“เท้ง” ยอมรับคุมเสียงฝ่ายค้านไม่ได้ มั่นใจเฉพาะ “ปชน.”

รัฐสภา 26 มี.ค.- “เท้ง” ยอมรับคุมเสียงฝ่ายค้านไม่ได้ ไม่มีกลไกลบังคับ มั่นใจเฉพาะเสียงของพรรคประชาชน ส่วนคำชี้แจง “นายกฯ-รัฐบาล” รอดูปฏิบัติการเอาคืนจาก “ทักษิณ” ไม่รู้สึกกังวลอะไร เตรียมเดินหน้าตรวจสอบต่อปม “เลี่ยงภาษี-โรงแรมเขาใหญ่”


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการลงมติ ว่า ไม่ได้กำชับสมาชิกพรรคอะไรเป็นพิเศษ มั่นใจในเพื่อนร่วมงานทุกคนว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน คือโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค ที่จะต้องไปทำความเข้าใจและกำกับเสียงในพรรคของตัวเอง ซึ่งการอภิปรายตลอดสองวันก็มีทั้งส่วนที่พอใจและไม่พอใจ พอใจในการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค และทุกๆคนที่อาจจะยังไม่พอใจคือคำตอบชี้แจงของฝั่งรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายๆ ก่อนที่จะมีการปิดการอภิปรายเมื่อวานนี้ จะเห็นว่าฝ่ายค้าน ยังมีหลายข้อสงสัย และนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการแก้ข้อกล่าวหาของตัวเอง ในสภาอย่างเต็มที่

ส่วนที่มีข่าวว่าอาจมีเสียงของ พรรคร่วมฝ่ายค้านบางส่วนไปโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จนมั่นใจในเสียงของพรรคประชาชน ส่วนพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ เป็นหน้าที่กำกับดูแลของหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค จึงไม่สามารถก้าวก่ายพรรคร่วมอื่นๆได้ เพราะการทำงานของพรรคฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลอาจจะตรงข้ามกัน ในแง่ที่ว่าใครที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน คือไม่ได้อยู่ร่วมกับรัฐบาล การควบคุมเสียงของฝ่ายค้านก็คือเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค


เมื่อถามว่ายังมั่นใจหรือไม่ว่าเสียงของฝ่ายค้านจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าที่ผ่านมา ก็มีการพูดคุยกันเรื่องเนื้อหา กรอบ ญัตติ เวลา ทิศทางในการอภิปราย ก็มีการพูดคุยกันกว้างๆ ส่วนการโหวต ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนทราบอยู่แล้ว ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบ ยังไงก็ต้องโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อย่างที่บอกไม่มีกลไกที่จะไปกำกับเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงไม่สามารถที่จะชี้แจงได้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หลังการอภิปรายจะถูกเอาคืน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าต้องรอดูว่าจะเอาคืนอย่างไร เพราะเราทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา พร้อมที่จะตรวจสอบต่อไปในเรื่องความพยายามเลี่ยงเสียภาษี ซึ่งการตอบของนายกฯ ก็ชี้ชัดให้เห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่ควรจะจ่ายตั้งแต่แรก เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูล ก็เลยยังไม่ยอมจ่าย ดังนั้นในเรื่องนี้แม้อธิบดีกรมสรรพากรจะบอกว่าสามารถทำได้ อาจเป็นช่องว่างของกฎหมาย ซึ่งจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ส่วนคนที่เป็นนักการเมือง ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี และอีกประเด็นคือโรงแรมที่เขาใหญ่ ซึ่งเมื่อวานก่อนปิดอภิปรายตนก็ได้ตั้งคำถามเรื่องการขอใบอนุญาตและมีการโต้เถียงเรื่องของโฉนดที่ดิน และใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งฝ่ายค้านก็จะติดตามต่ออย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าในการที่มีการพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง กลัวหรือไม่ท่าทีของนายทักษิณหลังจากนี้จะมีการเอาคืน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าเรื่องของชั้น 14 คิดว่าการอภิปรายก็แสดงให้เห็นชัดว่านายกรัฐมนตรีเป็นพยานรู้เห็นตั้งแต่แรก รู้สถานะของคุณพ่อตั้งแต่แรก ประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นการที่นายรังสิมันต์ โรม นำแผนเปรียบเทียบ แผ่นการประเมินที่ระบุนายทักษิณได้ 9 คะแนน จึงอยากทราบสถานะเหตุผลที่นายทักษิณได้ 9 คะแนน นำมาเปิดให้ดู และมีการตั้งข้อสังเกตอยากรู้สถานะ ณ ตอนนั้นของนายทักษิณ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนเดียวที่สามารถตอบได้ว่าตกลงคุณพ่อป่วยเป็นโรคอะไรทำให้การประเมินต่ำขนาดนั้น และเห็นว่าในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา นายทักษิณก็สามารถออกมาสู่สาธารณะได้ แสดงบทบาทได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคตั้งคำถามมาโดยตลอด อยากให้นายกฯ ตอบให้ชัดๆ ว่าคุณพ่อเป็นโรคอะไรกันแน่ ที่ทำให้ได้รับสิทธิพิเศษ เหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ


เมื่อถามต่อว่ากลัวหรือไม่ ว่านายทักษิณจะตอบโต้อะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าไม่ได้มีความกังวลใดๆ ก็รอดูการตอบโต้ดีกว่า ว่าจะตอบโต้อะไร

นายณัฐพงษ์ ยังชี้แจงถึงจะอภิปรายที่พูดถึงดีลปีศาจ ว่าความหมายของคำว่าปีศาจ สำหรับประเทศนี้คือกลุ่มชนชั้นนำ ในสังคมที่เอารัดเอาเปรียบ ใช้อำนาจของตัวเองเพื่ออิงแอบกลุ่มทุน อิงแอบผลประโยชน์พวกพ้องของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

ส่วนที่มึการเปรียบเทียบการอภิปรายที่ผ่านมาระหว่างพรรคประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต ที่พรรคประชาธิปัตย์จะมีข้อมูลเชิงลึก ในการอภิปรายมากกว่า แต่การอภิปรายครั้งนี้เหมือนนำข่าวมาเล่า นายณัฐพงษ์ ระบุว่ามีเนื้อหาหลายๆ อย่างที่เป็นเนื้อหาใหม่ เช่น ปฏิบัติการไอโอ ที่โดนประท้วงทำให้นายชยพล สท้อนดี สส.ของพรรค ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างรอบด้าน ทั้งนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่กองทัพมองนักการเมืองทุกๆกลุ่ม เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่เฉพาะของพรรคประชาชนที่โดนข้อกล่าวหา อย่างนี้มาโดยตลอด ซึ่งเราก็ยืนยันมาตลอดว่าพวกเราไม่ใช่ แม้แต่ฝั่งรัฐบาลเองก็จัดอยู่ในกลุ่มภัยความมั่นคงเช่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่ในอดีตก็ไม่เคยเห็น และเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องอยากให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ แต่ยังไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย