“ธีรัจชัย” เผยนายกฯ ครองโรงแรมหรูเขาใหญ่ทับซ้อนสร้างตนเอง

รัฐสภา 24 มี.ค.- “ธีรัจชัย” เผยนายกฯ ครองโรงแรมหรูเขาใหญ่ทับซ้อนนิคมสร้างตนเอง-ต้นน้ำลำธาร ห้ามออกโฉนด-ทำธุรกิจ-ชี้ ป.ป.ช.เคยชี้มูล จนท.ลักษณะนี้แล้ว นายกฯ ไม่รอดแน่


นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในข้อกล่าวหาว่า ไม่มีคุณสมบัติ และไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม ไม่เคารพกฎหมาย ซ้ำยังเลือกใช้กฎหมายไปเล่นงานคู่ขัดแย้งทางการเมือง แต่กลับจงใจหลีกเลี่ยงไม่ตรวจสอบความผิดของตนเองและครอบครัว เนื่องจาก เห็นว่า ในบัญชีทรัพย์สินของนางสาวแพทองธาร ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ โฮเต็ล จำกัดและยังเป็นกรรมการบริษัท ตั้งแต่ปี 2556 ก่อนลาออกจากมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายธีรัจชัย ระบุว่า ที่ดินที่โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ เป็นที่ดินของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลสมัยก่อน จัดสรรพื้นที่ให้ประชาชนเข้าไปอยู่อาศัยและทำกิน เนื่องจาก จะมีการสร้างเขื่อนลำตะคอง จึงอพยพชาวบ้านมายังนิคมแห่งนี้ เมื่อปี 2513 โดยให้ที่ดินชาวบ้านทำกินกันคนละไม่เกิน 50 ไร่


ซึ่งถ้าสมาชิกนิคม ที่ได้สิทธิถือครองที่ดิน ถือครองทำกินอยู่ครบ 5 ปี จะสามารถออกเอกสารสิทธิหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตนิคมสร้างตนเอง หรือ น.ค.3 ได้ และถ้าปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่กฎหมายกำหนดครบถ้วน ก็สามารถ เอา น.ค.3 ไปเปลี่ยนเป็น นส.3 หรือโฉนดที่ดินได้ต่อไป แต่หลักการนี้มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย

นายธีรัจชัย ยังได้แสดงแผนที่ของกรมพัฒนาที่ดิน ที่จัดทำโดย GISTDA หรือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) โดยพบว่า ที่ดินดังกล่าวของนางสาวแพทองธาร ตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งตามกฎหมายแล้วเข้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ และออกโฉนดไม่ได้ ซึ่งที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคองออกโฉนดได้ เว้นแต่เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ที่ห้ามเข้าไปครอบครองทำประโยชน์ และไม่สามารถออก น.ค. 3, นส. 3 หรือโฉนดที่ดินได้

นายธีรัจชัย ยังได้เปรียบเทียบแผนที่ของโรงแรมแรนโช ชาญวีร์ ของครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ไม่ไกลจากโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เกิน 10 กิโลเมตร ซึ่งที่ดินสนามกอล์ฟดังกล่าว หากเข้าไปทับกับพื้นที่ สปก. ตามที่ลูกน้องของนักการเมืองหนึ่ง เปิดประเด็นไว้จริง โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ ก็น่าจะมีปัญหาด้วย


นายธีรัจชัย ยังระบุว่า โรงแรมของนายกรัฐมนตรี ใช้วิธีคล้ายกับโรงแรมแรนโช ชาญวีร์ ที่ตอนแรกยังไม่ได้เป็นโฉนด แต่มีการนำที่ดินตรงนั้นไปออก นส.3ก ก่อน แต่โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ฯ กลับซื้อ นส.3 ก. เพียง 2 ปี ในปี 2539 นำที่ดินในนิคมสร้างตนเองไปออกเป็นโฉนด และนำโฉนดแปลงนี้ ไปแบ่งเป็น 4 แปลง ทั้งที่ที่ดินแปลงนี้มันไม่ควรออกโฉนดได้ เพราะอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เป็นเขตหวงห้าม ครอบครองเข้าทำประโยชน์ไม่ได้ และออกโฉนดไม่ได้ ดังนั้น การกระทำอย่างโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ได้นั้น ไม่ง่ายถ้าไม่มีอำนาจรัฐ อำนาจทางการเมือง หรืออำนาจอื่นใดมาเกี่ยวข้อง

นายธีรัจชัย ยังระบุว่า ในช่วงที่มีการออกโฉนดโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ครั้งแรกนั้น มีรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง นามสกุลชินวัตร และในช่วงการนำโฉนด ไปแบ่งเป็น 4 แปลงในปี 2555 ก็เป็นระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีที่นามสกุลชินวัตรเช่นเดียวกัน ทั้งที่ นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ที่โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่นั้น ยังไม่มีประกาศยกเลิกเขตนิคมสร้างตนเอง ทำให้การกำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน จะทำได้เฉพาะการอยู่อาศัย และการทำเกษตรกรรม เท่านั้น จะนำที่ดินไปทำอย่างอื่นนอกจากการเกษตรหรืออยู่อาศัย เช่น สนามกอล์ฟ หรือโรงแรม เจ้าของที่ดินต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมก่อนเป็นกรณี ๆ

นายธีรัจชัย ยังอภิปรายทิ้งท้ายว่า นางสาวแพทองธาร ทำธุรกิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย นำพื้นที่ต้นน้ำลำธารในป่าเขาใหญ่ในนิคมสร้างตนเอง ที่มีการออกโฉนดเป็นของครอบครัวตนเอง และยังนำไปทำธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในเรื่องลักษณะการออกโฉนดในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ป.ป.ช.เพิ่งมีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่กรมที่ดินไป เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่ดินโรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ของนางสาวแพทองธาร ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน ดังนั้น ที่ดินของนางสาวแพทองธาร จะรอดได้อย่างไร จึงสะท้อนว่า นางสาวแพทองธาร ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินโดยมิชอบ

นายธีรัจชัย ยังตั้งข้อสังเกตการตรวจสอบสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ ของครอบครัวนายอนุทินว่า ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญเหรอครับ เพราะนายอนุทินเป็นทั้งรองนายกรัฐมนตรี เป็นทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอนุทิน ก็ยังมั่นใจว่า มีใบสั่งทางการเมือง 500 ล้านเปอร์เซ็นต์ ก็มีแต่นายกรัฐมนตรี หรือคนในครอบครัวนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจบารมีพอที่จะทำได้ ซึ่งอาจลืมไปว่า ที่ดินสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ อาจมีปัญหา แต่ที่ดินของตนเองและครอบครัวที่เขาใหญ่ ก็มันน่าจะมีปัญหาหนักกว่าของครอบครัวนายอนุทิน เพราะแรนโช ชาญวีร์ เป็นเพียง นส.3ก. อาจจะทับพื้นที่ สปก. แต่กรณีโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่นั้น เป็นการโฉนดทับพื้นที่ต้นน้ำลำธาร และยังทำธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย