“ปชน.” ตั้ง 6 ทีมภารกิจย่อยติดตามตรวจสอบแผ่นดินไหว

อาคารอนาคตใหม่ 1 เม.ย.- “พรรคประชาชน” ตั้ง 6 ทีมภารกิจย่อยติดตาม-ตรวจสอบเหตุแผ่นดินไหว สร้างความเชื่อมั่นผู้ประสบภัย “เท้ง” มองรัฐบาลเปิดให้ตรวจสอบเหตุอาคาร สตง. ถล่ม เป็นก้าวแรกที่ดี ควรต้องตอบสนองเร็ว-โปร่งใส วางตัว “สุรเชษฐ์” สอบละเอียด ตั้งแต่ TOR ถึงการก่อสร้าง ขณะ “สิทธิพล” ลุยสางทุนจีนเอาเปรียบผู้ประกอบการ


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในกรณีเหตุแผ่นดินไหว โดยระบุว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อทุกความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวในครั้งนี้ รวมถึงส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน และครอบครัวญาติพี่น้องทุกคนที่กำลังติดตามฟังข่าวอย่างใกล้ชิดในเรื่องการกู้ชีพและค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มที่เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ภารกิจหนึ่งเดียวของพรรคประชาชนในช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติ 2-3 วันมานี้ เป็นไปเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วย ให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด


นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทันทีที่ทราบเหตุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากตนเองจะได้ลงพื้นที่ไปยังจุดที่อาคาร สตง. ถล่มแล้ว ยังได้สั่งการไปยังเครือข่ายทีมงานจังหวัดของพรรคประชาชนทั่วประเทศ รวมถึง สส. ในเขตต่างๆ หลายจังหวัด ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อนำมาประสานงานต่อและให้ความช่วยเหลือ นำมาสู่การเปิดเว็บไซต์ earthquake.peoplesparty.or.th เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 มีนาคม) เพื่อแสดงผลให้เห็นว่ามีประชาชนในพื้นที่ใดบ้างได้รับผลกระทบในขณะนี้

นายณัฐพงษ์ระบุว่า เราเร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ที่จะเข้าพักอาศัยในอาคารสูงต่อไปได้ ตนเองได้ลงพื้นที่ไปกับ สส. และสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เพื่อเข้าตรวจอาคารเบื้องต้น ซึ่งไม่ใช่การตรวจแบบทางการที่ผู้ตรวจต้องได้รับอนุญาตจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ภารกิจนี้ทำไปเพื่อช่วยเติมเต็มพื้นที่ในปริมณฑล เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เพื่อให้ประชาชนอย่างน้อยมีความเชื่อมั่นว่าอาคารมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือต้องทำงานอย่างเป็นระบบ โดย นายวิโรจน์ ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าคณะช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมในภาคเหนือมาแล้ว ครั้งนี้ได้รับมอบหมายจากตนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ในการเตรียมคณะทำงานแล้วบางส่วน ทั้งเรื่องการเยียวยาเฉพาะหน้า เช่น เตรียมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และมาตรการระยะยาวได้เตรียมข้อมูลมาสื่อสารให้เกิดความชัดเจน ว่าพรรคประชาชนในฐานะตัวแทนประชาชนในเหตุวิกฤตขณะนี้ เราตั้งใจทำงานเพื่อสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนโดยเร็วที่สุด


จากนั้น นายวิโรจน์ ได้แถลงรายละเอียดของคณะทำงานภารกิจย่อยทุกชุด โดยภารกิจตรวจสอบอาคาร มอบหมาย พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ติดตามความคืบหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ อาคารที่เป็นที่ชุมนุมคน อาคารอยู่อาศัยรวม โรงแรม โรงงาน สถานบริการ ป้าย บิลบอร์ดต่างๆ จำเป็นต้องให้วิศวกรเจ้าของโครงการ ตรวจรับอย่างเป็นทางการอีกครั้ง การตรวจอาคารเหล่านี้จำเป็นต้องเร่งรัดและจัดลำดับความสำคัญอย่างถูกต้อง และได้แบ่งหัวหน้าคณะทำงานภารกิจย่อย 6 ภารกิจ แบ่งเป็น

  1. ภารกิจช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้เข้าถึงการเยียวยาจากภาครัฐ ตามมาตรา 30 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ตลอดจนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในกรณีเหตุแผ่นดินไหว พรรคได้มอบหมายให้ นายศุภณัฐ มีนชัยอนันต์ สส.กทม. พรรคประชาชน รับผิดชอบ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เริ่มคลี่คลาย และหลังภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยอาคาร สตง. ถล่มผ่านพ้นไปแล้ว นายศุภณัฐ จะประสานกับกับ กทม. ถึงหลักเกณฑ์แบบฟอร์มในการเข้ารับการเยียวยา ให้ผู้รับผลกระทบที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็วที่สุด และยังต้องเร่งประสานกับ คปภ. ให้ประชาชนได้รับการชดเชยจากบริษัทประกันภัยอย่างเป็นธรรม
  2. กรณีพบว่าไซต์ก่อสร้างอาคาร สตง. มีการจ้างงานในรูปแบบเหมาช่วงเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีการสำรวจโดยละเอียดว่า มีคนงานในพื้นที่จริงกี่คน สูญหายกี่คน ซึ่งพรรคพบเพิ่มเติมว่า มีลูกจ้างจำนวนไม่น้อยที่นายจ้างไม่ได้ลงทะเบียนในระบบประกันสังคม ต้องดูว่ารัฐบาลจะเยียวยาได้หรือไม่ ซึ่งมอบหมายให้ นายเซีย จำปาทอง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ดูแลในภารกิจนี้
  3. ภารกิจการตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม พรรคมอบหมายให้ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบประเด็นข้อสงสัยต่างๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่ TOR การประมูลจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารสัญญา การออกแบบอาคาร การควบคุมการก่อสร้าง และการใช้วัสดุต่างๆ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรัดกุมรอบคอบ ต้องไม่ด่วนสรุปหรือทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เนื่องจากอาจทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ในการเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยได้
  4. การตรวจสอบทุนต่างชาติเข้ามากินรวบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าวไทย พรรคได้มอบหมายให้ นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.แบบบัญชีรายชือ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามตรวจสอบว่ามีการใช้นอมินีคนไทยมาถือหุ้นแทนบริษัทจีนหรือบริษัทต่างชาติใดหรือไม่ และเข้ามาทำธุรกิจที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการชาวไทยหรือไม่
  5. กรณี Cell Broadcast พรรคมอบหมาย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ติดตามให้มั่นใจว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีระบบ Cell Broadcast เพื่อแจ้งเตือนสาธารณภัยได้อย่างทันท่วงที แต่ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดการ ต้องติดตามว่ารัฐบาลจะใช้ระบบหรือช่องทางใดในการเตือนภัยพิบัติไปพลางก่อน

และ ภารกิจสุดท้ายซึ่งสำคัญที่สุด แผนการรับมือกับภัยพิบัติระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องบูรณาการทั้งระบบราชการและระบบงบประมาณ ให้ประชาชนมั่นใจต่อการรับมือภัยพิบัติ ซึ่ง นายณัฐพงษ์ กล่าวสรุปว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนจะเกิดขึ้นได้ ต้องดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและชัดเจนมากเพียงพอ การตั้งระบบบริหารจัดการภัยพิบัติรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง เพื่อให้รัฐบาลเห็นในภาพรวม พร้อมขอชื่นชมการทำงานหลายภาคส่วนทั้งรัฐบาลและ กทม. ในการบริหารจัดการสถานการณ์ เช่น ระบบ Traffy Fondue ที่มองว่ามีความพร้อม และรัฐบาลสามารถนำมาปรับใช้ได้ในทุกจังหวัด เพราะในบางจังหวัดมีหลายช่องทางร้องเรียน อาจทำให้ประชาชนสับสน จึงคิดว่า Traffy Fondue เป็นตัวอย่างที่ดีของ กทม. ที่รัฐบาลสามารถนำไปปรับใช้ในจังหวัดอื่นๆ ได้ทันที

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอในระยะยาว เหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้น ต้องยอมรับว่ายังมีอาคารอีกหลายแห่งที่สร้างก่อนกฎกระทรวง พ.ศ. 2550 ว่าด้วยการก่อสร้างอาคารเพื่อรองรับผลสะเทือนจากแผ่นดินไหว อย่างน้อยการวางแผนในระยะยาวหากมีแผ่นดินไหวครั้งต่อไป รัฐบาลจะมีตัวเลขที่ชัดเจนแถลงให้ประชาชนรับทราบว่าอาคารใดบ้างจำเป็นต้องมีการเสริมความแข็งแรงตามหลักวิศวกรรมให้พร้อมรองรับเหตุแผ่นดินไหวที่อาจจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ เรื่องระบบ Cell Broadcast นายกรัฐมนตรีให้ความชัดเจนแล้วว่าจะพร้อมใช้ในช่วงเดือนกรกฎาคม ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนในการติดตั้งระบบ และเราจะทำหน้าที่ในฐานะพรรคการเมืองและ สส. ในการช่วยติดตามต่อไป ช่วงเวลา 3-4 นาทีก็มีความหมาย ในการช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติ

จากนั้น เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม เมื่อถามว่ามีกรอบระยะเวลาในการทำงานหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตราบใดที่ยังมีความเดือดร้อนอยู่ ผู้ที่ได้รับผลกระทบยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ คณะทำงานชุดนี้ก็จะทำงานต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการตรวจสอบ ส่วนรูปแบบที่จะเสนอไปยังรัฐบาล คิดว่าคงใช้หลายๆกลไกเช่นกลไกในกรรมาธิการ ที่สามารถทำรายงานส่งข้อเสนอแนะและข้อสังเกตไปยังรัฐบาลได้รวมถึงการแถลงข่าวซึ่งจะใช้ทุกช่องทางที่มีอยู่

เมื่อถามว่าขณะนี้ประชาชนยังวิตกกังวลอยู่ รัฐบาลควรมีการรวมศูนย์ข้อมูลเพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่น ทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ อย่างน้อยการออกมาสื่อสารให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน ว่ารัฐบาลดูแลอยู่และมีช่องทางใดให้ประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือ ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

นอกจากระบบการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์การจัดการที่มีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องความโปร่งใส ต้องยอมรับตามข้อเท็จจริงว่าขณะนี้ มีข้อสงสัยจากหลายภาคส่วนในสังคม ต่อเหตุการณ์ที่ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ถล่ม ตนเองคิดว่า ในส่วนที่มีการเปิดให้เข้าตรวจสอบต่าง ๆ ถือเป็นก้าวแรกที่ดีแต่ขั้นตอนต่อจากนี้จนถึงได้ข้อสรุป ว่าเหตุที่ตึกถล่มเกิดจาก แบบที่ไม่รองรับไม่ดี หรือเกิดจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานกระบวนการทั้งหมดต้องมีความโปร่งใสสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้

ส่วนจำเป็นหรือไม่ที่ดีเอสไอต้องรับเป็นคดีพิเศษนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะ จากการตรวจสอบของคุณภาพเหล็ก พบว่ามีบางส่วนที่อาจไม่ได้มาตรฐาน แต่ส่วนใหญ่ก็อาจผ่านเกณฑ์อยู่ เพราะฉะนั้นตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าเกิดจากแบบการก่อสร้าง หรือว่าเกิดจากที่วัสดุไม่ดีหรือการควบคุมการก่อสร้างไม่ดี จึงคิดว่าควรรอให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน ถึงจะตอบได้ว่าควรดำเนินการต่อไปอย่างไร

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการล็อบบี้ว่าให้ตรวจสอบตึกสตงอย่างโปร่งใสมองอย่างไรนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า สิ่งสำคัญในช่วงเหตุวิกฤตคือการสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน นอกจากการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก็คือเรื่องของความโปร่งใสด้วย ถ้ากระบวนการตรวจสอบ หากรัฐบาลดำเนินการโปร่งใสไม่มากเพียงพออาจทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นได้ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้เป็นต้นไป เพื่อทำให้ประชาชนทุกคนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐมากขึ้น และคลายข้อกังวลใจต่อเหตุภัยพิบัติมากขึ้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐควรดำเนินการ ด้วยความโปร่งใสอย่างตรงไปตรงมา.-312- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]