“ชยพล” อัด นายกฯ ปล่อยทหารใช้ IO แทรกแซงการเมือง

รัฐสภา 25 มี.ค.-“ชยพล” อัด นายกฯ ทรยศประชาชน ปล่อยทหารใช้ IO แทรกแซงการเมือง ใช้ภาษีปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความขัดแย้งเพื่อผลประโยชน์ของนายพล ด้าน “พิเชษฐ์” สั่งหยุดอภิปราย หลังประท้วงวุ่น ก่อนวินิจฉัย ให้อภิปรายต่อได้ แค่ปิดสไลด์

นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวว่า ตนขออภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ให้บริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป เพราะนายกคนนี้ ถือเอาผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม มีพฤติกรรมโกหกหลอกลวง เป็นนั่งร้านให้กลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิบัติต่อระบอบประชาธิปไตยเพื่อให้ตนเองและบิดาได้กลับมามีอำนาจ เหมือนอภิสิทธิ์ชน


“นายกรัฐมนตรีตระกูลชินวัตรคนนี้ ถึงกับทรยศต่อประชาชนแล้วหันไปสยบยอมต่อฝ่ายอำนาจนิยม ยอมละทิ้งการปฏิรูปกองทัพ ยอมปล่อยให้ทหารบางกลุ่มใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการเมือง ปล่อยให้ทหารบางกลุ่มใช้กลไกของรัฐไปคุกคามประชาชน ปกปั่นสร้างความแตกแยกเซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย จนยากจะเยียวยา” นายชยพล กล่าว

นายชยพล กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญที่กองทัพใช้เพื่อแทรกแซงการเมือง คือปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือที่เรียกว่า IO ความขัดแย้งในสังคมเป็นเรื่องปกติ แต่มีหลายครั้งก็เกิดขึ้นจากการปลุกปั่น ขบวนการเหล่านี้มีเป้าหมายก็เพื่อการสร้างกระแสสังคมผิด ๆ สร้างความหวาดกลัวสร้างความเกลียดชังนำไปสู่สถานการณ์ที่ผู้อยู่เบื้องหลังได้ประโยชน์ แต่ที่แย่กว่านั้นคือกระบวนการ IO ของกองทัพไทยใช้ภาษีของประชาชนและกลไกของรัฐมายุยง ปลุกปั่น ประชาชนให้เกิดความขัดแย้งเพื่อผลประโยชน์ของนายพลบางกลุ่มให้มีข้ออ้างมาแทรกแซงการเมืองไปเรื่อย ๆ ขบวนการ IO กลับเติบโตและเลวร้ายกว่าเดิม


นายชยพล เปิดเผยว่า ในช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2566 มีการจัดโครงสร้างปฏิบัติการ IO ขึ้นมาใหม่ ให้ทุกข์เหล่าทัพรวมศูนย์ไปอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการร่วมโดยมีไซเบอร์ทีมที่ตั้งขึ้นมาใหม่ คอยรับผิดชอบปฏิบัติการ IO กระบวนการ IO นี้ สุขสบายและเติบโตอย่างน่ากลัวภายใต้นายกที่ชื่อแพทองธาร จากที่ตนได้ติดตามไซเบอร์ทีมนี้ประชุมกันทุกวันพุธหรือพฤหัสบดี ซึ่งสถานที่ประชุมห่างจากสภาฯไป 2 กิโล และมีพลเอกธรรมนูญ วิถี รองผอ.ศปก.ร่วมฯ คอยบัญชาการทีมไซเบอร์โดยตรง ซึ่งเอกสารส่วนใหญ่ตนได้มาจาก เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่รับไม่ได้ กับปฏิบัติการที่สูญเสียกิตติภูมิของกองทัพ

โดยจุดที่น่าสนใจที่สุดของการอภิปรายครั้งนี้ นายชยพลเปิดเอกสารของ กอ.รมน. ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ขณะที่มีนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร นั่งเป็นผู้อำนวยการอยู่โดยตำแหน่ง เอกสาร “ประมาณการภัยคุกคามด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รอบ 1 ปี ห้วง 1 ต.ค. 67 ถึง 30 ก.ย. 68” ในประเด็นการประมาณการภัยคุกคามต่อสถาบันฯ หัวข้อ 4.1.2.1 ได้มีการระบุถึง “กลุ่มบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างสถาบันฯ” อยู่ด้วย โดยในหัวข้อนี้ได้กล่าวถึงบุคคล 3 คน ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร, ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า, และนายอนุทิน ชาญวีรกุล 

“สุดท้ายก็ไม่มีใครรอด เพราะสำหรับนายพลบางกลุ่ม เขาต้องการผูกขาดความจงรักภักดีไว้กับกองทัพฝ่ายเดียว  ส่วนคนอื่นนั้น ถ้าไม่ถูกใช้ประโยชน์ชั่วครั้งชั่วคราว ก็ถูกมองว่าบุคคลที่แสวงหาผลประโยชน์โดยแอบอ้างสถาบันฯ นี่คือตัวอย่างของความเลวร้ายจากการที่ท่านนายกแพทองธารยอมปล่อยให้กลไกของกองทัพไม่ถูกกำกับควบคุมโดยรัฐบาลพลเรือน ปล่อยให้มีมือมืด ใช้ทรัพยากรของกองทัพเข้าแทรกแซงการเมือง ” นายชยพล กล่าว


ซึ่งระหว่างการอภิปราย นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ใช้สิทธิ์ประท้วงว่า ตนพยานต้องไล่ดูเอกสารที่นำเสนอ หากเป็นเอกสารจริง ถือเป็นเรื่องใหญ่และหากเป็นเอกสารเท็จ เรื่องก็จะยิ่งใหญ่ไปกว่าเพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ โยงไปถึงการกระทำผิดของหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ ซึ่งต้องเป็นเรื่องจริง หากไม่ใช่เรื่องจริงตนคิดว่าประธานและตนรับมือไม่อยู่

ด้านนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ประธานในที่ประชุม กล่าวว่าเมื่อสักครู่ตนได้เตือนสมาชิกไปแล้ว ว่าแต่เราเอกสารลับของกองทัพออกมาแล้ว นำชื่อนายทหารมาตัดแปะ จึงเป็นห่วงว่า หากมีการดำเนินคดีหรือแจ้งความขึ้นมา เป็นความรับผิดชอบของท่าน

นายชยพล รับทราบและได้อภิปรายต่อ และได้ขึ้นสไลด์โชว์เอกสาร ทำให้นายพิเชษฐ์ เตือนอีกครั้ง พร้อมขอเอกสารหลังอภิปรายเสร็จ จะให้หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วง ประธานให้ควบคุมการประชุมให้เป็นกลาง เพราะกรณีนี้เป็นปฏิบัติการที่ไม่สมควร ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ผู้อภิปราย กล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นการกระทำบังอาจของคนกลุ่มนั้น ที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือผู้อภิปรายกำลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ด้านนายพิเชษฐ์ ได้วินิจฉัยว่า เป็นการเอ่ยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น จึงไม่ให้เอ่ยอีกหากเอ่ยถึงอีก จะไม่ให้อภิปรายต่อ

นายชยพล จึงอภิปรายต่อและมีการกล่าวถึงชื่อบุคคลภายนอกจำนวนมากทำให้นายพิเชษฐ์ ท้วงอีกครั้ง ว่าการเอ่ยถึงชื่อบุคคลภายนอกที่ไม่อยู่ในห้องประชุมได้รับความยินยอมหรือไม่ เป็นเรื่องเสียหายเยอะ พร้อมถามว่าจะหยุดอภิปรายดีหรือไม่ แล้วท่านจะรับเรื่องนี้ไม่ไหว

นายประยุทธ์ ศิริพานิช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง ถึงการขึ้นภาพในสไลด์ และการอภิปรายให้อยู่ในประเด็น

นายพิเชษฐ์ จึงสั่งให้หยุดอภิปราย พร้อมบอกว่าจะรับผิดชอบเอง ทำให้สมาชิกฝ่ายค้านได้ลุกขึ้นประท้วงประธาน ให้เวลาสมาชิกอภิปรายต่ออีก 10 นาที แต่ห้ามขึ้นภาพสไลด์

หลังจากนั้นนายชยพลเปิดหลักฐานประเด็นหัวข้อที่มีการทำปฏิบัติการ IO ซึ่งได้แก่การส่องคดีทักษิณอ้างป่วยเรื้อรังเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ชกมวยอยู่เมืองนอก กลับไทยแล้วป่วย ขึ้นชื่อเป็นบุคคลสาธารณะทำไมตรวจสอบไม่ได้ นักโทษเทวดาลอยหน้าลอยตาในสังคม

นายชลพล ยัง อภิปรายสรุปทิ้งท้ายว่า สิ่งที่ตนได้เรียนรู้จากครอบครัวและโรงเรียนเตรียมทหาร คือ การเป็นทหารที่ดี มีเกียรติมีศักดิ์ศรีและการทำเพื่อประชาชนนั้นเป็นอย่างไร ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและมีศักยภาพเพียงพอจะเผชิญกับภัยความมั่นคงยุคใหม่ และทหารน้ำดีส่วนใหญ่ในกองทัพก็อยากเห็นกองทัพไทยที่ทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ พวกเขาอึดอัดที่เห็นนายพลบางกลุ่มหาผลประโยชน์จากกองทัพนำกองทัพไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองจนทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพตกต่ำลง พวกเขาไม่สบายใจที่มีนายพลบางกลุ่มมักแอบอ้างเรื่องสถาบันฯ เพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี ได้อำนาจ ได้งบประมาณ โดยไม่ต้องรับผิดชอบว่าพฤติกรรมการแอบอ้างของตนเองนั้น จะส่งผลกระทบต่อสถาบันฯ ในระยะยาวอย่างไร  

เรื่องเหล่านี้มันเกี่ยวข้องกับคนเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะถ้าเรามีนายกฯ ที่มีสำนึกประชาธิปไตย เห็นความสำคัญของการปฏิรูปกองทัพ เราจะมีกองทัพที่ดีต่อชาติ ประชาชน และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่นางสาวแพทองธาร กลับเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน ละทิ้งการปฏิรูปกองทัพ เมื่อไรที่นายพลบางกลุ่มสามารถสร้างสถานการณ์จนสุกงอม พวกเขาก็พร้อมที่จะก่อรัฐประหารอีกครั้ง ตนจึงไม่สามารถไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ให้บริหารบ้านเมืองได้อีกต่อไป.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อภิปรายนายก

“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

“บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้ มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง

ลดราคาน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ลดราคาน้ำมัน 1 บาท ช่วงสงกรานต์ ตรึง LPG -หาทางลดค่าไฟ

“พีระพันธุ์” ประธาน กบน.ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก

สกัดจับรถตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงขนยาเสพติดข้ามประเทศ

ตำรวจขยายผลสกัดจับยาบ้าลักลอบขนมาจากตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง ข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบพฤติกรรมผู้ต้องหาเปิดบริษัทซื้อรถบรรทุกขนตู้คอนเทนเนอร์ส่งน้ำข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับดัดแปลงรถตู้คอนเทนเนอร์นำยาเสพติดเข้าประเทศ

Noon Varanuch in China

“นุ่น วรนุช” ลุคสวยสะกด ร่วมรายการวาไรตี้จีน

ฉางซา 24 มี.ค. – “นุ่น วรนุช” ดารานักแสดงชื่อดังของไทย โชว์ความสามารถในรายการ “ไรด์ เดอะ วินด์” (Ride The Wind) หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 ของช่องแมงโกทีวี (Mango TV) ในจีน ซึ่งเริ่มต้นออกอากาศตอนแรกเมื่อวันศุกร์ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นุ่น วรนุช นักแสดงหญิงชาวไทย เข้าร่วมบันทึกเทปรายการไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 โดยเธอได้ร้องเพลง “พิง” ของนนท์ ธนนท์ ฉบับภาษาไทย-ภาษาจีน บนเวทีริมทะเลที่อำเภอปกครองตนเองหลิงสุ่ย กลุ่มชาติพันธุ์หลี มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง เป็นรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังที่ออกอากาศมา 6 ซีซันแล้ว เปิดโอกาสให้ดารานักแสดงหญิงจากทั่วโลกมาทำการแสดงด้วยเป้าหมายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยซีซันก่อนหน้านี้มีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างใหม่ ดาวิกา […]

ข่าวแนะนำ

“ผศ.พิมล” นั่งประธานโอลิมปิคไทยคนที่ 8

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานคณะคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนที่ 8 โดยนับเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่มีตำแหน่งทางทหาร

โจรชุดไรเดอร์บุกชิงทอง 30 บาท กลางห้างดังย่านบางแค

ล่าโจรแต่งชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองห้างดัง ย่านบางแค กวาดทอง 30 บาท มูลค่าเกือบ 1.5 ล้านบาท ไล่กล้องวงจรปิดพบเดินเท้าออกมาจากซอยข้างห้าง ก่อนทิ้งเสื้อไรเดอร์หนี

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ ต่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล “ทักษิณ” ก็กลับประเทศ ชี้ “ทักษิณ“ ได้รับความไม่ยุติธรรมตลอด 20 ปี บอกลาออกจากความเป็นลูกสาว-ความเป็นแม่ไม่ได้ ขอวิจารณ์การทำงานจะเป็นประโยชน์มากกว่า

โรมอภิปรายนายใหญ่

“โรม” จัดหนักพุ่งเป้า “นายใหญ่”

“โรม” จัดหนักชั่วโมงกว่า พุ่งเป้า “นายใหญ่” สงสัย “นายกฯ แพทองธาร” ดีลปีศาจพาพ่อกลับบ้านหรือไม่ ท้าตอบคำถามเอง ในฐานะประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์มากที่สุด