เพื่อไทยแจงหลังเหตุประท้วงวุ่น ซัดฝ่ายค้านทำเป็นเรื่องใหญ่

รัฐสภา 3 เม.ย.- เพื่อไทย แจงหลังเหตุประท้วงวุ่น “สุทิน” ซัดฝ่ายค้านเรื่องเล็กทำเป็นเรื่องใหญ่ ชี้มีการศึกษามานานแล้ว เชื่อเร่งพิจารณาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ซ้ำรอยกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย


แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนายสุทิน คลังแสง สส. บัญชีชื่อรายชื่อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด บัญชีชื่อรายชื่อ และนางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ บัญชีชื่อรายชื่อ การแถลงข่าวหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ประท้วงวุ่น ในการเสนอญัตติด่วน2 ญัตติ ระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ในฐานะผู้เสนอญัตติเลื่อนวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขึ้นมากล่าวว่าไม่ได้หมายความว่า จะเร่งเพื่อให้พิจารณาในวันนี้ แต่พิจารณาในประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 9 เมษายน ซึ่งเป็นการเสนอเรื่อง เป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับ แต่มีการสื่อสารเข้าใจผิดจาก สส. ฝ่ายค้าน

และยืนยันตั้งใจที่จะพิจารณาญัตติเกี่ยวกับแผ่นดินไหวตามที่ฝ่ายค้านได้เสนอญัตติ เพื่อหาสาเหตุตึกถล่ม และเพื่อไทยยืนยันชัดว่าทุกความเดือดร้อนของประชาชนจากเหตุแผ่นดินไหว เป็นเรื่องที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยให้ความใส่ใจ และเตรียมการอภิปรายอย่างเต็มที่


“ไม่มีความจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะเลื่อนนำกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรมาพิจารณาตัดหน้า เหตุการณ์แผ่นดินไหว ขอยืนยันชัด ส่วนการเลื่อนกฎหมายไปพิจารณาสัปดาห์หน้า เนื่องจากเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล หวังสร้างรายได้ใหม่ให้กับคนไทย” นายอนุสรณ์กล่าว

นายสุทิน คลังแสง ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเรื่องเล็กทำเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีเรื่องแต่ทำให้เป็นเรื่อง ยืนยันเจตนาที่ตรงกัน ของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลที่จะพูดญัตติเรื่องแผ่นดินไหว แต่มีความจำเป็นที่จะต้องเสนอญัตติเลื่อนวาระ เพื่อพิจารณาในสัปดาห์หน้าให้เกิดความชัดเจน และเป็นไปตามข้อบังคับ ที่ระบุว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหากจะเลื่อนอภิปราย จะต้องเลื่อนล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีในการเสนอญัตติ

“แต่ฝ่ายค้านไม่รู้เข้าใจ หรือไม่เข้าใจ บอกในทำนองเราจะแซงหน้าแผ่นดินไหว ซึ่งจริงๆแล้วเป็นคนละเรื่อง เราไม่มีเจตนาที่จะไปแซงหน้าแผ่นดินไหว หากจะมองว่าแซงก็คือแซง 5 นาที เพื่อขอจัดการเรื่องสัปดาห์หน้าเท่านั้น ซึ่งวันนี้กว่าจะจบได้ ก็เสียเวลาไปเป็น 3 ชั่วโมง ฝ่ายค้านบอกว่าอยากพูดเรื่องแผ่นดินไหวเร็วๆ แต่การกระทำของฝ่ายค้านเองทำให้การพิจารณาเรื่องแผ่นดินไหวช้าไป 3 ชั่วโมง” นายสุทินกล่าว และชี้แจงเหตุผลที่นำเรื่องร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์มาพิจารณาในสัปดาห์หน้า ด้วยเพราะจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหากยังหารายได้ตามกรอบเดิม ไม่กล้าหาตามสิ่งใหม่ ก็จะไม่มีรายได้ใหม่เข้ามา ก็ไม่มีทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้มีการศึกษามานานถึง 20 ปีแล้ว


นายสุทิน ยังกล่าวว่าในการพิจารณาสัปดาห์หน้าจะสามารถแล้วเสร็จและเข้าสู่การตั้งกรรมาธิการพิจารณาได้ ส่วนในวาระที่ 2 ไปพิจารณาช่วงปิดสมัยประชุม ทั้งนี้การผลักดันร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์มาพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกว่ากฎหมายจะบังคับใช้ต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน ภายใต้เวลาที่จำกัดอายุรัฐบาลอีก 2 ปี

นายสุทิน กล่าวว่า ภาพการปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาล ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าประชาชนสามารถเข้าใจได้ หากมองในมุมบวกจะเห็นว่าทุกคนต่างทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นธรรมชาติการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยกตัวอย่างในต่างประเทศมีถึงขั้นชกต่อยกัน

ส่วนกรณีผู้ชุมนุมคัดค้าน นายสุทิน ระบุว่า ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นเรื่องที่ริเริ่มใหม่ จึงมีความท้าทายในความขัดแย้ง เชื่อหาข้อยุติร่วมกัน ผ่านกลไกสภา หากทุกคนให้ความเคารพเชื่อว่าความขัดแย้งจะลดลง โดยเห็นว่าก็เป็นไปได้ที่จะมีคนตั้งข้อสังเกตว่าการเร่งรีบผลักดันร่างกฎหมายอาจมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่

“คนที่คิดโดยสุจริตใจก็คิดได้ คนที่ไม่สุจริตใจก็คิดได้ แต่ว่าเรื่องนี้จะต้องมีเหตุผลที่พูดคุยกัน และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองที่อยู่จากนั้น ก็ต้องรับผิดชอบอนาคต ใครคิดทำเรื่องไม่ดี ไม่งาม ไปเป็นผลประโยชน์ส่วนตัว มันไปไม่รอด สังคมตามอยู่ คือหนึ่งสามารถอธิบายได้ และสองต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง” นายสุทินกล่าว

เมื่อถามว่าท้ายที่สุดการพิจารณาร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะซ้ำรอยกรณีการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมสุดๆหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่าไม่เป็นเช่นนั้น ยืนอยู่ผลประโยชน์ของประชาชน ส่วนเรื่องนี้มีการศึกษามานานมาก ทุกยุคทุกสมัย ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านมีหมดแล้ว ส่วนประเทศไทยช้าด้วยซ้ำไป โดยความเห็นส่วนตัวเห็นว่า เมื่อเรื่องนี้คุยมานานมากแล้ว ประเทศไทยควรที่จะลองดูสักทีจะเป็นอะไร หากลองแล้วไม่ดีก็ยกเลิกกฎหมายได้ ถ้าไม่ลองเลยจะเป็นเรื่องคาใจ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้สุขเอากิน และผ่านการศึกษามาแล้ว ทางฝ่ายนิติบัญญัติ และนักวิชาการ และเชื่อว่าจะฟื้นเศรษฐกิจได้ เพราะในเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้มีกาสิโน แต่ยังมีโรงแรมและศูนย์กีฬา

เมื่อถามว่า แม้ สส.จะตีกัน แต่ สว. ไม่เห็นด้วย และเตรียมตั้งกรรมาธิการคัดค้าน รวมถึง สว. ชุดเก่าไม่เห็นด้วย เป็นอุปสรรคในการผลักดันหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า ไปแลกเปลี่ยนความรู้ความเห็น วันนี้หลายส่วนอาจเข้าใจว่ายังไม่ได้ลงรายละเอียด หากดูแล้วก็อาจจะเปลี่ยนใจได้

เมื่อถามว่า สว. ถูกมองว่าเป็นตัวแทนกลุ่มเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล จะกลายเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่าไม่เป็นหรอก ในที่สุดแล้วเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน สว. ต้องพิสูจน์ตัวเองยืนอยู่บนจุดยืนของตัวเอง จะทำเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ตอนนี้บริบทและบทเรียนหลายอย่างเกิดขึ้นกับ สว. เชื่อว่า สว. จะต้องคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ

ส่วนนางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ กล่าวถึงความจำเป็นในการพิจารณาร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังมีประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงมาก ดังนั้นพิจารณาในวาระที่ 1 เพื่อการตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณา ในช่วงปิดสมัยประชุมจึงเป็นเรื่องจำเป็น เชื่อว่าจะทำให้กรรมาธิการพิจารณาอย่างรอบคอบ และชี้ว่าในการพิจารณาเรื่องนี้จะต้องมีตัวแทน สส. ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และตัวแทนภาคประชาชนมาร่วมพิจารณา เพื่อให้ผลการศึกษานำไปสู่ข้อสรุปที่ชัดเจน .413.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]