“อนุทิน” ตรวจตึกถล่ม ยันไม่เปลี่ยนแผนค้นหา เน้นย้ำปลอดภัย

30 มี.ค.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ยันไม่เปลี่ยนแผนการค้นหาผู้ติดอยู่ใต้ซาก ย้ำหน้างานมีทีมวิศวกรคอยประเมินสถานการณ์ตลอด เพื่อความปลอดภัย


นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายกรัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย ลงพื้นที่เหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมานั้น

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างของผู้เสียชีวิตพบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งด้านในมีทีมแพทย์ได้ปรึกษากับทีมแพทย์อยู่ตลอด ว่าหากขาดน้ำขาดอาหารจะอยู่ได้อีกกี่ชั่วโมง เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรทั้งหมดลุยเข้าไปอย่างเต็มที่ได้เพราะมีความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิตอยู่ ซึ่งคนที่ยังไม่สามารถออกมาได้ส่วนใหญ่จะถูกอะไรทับเอาไว้อยู่ หากไม่สามารถขยับตัวได้ก็จะลำบาก แต่เราจะพยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่จะมีทีมวิศวกรคอยประเมินว่าจะเจาะเข้าไปบริเวณจุดใดจะต้องตั้งโครงสร้างทำให้ผู้ที่เข้าไปช่วยชีวิตมีความปลอดภัยด้วย ขณะนี้ได้อุปกรณ์เครื่องมือเครน ขนาด 500 ถึง 600 ตัน เข้ามาช่วย ซึ่งจะเริ่มยกคานหนักที่อยู่ด้านบนออก เพื่อให้น้ำหนักที่กดอยู่บริเวณด้านบนผ่อนคลายขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะถล่มลงมา เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปช่วยได้ดีขึ้น แต่การจะหยิบส่วนไหนออกมาจะต้องดูไม่ให้เสียบาลานซ์


นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ทีมกู้ภัยหลายประเทศเข้ามาช่วยสนับสนุน ส่วนใหญ่จะส่งผู้เชี่ยวชาญกู้ชีวิตกู้ภัยเข้ามา และมีอาสาสมัคร รวมถึงเจ้าของบริษัทรถเครนและส่งรถที่มีน้ำหนักมากที่สุดเข้ามาช่วย ส่วนการตรวจสัญญาณชีพเนื่องจากเวลาผ่านมาสักระยะทำให้สัญญาณอ่อน อาจไม่มีแรงขยับตัว แต่จะต้องหาวิธีการเพื่อให้เข้าถึงผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุด ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนแผนแต่เพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อเคลียร์ ให้ได้มากที่สุด อยากให้ความมั่นใจว่ามีวิศวกรที่คอยประเมินคอยคำนวณสถานการณ์ตลอดเวลา และมีนายกสภาวิศวกรมาอยู่ที่หน้างานตลอดเวลาซึ่งสามารถให้คำแนะนำที่ดี ส่วนเรื่องของการทำงานหากมีฝนคาดว่าจะไม่เป็นอุปสรรค อาจจะทำไม่สะดวกขึ้น ส่วนผู้รับเหมาจะต้องให้ความร่วมมือหากปกปิดข้อมูลจะเพิ่มความเสี่ยงต่างๆ ไม่เป็นผลดีกับตัวเอง เชื่อว่าคงจะไม่ทำ ทุกคนมีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจอยู่

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้การช่วยชีวิตไม่มีเวลาแล้ว เราทำทุกอย่าง ผ่านการกู้ภัยมาในหลายเหตุการณ์ เช่น เดือนกันยายน กลุ่มกู้ภัยก็ไปช่วยอุโมงค์ถล่มที่โครงการของรถไฟ ขณะนี้ผู้สูญหายที่ยังไม่พบมีประมาณ 50 คน ครั้งนี้ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญทุกฝ่ายระดมกำลังเข้ามาช่วยเหลือ

นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาให้ตรวจสอบภายใน 7 วันประกอบด้วย วิศวกรใหญ่ กรมโยธาธิการเป็นประธาน ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านวิศวกรรม คณบดี นักวิชาการ ส่วนกรณีที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ในวันนี้ก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ทั้งนี้ไม่ได้ดูเฉพาะแบบก่อสร้างเท่านั้น จะดูไปถึงวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างว่าใช้วัสดุได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งทางสมอ.ได้มาตัดเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนไปพิสูจน์ว่าได้มาตรฐานหรือไม่


นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าหากเหมาะสมอาคารคงจะไม่ถล่มแสดงว่าอาจจะมีปัญหาอยู่ เพราะกรุงเทพมหานครมีตึกอยู่จำนวนมากบางตึกมีอายุ 30 ถึง 50 ปี ความสูงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาคารแห่งนี้ ฉะนั้นต้องดูว่าจริงๆ แล้วประเทศไทยมีมาตรฐานในการก่อสร้างอาคารสูงไม่อย่างนั้นจะอยู่ไม่ได้แบบนี้ อย่าพึ่งเอาตัวอย่างของอาคารที่ถล่มมาสรุปว่าการควบคุมงานก่อสร้างของเราไม่มีมาตรฐาน เพราะอาคารส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานครสามารถที่จะคงอยู่ได้และความเสียหายน้อยมาก หากมองในมุมวิศวกรทุกคนเชื่อว่าต้องมีอะไรผิดพลาด ไม่แบบก็การก่อสร้าง

เมื่อถามว่าจะมีการคอร์รัปชันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องคอร์รัปชันจะดูจากอะไร การออกแบบจะต้องถูกรับรองโดยวิศวกร วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง แต่เชื่อว่าการประมูลงาน โดยเฉพาะอาคารแห่งนี้ ซึ่งเป็นอาคารของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใสอย่างแน่นอน เท่าที่ทราบสัญญาได้ถูกต่อมาจากสถานการณ์โควิดกว่า 800 วัน โดยสัญญาจะครบในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ เราดูสภาพตึกก่อนถล่มลงมาแล้วทราบว่างานไม่เสร็จแน่นอน ซึ่งได้พูดคุยกับทางผู้ว่าฯ สตง. โดยทางผู้ว่าฯกำลังประเมินว่าจะต้องยกเลิกสัญญาหรือไม่ เพราะอาคารสร้างไม่เสร็จในเดือนสิงหาคม

นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ให้กรมโยธาธิการออกข้อกำหนดให้เจ้าของอาคารสูง โรงแรม นิติบุคคลอาคารชุดต่างๆ ให้สำรวจอาคารอีกครั้งโดยไม่ต้องรอวงรอบ โดยให้วิศวกรผู้ควบคุมอาคารเข้าไปตรวจสอบ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย