“เท้ง” ยอมรับคุมเสียงฝ่ายค้านไม่ได้ มั่นใจเฉพาะ “ปชน.”

รัฐสภา 26 มี.ค.- “เท้ง” ยอมรับคุมเสียงฝ่ายค้านไม่ได้ ไม่มีกลไกลบังคับ มั่นใจเฉพาะเสียงของพรรคประชาชน ส่วนคำชี้แจง “นายกฯ-รัฐบาล” รอดูปฏิบัติการเอาคืนจาก “ทักษิณ” ไม่รู้สึกกังวลอะไร เตรียมเดินหน้าตรวจสอบต่อปม “เลี่ยงภาษี-โรงแรมเขาใหญ่”


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการลงมติ ว่า ไม่ได้กำชับสมาชิกพรรคอะไรเป็นพิเศษ มั่นใจในเพื่อนร่วมงานทุกคนว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน คือโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค ที่จะต้องไปทำความเข้าใจและกำกับเสียงในพรรคของตัวเอง ซึ่งการอภิปรายตลอดสองวันก็มีทั้งส่วนที่พอใจและไม่พอใจ พอใจในการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค และทุกๆคนที่อาจจะยังไม่พอใจคือคำตอบชี้แจงของฝั่งรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายๆ ก่อนที่จะมีการปิดการอภิปรายเมื่อวานนี้ จะเห็นว่าฝ่ายค้าน ยังมีหลายข้อสงสัย และนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการแก้ข้อกล่าวหาของตัวเอง ในสภาอย่างเต็มที่

ส่วนที่มีข่าวว่าอาจมีเสียงของ พรรคร่วมฝ่ายค้านบางส่วนไปโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จนมั่นใจในเสียงของพรรคประชาชน ส่วนพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ เป็นหน้าที่กำกับดูแลของหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค จึงไม่สามารถก้าวก่ายพรรคร่วมอื่นๆได้ เพราะการทำงานของพรรคฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลอาจจะตรงข้ามกัน ในแง่ที่ว่าใครที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน คือไม่ได้อยู่ร่วมกับรัฐบาล การควบคุมเสียงของฝ่ายค้านก็คือเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค


เมื่อถามว่ายังมั่นใจหรือไม่ว่าเสียงของฝ่ายค้านจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าที่ผ่านมา ก็มีการพูดคุยกันเรื่องเนื้อหา กรอบ ญัตติ เวลา ทิศทางในการอภิปราย ก็มีการพูดคุยกันกว้างๆ ส่วนการโหวต ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนทราบอยู่แล้ว ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบ ยังไงก็ต้องโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อย่างที่บอกไม่มีกลไกที่จะไปกำกับเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงไม่สามารถที่จะชี้แจงได้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หลังการอภิปรายจะถูกเอาคืน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าต้องรอดูว่าจะเอาคืนอย่างไร เพราะเราทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา พร้อมที่จะตรวจสอบต่อไปในเรื่องความพยายามเลี่ยงเสียภาษี ซึ่งการตอบของนายกฯ ก็ชี้ชัดให้เห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่ควรจะจ่ายตั้งแต่แรก เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูล ก็เลยยังไม่ยอมจ่าย ดังนั้นในเรื่องนี้แม้อธิบดีกรมสรรพากรจะบอกว่าสามารถทำได้ อาจเป็นช่องว่างของกฎหมาย ซึ่งจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ส่วนคนที่เป็นนักการเมือง ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี และอีกประเด็นคือโรงแรมที่เขาใหญ่ ซึ่งเมื่อวานก่อนปิดอภิปรายตนก็ได้ตั้งคำถามเรื่องการขอใบอนุญาตและมีการโต้เถียงเรื่องของโฉนดที่ดิน และใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งฝ่ายค้านก็จะติดตามต่ออย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าในการที่มีการพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง กลัวหรือไม่ท่าทีของนายทักษิณหลังจากนี้จะมีการเอาคืน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าเรื่องของชั้น 14 คิดว่าการอภิปรายก็แสดงให้เห็นชัดว่านายกรัฐมนตรีเป็นพยานรู้เห็นตั้งแต่แรก รู้สถานะของคุณพ่อตั้งแต่แรก ประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นการที่นายรังสิมันต์ โรม นำแผนเปรียบเทียบ แผ่นการประเมินที่ระบุนายทักษิณได้ 9 คะแนน จึงอยากทราบสถานะเหตุผลที่นายทักษิณได้ 9 คะแนน นำมาเปิดให้ดู และมีการตั้งข้อสังเกตอยากรู้สถานะ ณ ตอนนั้นของนายทักษิณ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนเดียวที่สามารถตอบได้ว่าตกลงคุณพ่อป่วยเป็นโรคอะไรทำให้การประเมินต่ำขนาดนั้น และเห็นว่าในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา นายทักษิณก็สามารถออกมาสู่สาธารณะได้ แสดงบทบาทได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคตั้งคำถามมาโดยตลอด อยากให้นายกฯ ตอบให้ชัดๆ ว่าคุณพ่อเป็นโรคอะไรกันแน่ ที่ทำให้ได้รับสิทธิพิเศษ เหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ


เมื่อถามต่อว่ากลัวหรือไม่ ว่านายทักษิณจะตอบโต้อะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าไม่ได้มีความกังวลใดๆ ก็รอดูการตอบโต้ดีกว่า ว่าจะตอบโต้อะไร

นายณัฐพงษ์ ยังชี้แจงถึงจะอภิปรายที่พูดถึงดีลปีศาจ ว่าความหมายของคำว่าปีศาจ สำหรับประเทศนี้คือกลุ่มชนชั้นนำ ในสังคมที่เอารัดเอาเปรียบ ใช้อำนาจของตัวเองเพื่ออิงแอบกลุ่มทุน อิงแอบผลประโยชน์พวกพ้องของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

ส่วนที่มึการเปรียบเทียบการอภิปรายที่ผ่านมาระหว่างพรรคประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต ที่พรรคประชาธิปัตย์จะมีข้อมูลเชิงลึก ในการอภิปรายมากกว่า แต่การอภิปรายครั้งนี้เหมือนนำข่าวมาเล่า นายณัฐพงษ์ ระบุว่ามีเนื้อหาหลายๆ อย่างที่เป็นเนื้อหาใหม่ เช่น ปฏิบัติการไอโอ ที่โดนประท้วงทำให้นายชยพล สท้อนดี สส.ของพรรค ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างรอบด้าน ทั้งนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่กองทัพมองนักการเมืองทุกๆกลุ่ม เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่เฉพาะของพรรคประชาชนที่โดนข้อกล่าวหา อย่างนี้มาโดยตลอด ซึ่งเราก็ยืนยันมาตลอดว่าพวกเราไม่ใช่ แม้แต่ฝั่งรัฐบาลเองก็จัดอยู่ในกลุ่มภัยความมั่นคงเช่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่ในอดีตก็ไม่เคยเห็น และเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องอยากให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ แต่ยังไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]