นายกฯ นัดพรรคร่วมรัฐบาลแสดงพลังเอกภาพก่อนโหวต

รัฐสภา 26 มี.ค.- นายกฯ นัดพรรคร่วมรัฐบาลแสดงพลังเอกภาพก่อนลงมติโหวต ขอบคุณทุกคนสนับสนุนเต็มที่ ลั่นจะเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งจับมือกันจนจบสมัยแน่นอน ด้านหัวหน้าพรรคร่วมประสานเสียง นายกฯ มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำ พร้อมกดไว้วางใจ ขณะที่ “เดชอิศม์” ออกตัว ปชป. 21 เสียงหนุน “แพทองธาร” ยันไม่มีโหวตสวนไม่ไว้วางใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในเวลา 10:00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุม สส. และบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่ห้องประชุม สส. พรรคเพื่อไทยในเวลา 09:00 น.

ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงสภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 09:09 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โบกมือทักทายสื่อมวลชน และบอกว่าสดชื่น สดชื่นดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าเห็นว่าจะมีงูเห่ามาโหวตให้ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า ไม่น่ามีนะ


จากนั้นนายกรัฐมนตรี เข้าห้องประชุมพรรคเพื่อไทย โดยมีอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยืนรอต้อนรับอยู่ที่หน้าห้องพรรคเพื่อไทย ทำให้นายกฯเดินเข้าไปทักทาย พร้อมแซวนายไชยชนก บอกว่าเห็นแล้วในการประชุมวันแรก แอบส่งสายตาให้ไกลๆ

จากนั้นได้เข้าห้องประชุม ซึ่งมีหัวหน้าเลขาธิการพรรค และตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลรออยู่ในห้องประชุม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ได้รับคำแนะนำจากหลายคน 2 วันที่ผ่านมาเข้าใจว่าหลายคนอดหลับอดนอน ทำหน้าที่ของตนเองอย่างหนัก ต้องขอบคุณทุกคน ทั้งสส.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชี้แจงหรือการควบคุมให้อยู่ในประเด็นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยของสภา และการอภิปรายครั้งนี้ตนพูดจากใจได้เลยว่าต้องขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างมากทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงใดทุกคนก็ขึ้นมาชี้แจงและตอบเอง ขณะเดียวกันก็มีในส่วนของหน่วยงานราชการมาช่วยชี้แจงในรายละเอียด โดยไม่ต้องขอร้องอะไรใดๆทั้งสิ้น แต่ก็ได้มีการสื่อสารไปว่า ชี้แจงถ้าต้องการข้อมูลใดๆขอให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยชี้แจง ซึ่งทุกคนก็ทำแบบนั้นจริงๆจึงต้องขอบคุณทุกคนมากเพราะชี้แจงในสิ่งสำคัญทำให้ประชาชนเข้าใจ


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ต้องฝากหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไป ว่าสส. ในพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนอาจจะยังไม่ได้ใกล้ชิดกัน ไม่ค่อยได้รู้จักกันมาก แต่ตอนนี้มีความตั้งใจที่อยากจะรู้จักและคุยกับทุกคน อาจจะมีการพูดนัดพูดคุยกันทีละพรรคแยกไป เพราะส่วนใหญ่ก็ได้เจอแต่สส.พรรคเพื่อไทย

ขณะเดียวกันต้องขอบคุณ สส.พรรคเพื่อไทยที่ให้ให้กำลังใจไม่ว่าจะเป็นสายตาที่ส่งให้หรือเป็นข้อความ หรือเป็นคำแนะนำต่างๆ รู้สึกถึงความอบอุ่นมากๆ เราทำงานร่วมกันมารู้สึกว่าครั้งนี้ทุกคนช่วยกันจริงๆ เมื่อคืนได้มีโอกาสย้อนกลับไปดูการอภิปราย เพราะไปถึงบ้านก็ยังนอนไม่หลับ อยากรู้สึกว่าวันนี้เราจะต้องทำอะไรต่อ มีความไม่ค่อยแน่ใจจึงได้ไปดูคลิปที่รัฐมนตรีหลายคนลุกขึ้นชี้แจง ก็คิดว่าประเด็นทุกอย่างที่อภิปรายไปครบแล้ว และตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลของเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชนได้จริงๆ เป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรค แต่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทยและพี่น้องคนไทยจริงๆ การร่วมมือที่ผ่านมาตนพูดเลยว่าเป็นธรรมดามากที่มนุษย์จะคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้วแต่ทุกคนสามารถเข้าใจและตกลงกันได้ในที่สุดนี่คือสิ่งสำคัญตนจึงต้องขอขอบคุณมากๆที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีการตัดสินใจมีการเปิดใจซึ่งเป็นเรื่องที่น่านับถือและทำให้ตนทำงานได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นพวกพรรคเราจึงพร้อมใจกันเพื่อให้รัฐบาลของเราทำให้คนไทยมีกินมีใช้จริงๆ แล้วตอนนี้เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ตนเป็นอย่างยิ่งว่าจะดีขึ้นต่อไปจากนี้ทุกๆเดือนทุกๆปีที่รัฐบาลของเราทำงานเพื่อประชาชน

สำหรับการอภิปรายที่ผ่านมา ขอบคุณทุกพรรคทุกคนอีกครั้ง ตนก็จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ความเดือดร้อนของประชาชนมีตรงไหนอย่างไรขอให้ได้พูดคุยกันเราจะช่วยกันทั้งหมดเพราะเป็นทีมของเราทีมรัฐบาลของเราก็จะเข้มแข็งแบบนี้จนจบสมัยแน่นอน

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขอพูดจากใจ เพราะถ้าพูดโดยหน้าที่ ก็ต้องบอกว่าทุกอย่างดีมาก ดีหมด ท่านนายกรัฐมนตรีเก่งมาก และถ้าพูดจากใจก็คือ ท่านนายกรัฐมนตรีเก่งมาก ทำให้ที่ประชุมมีเสียงหัวเราะชอบใจ และปรบมือ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ยกมือไหว้ขอบคุณนายอนุทิน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีมีวุฒิภาวะ มีการพัฒนาความเป็นผู้นำมากขึ้นทุกวัน จากการทำงานร่วมกันก็ได้เห็นวุฒิภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรี ทำให้ทำการทำงานของตนเอง และรัฐมนตรีในพรรคภูมิใจไทยเป็นไปด้วยความสะดวก สามารถพูดคุย หารือ และหาข้อยุติ ข้อสรุปได้ พวกเราพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลมีความมั่นใจในการนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยได้ประชุมสมาชิกพรรคทั้งหมด 69 คน สส. ทุกคนยืนยันว่า จะให้ความไว้วางใจให้กับนายกรัฐมนตรี แม้การลงมติจะมีเอกสิทธิ์ แต่ก็ให้ความมั่นใจต่อนายกรัฐมนตรี ว่าจะกดไว้วางใจอย่างพร้อมเพรียงกันทุกคน

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ได้ทำงานร่วมกันมา ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องมาถึงมารัฐบาลนี้ ได้รับการสนับสนุนตลอดมา ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น รวดเร็วหลายเรื่อง จึงขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 ท่าน และพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรค ที่ให้การสนับสนุนการทำงาน และเช่นเดียวกับนายอนุทิน ที่มองเห็นภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่มทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตัดสินใจ การสร้างความร่วมมือปรองดองในพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อมั่นว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของนางสาวแพรทองธาร จะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัญหาบ้านเมืองต่าง ๆ จะได้รับการแก้ไขในทุกด้าน

นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คำว่าทีมไม่มีปัจเจกบุคคล และจากที่พวกเราได้ทำงานร่วมกันมาหกเดือนภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร รัฐนาวาลำนี้เชื่อว่าทุกคนคงเห็นแล้วว่าใครจะเก่งแค่ไหนก็แล้วแต่ จะเป็นรัฐมนตรีหรือใครก็แล้วแต่ ถ้าหัวไม่รอดเรือก็ไม่รอด และในทางกลับกัน ถ้าใครจะมีข้อบกพร่องบ้าง มีอะไรที่ไม่สมบูรณ์บ้าง แต่ถ้านายใหญ่รอด นายกฯรอดพวกเราก็รอด ดังนั้นจึงอยากให้ความมั่นใจต่อนายกรัฐมนตรีว่าพวกเราต้องทำทุกอย่างให้รอดได้ ก่อนที่จะย้ำว่าถ้านายกฯไม่รอดพวกก็คงไม่มีใครรอด ฉะนั้นพวกเราพรรคร่วมรัฐบาลเราต้องทำให้นายกฯรอด เราก็จะได้รอด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับหัวเราะและยกมือไหว้ขอบคุณ

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ถือเป็นหนึ่งกระทรวงที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งรัฐบาลทำงานมายังไม่ถึงปี ก็ถูกอภิปราย ซึ่งคิดว่าคำอภิปรายส่วนใหญ่เป็นเรื่องในอดีต จึงเก็บเรื่องราวในอดีตที่พรรคฝ่ายค้านยังค้างคาใจมาตอบชี้แจง และในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ขอขอบคุณ และให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในหลายเรื่อง และอยากเข้าไปตอบ แต่เวลาของรัฐบาลมีน้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด ทำให้ทุกคนมีขวัญกำลังใจ และที่สำคัญ ขอทุกคนอย่ากดลงมติผิด อย่างที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยพูดว่า ไม่เช่นนั้นชีวิตจะเปลี่ยน ทำให้นายกรัฐมนตรีได้หัวเราะ และ สส. ที่อยู่ในห้องประชุมต่างพากันหัวเราะ พร้อมย้ำว่า ทุกพรรคมีความพร้อม และวันนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีการโหวตสวนมติพรรคแม้แต่คนเดียวแน่นอน ส่วนคะแนนที่สนับสนุนได้พูดคุยกับเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่า ขอนับ 21 คนไว้ก่อน เพราะเป็นเอกสิทธิ์ แต่รับรองว่า ไม่มีที่ไม่สนับสนุน

นายไผ่ ลิกค์ ในฐานะเลขาธิการกล้าธรรม กล่าวว่า ตลอดเวลาในการฟังอภิปรายเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำจริง ๆ และเห็นด้วยว่าฝ่ายค้านพูดมาส่วนใหญ่เป็นวาทกรรม เนื่องจากการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะทำได้แค่ 6 เดือน และตลอดเวลาที่นำความเดือดร้อนของประชาชนมาเสนอให้กับนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับการตอบรับ และให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมให้ความมั่นใจว่า พรรคกล้าธรรมจะลงมติไว้วางใจทุกคน

จากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลได้ถ่ายภาพร่วมกัน เพื่อแสดงถึงความเป็นปึกแผ่น พร้อมส่งเสียงตะโกน ว่า “ไชโย” .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

เหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 5 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ อีสานตอนบน และภาคตะวันออก ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ดานัส”แล้ว คาดว่า […]

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร […]

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

กองทัพบก 4 ก.ค.-ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร หลังลาดตระเวนพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปทหารพรานของไทยปะทะคารมกับทหารกัมพูชา ที่กำลังพยายามรุกลํ้าเข้ามาในดินแดนไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีอาวุธปืนครบมือนั้น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ทำการลาดตระเวนพื้นที่ ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดน ใกล้บริเวณปราสาทโดนตวล และเขาพระวิหาร และบริเวณเส้นทางลาดตระเวนใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยมีการลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าทักทายเจรจากัน และแยกย้ายกันไป ไม่มีเหตุความรุนแรงใด พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลายจุดพบกำลังทหารกัมพูชามาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยขึ้น และบางครั้งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหน่วยของกัมพูชาร่วมลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อมาพบเจอกับฝ่ายทหารไทยก็จะมีพูดทักทายกัน และบางครั้งก็อาจจะมีแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเหมือนถกเถียงกันบ้าง แต่ทั้งหมดไม่ถึงขั้นตั้งใจจะใช้ความรุนแรงต่อกัน เพราะต่างฝ่ายต่างระมัดระวังไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง และต้องยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี ตามแนวทางผู้บังคับบัญชา.-313.-สำนักข่าวไทย

นักธรณีวิทยา​ย้ำไม่มีสัญญาณ​สึนามิ​เข้าไทย​ ไม่ต้องตระหนก

กรุงเทพฯ​ 4 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญทางธรณีวิทยา ย้ำขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณทางวิทยาศาสตร์​บ่งชี้ว่า​จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ประเทศไทย​ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วง​ 1-2​ สัปดาห์ที่ผ่านมา บริเวณใกล้หมู่เกาะนิโคบาร์และสุมาตรา เป็นการเลื่อนตัวในแนวราบ ไม่ใช่แนวดิ่ง จึงไม่เข้าลักษณะที่จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิได้ ขณะเดียวกัน จากการติดตามข้อมูลยังไม่พบสัญญาณทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า​ จะมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเกิดคลื่นสึนามิ ศ.ดร.สันติ กล่าว​ว่า​ ก่อนหน้านี้​เรารู้​จักแนวมุดตัวของเปลือก​โลก​บริเวณ​หมู่เกาะ​นิโคบาร์​-สุมาตรา ที่หากมีการเคลื่อนตัวจะมีโอกาส​เกิดสึนามิ​ แต่ล่าสุด​พบ​ว่า​ มีแนวภูเขาไฟ​ใต้น้ำ​บริเวณ​หมู่เกาะ​สุมาตรา​ที่​ไม่เคยปะทุมาก่อนและบอกไม่ได้​ว่าจะปะทุ​เมื่อ​ใด ซึ่งนักธรณีวิทยา​และหน่วยงาน​ด้านภัยพิบัติ​จะต้องติดตาม​อย่างต่อเนื่อง​ต่อไป​ ทั้งนี้ แม้ในอดีตจะเคยเกิดสึนามิจากรอยเลื่อนสุมาตราที่เกิดการมุดตัวของเปลือกโลก​ แต่ย้ำว่า​ เหตุการณ์ปัจจุบันไม่มีตัวชี้วัดในลักษณะเดียวกัน จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวลเกินควร อย่างไรก็ตาม การตื่นรู้ต่อภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น แอปพลิเคชันกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลจากภาครัฐ และระบบแจ้งเตือนภัยในท้องถิ่นเช่น Cell Broadcast​ ที่​ภาครัฐ​เร่งดำเนินการ​สำหรับ​แจ้ง​เตือน​ภัยพิบัติ​ต่าง​ ๆ ให้​ครอบคลุม​ทั่วประเทศ​ ทั้งนี้ ​การเตรียมความพร้อมคือเรื่องสำคัญ รัฐเองก็พยายามส่งสัญญาณให้ถึงประชาชนโดยเร็ว […]