลูบหน้าปะจมูกหลอกกันไปวันๅ ฉะนั้น สำหรับตนความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นที่จะสร้างบ้านเกิดเมืองนอนของใครก็แล้วแต่ ให้เกิดความเจริญความเปลี่ยนแปลง สิ่งเดียวที่จะต้องให้ และต้องทำ คือให้อำนาจประชาชน

นายเนวิน กล่าวว่า วิธีที่จะให้อำนาจประชาชน สิ่งแรกคือการตัดสินใจเลือกคน ไม่ว่าจะเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหรืออะไรก็ตามในท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนดีพี่น้องประชาชนก็อยากรักษาไว้ ตนมีคำถามว่ารัฐบาลกลางจะรู้ดีกว่าประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร ว่าใครดีใครไม่ดี คุณกลัวว่าผู้บริหารท้องถิ่นจะแข็งแรงเติบโต ก็ไปออกกฎหมายว่าดำรงตำแหน่งได้ไม่เกินสองวาระ ตนถามว่าแบบนี้ใช่หรือ ในเมื่อเรามีการเลือกตั้งทุก 4 ปีอยู่แล้ว ประชาชนรู้ดีกว่าว่าใครไม่ดี ถ้าเป็นแล้วดีต่อให้ตายคาตำแหน่งประชาชนเขาก็เลือก แต่ถ้าเป็นคนไม่ดีไม่ต้องรอให้ถึงวาระที่สอง ไม่ครบวาระประชาชนก็อยากเดินขบวนไล่แล้ว นี่คืออำนาจประชาชน

นายเนวิน กล่าวต่อว่า บอกเรื่องนี้ให้กับลูกหลานในพรรคภูมิใจไทยว่าอำนาจประชาชนคืออะไร ให้เขาตัดสินใจชีวิตของเขาเองในเมื่อเขาเลือกผู้ว่าฯไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเราจะขาดความเป็นส่วนกลางกับส่วนภูมิภาคไม่ได้ รอยต่อระหว่างส่วนกลางกับส่วนภูมิภาคมันต้องมี ดังนั้น ทำไมเราถึงไม่ให้อำนาจประชาชนในการตัดสินว่าอยากให้ใครเป็นผู้บริหารท้องถิ่นสำหรับเขา ไม่ใช่มีแต่ความย้อนแย้งเตะสกัด

นายเนวิน กล่าวอีกว่า หลักในการพัฒนาเมือง เราเชื่อเรื่องทรัพยากรที่มีความจำกัด แต่ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีคำว่าจำกัด วันนี้ไทยจะแข่งอะไรกับใครได้ อุตสาหกรรมก็ไปไม่ได้ ไอทีก็ตามเขาไม่ทัน เหลืออย่างเดียวคือท่องเที่ยวและบริการ ถ้าไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวผู้คนลำบากถามว่าจะเอาอะไรไปขาย ผมบอกลูกหลานของผมในพรรคภูมิใจไทยว่าถึงเวลาที่จะต้องกล้าเสนอกฎหมาย คือให้อำนาจประชาชนที่เป็นผู้เสียภาษี ในการที่เขาจะเลือกว่าภาษีที่เขาเสียจะส่งไปท้องถิ่นไหน นี่คือวิธีเดียวที่จะทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง นโยบายที่กำหนดจะดำเนินได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน สเต๊ปแรกคือ ภ.ง.ด.9 รายได้ส่วนบุคคล ต้องให้อำนาจตัดสินใจว่าเขาจะเอาเงินภาษีไปไว้ที่ไหน เรายังให้อำนาจประชาชนในการบริจาคเงินพรรคการเมืองได้ ทำไมเราถึงไม่ให้อำนาจประชาชนที่จะส่งเงินไปสู่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง นี่คือเรื่องที่เราต้องต่อสู้ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหลายต้องกลับไปบอกสส.ของท่าน ว่าไม่อย่างนั้นให้กลับไปเอาคะแนนที่กรุงเทพฯ เพราะภาษีทั้งหมดไปกองอยู่ที่เดียวคือที่ส่วนกลาง ส่วนภาษีนิติบุคคล ขณะนี้โมเดิร์นเทรดเต็มไปหมด ถามว่ามาเอากำไรไปจากพื้นที่ เอาไปจากบ้านเราใช่หรือไม่ แต่เวลาเสียภาษีเสียให้กรุงเทพฯ ไปอยู่ส่วนกลาง ถามว่าแต่ละจังหวัดจะมีชีวิตอยู่อย่างไร

“ให้เขามีสิทธิ์กาในแบบฟอร์มเสียภาษี ภ.ง.ด.9 ว่าเขาจะส่งเงินลงไปที่ไหน แล้วแต่ว่าใครจะสำนึกรักบ้านเกิด นี่คือการให้อำนาจประชาชนจริงๆไม่ใช่แค่ให้อำนาจประชาชนหลอกๆ นี่คือหลักเกณฑ์การสร้างความยั่งยืนความเจริญของท้องถิ่นสำหรับผม แน่นอนว่าลูกผม และทีมงานคงพากันไปเสนอกฎหมายแล้ว แต่อย่างไรคงไม่เร่งด่วนเท่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ นี่คือความรู้สึกของคนที่อยากเห็นความยั่งยืนความเจริญเติบโตของบ้านเมืองที่แข็งแรงต่อไป ดังนั้น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหลายท่านก็มีคะแนน ท่านก็มีประชาชน ถ้าอยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ขอให้ช่วยกันกดดันเรื่องนี้ เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่มีคนค้าน เพราะเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจประชาชนโดยตรง

นายเนวิน กล่าวต่อว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนอยากมาอยู่บุรีรัมย์ต้องเหนื่อยมากกว่า เพราะคุณไม่ใช่ผู้ว่าฯ คุณต้องเป็นผู้ทำ ต้องทำทุกอย่างท่านไม่ใช่ผู้สั่ง ตนกับผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ทุกคนช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เวลาที่เราคิดจะทำพวกเราเริ่มต้นก่อนประชาชน เราทำงานมากกว่าชาวบ้าน เราอยู่กับชาวบ้าน และเราเลิกหลังชาวบ้าน ที่สำคัญเราไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางเป้าหมายของบ้านเมือง หลังปฏิวัติรัฐประหาร เวลามีผู้ว่าฯมาบุรีรัมย์ ตนพูดอยู่คำเดียวว่า หากเห็นด้วยช่วยกันทำสิ่งที่กำลังสร้างมาอย่างยาวนาน แต่ถ้าไม่เห็นด้วยช่วยอยู่เฉยๆ นี่คือคาถาสำคัญสำหรับการสร้างเมือง คือถ้าเห็นด้วยก็ไปช่วยเขาทำ

“สิ่งที่ต้องฝากไป ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดครับ งบพัฒนาจังหวัด เอาไปใช้ พัฒนาจังหวัดนะครับ ไม่ใช่มรดกเจ้าคุณปู่ และท่านนายก อบจ. เขาก็เกิดที่นั่น โตที่นั่น เขาก็ต้องตายที่นั่น เอางบพัฒนา อบจ. กับงบพัฒนาจังหวัด มาช่วยกัน มาต่อยอดสร้างแรงดึงดูด สร้างเมือง สร้างความยั่งยืน ให้กับพี่น้องประชาชนที่ท่านไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด นี่คือสิ่งที่ผมอยากขอ ส่วนขุดสระ ซ่อมถนน ไฟฟ้า 3 อย่างนี้ ให้หน่วยงานปกติทำเถอะครับขอบิณฑบาตเถอะครับ” นายเนวินกล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกอบจ. ที่มาร่วมงาน ทั่วประเทศ ต่างสวมเสื้อสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด สีน้ำเงิน เกือบทั้งหมด ขณะที่ในช่วงท้าย บรรดานายกอบจ. ก็เดินเข้าหานายเนวิน เพื่อทักทาย และขอถ่ายรูป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี พร้อมยกมือไหว้ และสวมกอด​ ขณะที่นายเนวินปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยระบุว่าวันนี้มาเป็นวิทยากร.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]