“เท้ง” ยอมรับคุมเสียงฝ่ายค้านไม่ได้ มั่นใจเฉพาะ “ปชน.”

รัฐสภา 26 มี.ค.- “เท้ง” ยอมรับคุมเสียงฝ่ายค้านไม่ได้ ไม่มีกลไกลบังคับ มั่นใจเฉพาะเสียงของพรรคประชาชน ส่วนคำชี้แจง “นายกฯ-รัฐบาล” รอดูปฏิบัติการเอาคืนจาก “ทักษิณ” ไม่รู้สึกกังวลอะไร เตรียมเดินหน้าตรวจสอบต่อปม “เลี่ยงภาษี-โรงแรมเขาใหญ่”


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการลงมติ ว่า ไม่ได้กำชับสมาชิกพรรคอะไรเป็นพิเศษ มั่นใจในเพื่อนร่วมงานทุกคนว่าจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน คือโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค ที่จะต้องไปทำความเข้าใจและกำกับเสียงในพรรคของตัวเอง ซึ่งการอภิปรายตลอดสองวันก็มีทั้งส่วนที่พอใจและไม่พอใจ พอใจในการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค และทุกๆคนที่อาจจะยังไม่พอใจคือคำตอบชี้แจงของฝั่งรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายๆ ก่อนที่จะมีการปิดการอภิปรายเมื่อวานนี้ จะเห็นว่าฝ่ายค้าน ยังมีหลายข้อสงสัย และนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการแก้ข้อกล่าวหาของตัวเอง ในสภาอย่างเต็มที่

ส่วนที่มีข่าวว่าอาจมีเสียงของ พรรคร่วมฝ่ายค้านบางส่วนไปโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จนมั่นใจในเสียงของพรรคประชาชน ส่วนพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ เป็นหน้าที่กำกับดูแลของหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค จึงไม่สามารถก้าวก่ายพรรคร่วมอื่นๆได้ เพราะการทำงานของพรรคฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลอาจจะตรงข้ามกัน ในแง่ที่ว่าใครที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน คือไม่ได้อยู่ร่วมกับรัฐบาล การควบคุมเสียงของฝ่ายค้านก็คือเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค


เมื่อถามว่ายังมั่นใจหรือไม่ว่าเสียงของฝ่ายค้านจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าที่ผ่านมา ก็มีการพูดคุยกันเรื่องเนื้อหา กรอบ ญัตติ เวลา ทิศทางในการอภิปราย ก็มีการพูดคุยกันกว้างๆ ส่วนการโหวต ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนทราบอยู่แล้ว ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบ ยังไงก็ต้องโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อย่างที่บอกไม่มีกลไกที่จะไปกำกับเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงไม่สามารถที่จะชี้แจงได้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หลังการอภิปรายจะถูกเอาคืน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าต้องรอดูว่าจะเอาคืนอย่างไร เพราะเราทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา พร้อมที่จะตรวจสอบต่อไปในเรื่องความพยายามเลี่ยงเสียภาษี ซึ่งการตอบของนายกฯ ก็ชี้ชัดให้เห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่ควรจะจ่ายตั้งแต่แรก เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูล ก็เลยยังไม่ยอมจ่าย ดังนั้นในเรื่องนี้แม้อธิบดีกรมสรรพากรจะบอกว่าสามารถทำได้ อาจเป็นช่องว่างของกฎหมาย ซึ่งจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ส่วนคนที่เป็นนักการเมือง ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี และอีกประเด็นคือโรงแรมที่เขาใหญ่ ซึ่งเมื่อวานก่อนปิดอภิปรายตนก็ได้ตั้งคำถามเรื่องการขอใบอนุญาตและมีการโต้เถียงเรื่องของโฉนดที่ดิน และใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งฝ่ายค้านก็จะติดตามต่ออย่างแน่นอน

เมื่อถามว่าในการที่มีการพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง กลัวหรือไม่ท่าทีของนายทักษิณหลังจากนี้จะมีการเอาคืน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าเรื่องของชั้น 14 คิดว่าการอภิปรายก็แสดงให้เห็นชัดว่านายกรัฐมนตรีเป็นพยานรู้เห็นตั้งแต่แรก รู้สถานะของคุณพ่อตั้งแต่แรก ประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย ไม่ว่าจะเป็นการที่นายรังสิมันต์ โรม นำแผนเปรียบเทียบ แผ่นการประเมินที่ระบุนายทักษิณได้ 9 คะแนน จึงอยากทราบสถานะเหตุผลที่นายทักษิณได้ 9 คะแนน นำมาเปิดให้ดู และมีการตั้งข้อสังเกตอยากรู้สถานะ ณ ตอนนั้นของนายทักษิณ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนเดียวที่สามารถตอบได้ว่าตกลงคุณพ่อป่วยเป็นโรคอะไรทำให้การประเมินต่ำขนาดนั้น และเห็นว่าในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา นายทักษิณก็สามารถออกมาสู่สาธารณะได้ แสดงบทบาทได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคตั้งคำถามมาโดยตลอด อยากให้นายกฯ ตอบให้ชัดๆ ว่าคุณพ่อเป็นโรคอะไรกันแน่ ที่ทำให้ได้รับสิทธิพิเศษ เหนือกว่านักโทษคนอื่นๆ


เมื่อถามต่อว่ากลัวหรือไม่ ว่านายทักษิณจะตอบโต้อะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าไม่ได้มีความกังวลใดๆ ก็รอดูการตอบโต้ดีกว่า ว่าจะตอบโต้อะไร

นายณัฐพงษ์ ยังชี้แจงถึงจะอภิปรายที่พูดถึงดีลปีศาจ ว่าความหมายของคำว่าปีศาจ สำหรับประเทศนี้คือกลุ่มชนชั้นนำ ในสังคมที่เอารัดเอาเปรียบ ใช้อำนาจของตัวเองเพื่ออิงแอบกลุ่มทุน อิงแอบผลประโยชน์พวกพ้องของตัวเอง โดยไม่ได้สนใจประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

ส่วนที่มึการเปรียบเทียบการอภิปรายที่ผ่านมาระหว่างพรรคประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต ที่พรรคประชาธิปัตย์จะมีข้อมูลเชิงลึก ในการอภิปรายมากกว่า แต่การอภิปรายครั้งนี้เหมือนนำข่าวมาเล่า นายณัฐพงษ์ ระบุว่ามีเนื้อหาหลายๆ อย่างที่เป็นเนื้อหาใหม่ เช่น ปฏิบัติการไอโอ ที่โดนประท้วงทำให้นายชยพล สท้อนดี สส.ของพรรค ไม่สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างรอบด้าน ทั้งนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่กองทัพมองนักการเมืองทุกๆกลุ่ม เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่เฉพาะของพรรคประชาชนที่โดนข้อกล่าวหา อย่างนี้มาโดยตลอด ซึ่งเราก็ยืนยันมาตลอดว่าพวกเราไม่ใช่ แม้แต่ฝั่งรัฐบาลเองก็จัดอยู่ในกลุ่มภัยความมั่นคงเช่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นข้อมูลใหม่ที่ในอดีตก็ไม่เคยเห็น และเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องอยากให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ แต่ยังไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]