“วิโรจน์” อภิปรายคุณสมบัตินายกฯ ฝ่ายรัฐบาลลุกประท้วงวุ่น ขอให้ถอนคำพูด

อภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐสภา24 มี.ค.- “วิโรจน์” ลุกอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ บรรยากาศดุเดือด ฝ่ายรัฐบาลประท้วงวุ่น ชี้อภิปรายเสียดสี ขอให้ถอนคำพูด


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ลุกอภิปรายว่าคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า บุคคลมีหน้าที่เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้รับการยกเว้น โดยสำนึกแล้วคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการเสียภาษีด้วยซ้ำ ถ้าตัวนายกรัฐมนตรียังทำตัวหนีภาษี ความเป็นธรรมในเรื่องภาษีจะเกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างไร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การที่คนรวยบางกลุ่มบางก้อนใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลบเลี่ยงภาษี ซ้ำร้ายในหลายกรณีเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการหลีกเลี่ยง หรือการหนีภาษีด้วยซ้ำ จึงทำให้ภาระทางภาษีตกอยู่กับมนุษย์เงินเดือน คนชั้นกลางประชาชนชาวรากหญ้า
ดังนั้น พฤติกรรมการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการหลีกเลี่ยง หรือเรียกง่ายๆ ว่าหนีภาษี จึงเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน ตนนึกไม่ถึงว่าพฤติกรรมที่น่าอดสูแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับคนที่ชื่อว่าแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี


นายวิโรจน์ ย้ำว่า การอภิปรายในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่ไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร แต่เป็นการอภิปรายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ผู้เป็นเจ้าของเงินแผ่นดิน ว่านายกรัฐมนตรีใช้ช่องว่างทางกฎหมาย ทำนิติกรรมอำพราง หนีภาษี หนึ่งในคนที่อยู่บนห่วงโซ่อาหารก็คือแพทองธาร ชินวัตร

นายวิโรจน์ เล่าว่า หลังจากที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีโอนหุ้นบริษัท 19 บริษัท มูลค่า 9,330.5 ล้านบาท แต่มี 2 บริษัท มูลค่า 393.5 ล้านบาท โอนไปให้แม่และพี่สาว ตนจึงถามว่าเป็นการโอนไปด้วยวิธีการใด เป็นการให้ หรือเป็นการขายหุ้น หุ้นตัวแรก คือ บริษัทอัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ 224.1 ล้านบาท โอนไปให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นแม่ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2567 และหุ้นตัวที่สอง บริษัทประไหมสุหรี พรอพเพอร์ตี้จำกัด จำนวน 169.4 ล้านบาท โอนให้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567 ถ้าการโอนหุ้นของนายกรัฐมนตรีไปให้แม่และพี่สาว ก็ต้องมีภาระในการจ่ายภาษี กรณีของแม่ต้องเสียภาษีรับให้ 10.2 ล้านบาท ในขณะที่พี่สาว 8 ล้านบาท รวมแล้วรัฐต้องได้ 18.2 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีทำนิติกรรมอำพรางในการหนีภาษีรับให้มาตั้งแต่ปี 2559 อ้างว่าให้โดยเสน่หา ภาษีซักสลึงก็ไม่ต้องเสีย

จังหวะนี้ นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วง ว่านายวิโรจน์ไม่รู้สี่รู้แปด ทำให้ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานในการประชุมตักเตือนว่า อย่าใช้คำพูดประเด็นนี้ เขายังพูดอยู่ในประเด็น


นายวิโรจน์ จึงถามว่า นางนุชนาถประท้วงตามสัญญาว่าจ้างข้อไหน ทำให้นางนุชนาถ ไม่พอใจ ขอให้ถอนคำพูด นายวิโรจน์ จึงยอมถอน ก่อนกล่าวว่า “ก่อนจะประท้วง ขอให้ท่านผู้ประท้วงร้อง กี้ๆ” (แปลว่าลิ่วล้อ) จึงยิ่งทำให้นางนุชนาถไม่พอใจ ขอให้ถอนคำพูดคำว่ากี้ๆ ด้วยนายวิโรจน์ จึงยอมถอน ก่อนจะอภิปรายต่อ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า มนุษย์ที่ร่ำรวย ถ้าเขาไม่อยากจ่ายภาษีรับให้ พ่อแม่ส่วนใหญ่จะทยอยให้ปีละไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อไม่ต้องเข้าเกณฑ์เสียภาษี แทนที่นายกรัฐมนตรีจะทำเหมือนกับมนุษย์ทั่วไปที่เขาทำกัน กลับมีพฤติกรรมใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลีกเลี่ยงภาษีรับให้มาตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา

นายวิโรจน์ ชี้เป้าว่า เมื่อไปดูบัญชีทรัพย์สิน พบว่านายกรัฐมนตรีมีหนี้ 9 รายการ เป็นเอกสาร 9 แผ่นกระดาษ วิธีการที่นายกรัฐมนตรีใช้ แวดวงธุรกิจเรียกกันว่า ตั๋ว PN ซึ่งเป็นหนี้สินเชื่อ โดยนายกรัฐมนตรีซื้อหุ้นกับพี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ เป็นการซื้อเชื่อ แล้วออกตั๋ว PN เพียงเท่านั้น ไม่ได้ซื้อขายจริง

“ซื้อหุ้นกันภาษาอะไร ไม่มีกำหนดว่าจะจ่ายเงินค่าซื้อหุ้นกันเมื่อไหร่ ถ้าชาตินี้ไม่มีใครทวง แพทองธารก็ไม่ต้องจ่าย ลืมไปได้เลยว่าเคยเป็นหนี้ เพราะดอกเบี้ยก็ไม่มีใครคิด แพทองธารไม่ต้องกังวลเลยว่าจะต้องมีภาระในการจ่าย พี่ชาย พี่สาว ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ เป็นเจ้าหนี้ที่แสนดี มีความกรุณามากๆ นอนกอดกระดาษ 9 ใบ โดยที่ไม่รู้ว่าเงิน 4,434.5 ล้านบาท จะได้เมื่อไหร่ โอ้โฮ ถ้าตั๋ว PN ทั้ง 9 ใบนี้ เป็นจริงตามที่ผมว่า ก็แสดงว่าการซื้อหุ้นของแพทองธาร ทำนิติกรรมบังหน้า เอาเปรียบประชาชน เป็นการบ่อนทำลายประเทศ”
ทำให้ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงว่า ประธานต้องควบคุมเตือนและตักเตือนนายวิโรจน์ เรื่องมาตรฐานจริยธรรม นายวิโรจน์ต้องรับผิดชอบในการเอาเอกสารต่างๆ ที่นำมาบรรยาย ถ้าไม่ใช่ความจริง ทำให้นายวิโรจน์ ตอบโต้ว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารในการชี้แจง ฝ่ายบริวารอย่ามายุ่ง

แต่ ทพญ.ศรีญาดา ไม่ยอม ระบุว่า ช่วยกรุณาถอนคำพูดด้วย การส่อเสียดกันมันไม่ควรเกิดขึ้น แต่นายวิโรจน์ไม่จบ กล่าวเล่นมุกต่อว่า ถ้าเป็นหมอฟัน ก็ถอนอยู่แล้ว จากนั้น นายวิโรจน์ ลงรายะเอียดการออกตั๋ว PN เป็นการซื้อเชื่อรายคนให้กับญาติ โดยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการซื้อปลอม ทำให้คนในครอบครัว คนในกงสี ไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเลยแม้แต่บาทเดียว นายกรัฐมนตรีและญาติติโกโหติกาก็ไม่ต้องจ่ายภาษีอะไร แม้แต่เศษเนื้อเศษกระดูกก็ไม่ให้ตกถึงท้องสรรพากร

“ติ่งต่างทำเป็นซื้อ ซึ่งได้มาจากการให้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีรับให้ วันนี้หมดเวลาที่แพทองธารจะทำกงสี เตรียมกระดาษเงินกระดาษทองทำกงเต็กได้เลย…ผมไม่ได้รังเกียจคนรวย เพราะคนรวยคนอื่น เวลาที่เขาจะให้หุ้นลูก ให้เงินหลาน เขาก็เสียภาษีอย่างถูกต้อง แพทองธาร เขาเป็นคนแบบไหน เสียภาษีแบบมนุษย์มนาตรงไปตรงมาไม่ได้หรืออย่างไร คนหนีภาษีแบบนี้เรายังสมควรให้ลอยหน้าลอยตาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ต่อไปได้อย่างไร หน้าที่ของคนทั่วไปยังทำไม่ได้แล้วยังลอยหน้าลอยตาเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำของคนไทยทั้งประเทศได้อย่างไร” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีใช้ตั๋ว PN สร้างหนี้ปลอม หลีกเลี่ยงภาษีจำนวนสูงถึง 218.7ล้านบาท ตนอยากรู้จริงๆ ว่าชีวิตที่เป็นปลวกเป็นเพลี้ย คอยเอาเปรียบประชาชน ฉ้อฉลประเทศแบบนี้ เวลาที่คนอย่างแพทองธาร ชินวัตร เดินเฉิดฉายอยู่กลางแจ้ง เขาไม่เคยรู้สึกสำนึกสำเหนียกอายฟ้าอายดินบ้างหรือ

จังหวะนี้ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เตือนว่า ให้ระวังฉันการใช้คำส่อเสียด แต่นายวิโรจน์แย้งว่า เวลาพูดถึงคนหนีภาษีมันเดือด
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีหนีภาษีถึงเกือบ 15% ของภาษีมรดกที่จัดเก็บได้ในปี 2567 ซึ่งถ้าพิจารณาถึงกระบวนท่ากันจริงๆ ถือเป็นกระบวนท่าที่ใช้ภายในจักรวาลชินวัตร ถ้าติดตามนวนิยายจีน จะทราบดีว่าเป็นเทคนิคการเคลื่อนย้ายจักรวาลที่เคยสั่นสะเทือนมาแล้วเมื่อปี 2544 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนั้นเจ้าสำนักไม่ใช่ใครยักย้ายถ่ายเท หรือซุกหุ้นกันในเฉพาะเครือญาติ แต่ถึงกับเอาไปซุกไว้กับคนรับใช้ เอาไปให้คนขับรถ ล้ำลึกมากๆ ตนประเด็นที่อภิปรายในวันนี้ไปยื่นให้อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบต่อ


ช่วงที่นายวันมูหะมัดนอร์ทำหน้าที่ประธาน มีผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง โดยนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า ออกทะเล ขณะที่นางนุชนาถ ลุกประท้วงอีกรอบ ว่านายวิโรจน์จินตนาการกว้างไกลมาก ติดหนังจีนมากเกินไปหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ได้ตักเตือนนายวิโรจน์หลายครั้ง ว่าอย่าใช้คำเสียดสี ใส่ร้าย แต่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ท้วง ขอให้ประธานวางตัวเป็นกลาง ขนาดองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับเขายังไม่ประท้วงเลย

ทั้งนี้ บรรยากาศการเป็นห่วงกลับมาดุเดือดอีกครั้งในช่วงที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง ขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยนายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนทนฟัง มีแต่เสียดสี ฝ่ายค้านตระบัดสัตย์หรือไม่เพราะมีลุงไม่มีเรา และตอนนี้อยู่บำรุงแล้ว ทำให้นายวิโรจน์ สวนว่า อยู่ดีๆ ก็ด่าตัวเอง ร้องกี้ๆ สัก 2-3 ครั้งได้หรือไม่

แต่นายไชวัฒนา ยังตอบโต้ด้วยว่าตนคงไม่ไปต่อล้อต่อเถียง ทำให้นายพิเชษฐ์ ตัดบทว่า ไม่เป็นไรครับ และถามนายวิโรจน์ว่า กี้ๆ แปลว่าอะไร

“ท่านวิโรจน์ลองแปลซิ บางทีก็เป็นคำที่ไม่ควรใช้ในสภา แปลว่าอะไรครับ” นายพิเชษฐ์ กล่าว

นายวิโรจน์ จึงชี้แจงว่าเป็นคำปกติ ไม่ได้หยาบคายอะไร แต่เดี๋ยวเล่าแล้วยาว ทำให้นายพิเชษฐ์กล่าวว่า ถ้าไม่มีความหมายก็ไม่ควรนำมาใช้

นายวิโรจน์ กล่าวหาว่า คนอย่างนายกรัฐมนตรี มีความทุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประชาชนเขาหวังฝากความหวังไว้กับผู้นำ แต่สุดท้ายเรากลับได้โจรใส่อาภรณ์ ขุนนางสวมรองเท้าไข่มุก แล้วพูดว่ามีกินมีใช้ ไปพร้อมพร้อมกัน ทำให้ ทพญ. ศรีญาดา ลุกขึ้นมาอีกรอบ ประท้วงว่า อย่าเสียดสี โดยเฉพาะเมื่อพูดกับผู้หญิง

จากนั้น นายพิเชษฐ์ ได้กล่าวตักเตือน นายวิโรจน์จึงโต้แย้งว่าคำว่าทุจริต ถ้าพูดไม่ได้ก็อภิปรายไม่ได้แล้ว ก่อนกล่าวต่อว่า “คำว่ามีกินมีใช้ไปพร้อมพร้อมกัน แท้ที่จริงแล้วคือการหาช่องว่างทางกฎหมาย เพื่อให้มีกินกันเฉพาะกงสี ให้ได้อิ่มหมีเฉพาะตระกูลของตัวเอง แพทองธาร ชินวัตร นายกฯหนีภาษี ไม่มีศักดิ์ศรีที่จะดำรงตำแหน่งอีกต่อไปแล้ว ได้เวลาออกไปจากตึกไทยคู่ฟ้า กลับกรงสีที่บ้านจันทร์ส่องหล้าไปได้แล้ว จบนะครับ กี้”

จากนั้นนางนุชนาถ ประท้วงทันทีว่า นายวิโรจน์พูดเสียดสี เหมือนคนที่จะไม่ได้อยู่ในสภาอีกแล้ว แต่นายวิโรจน์ ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ถ้าอยู่ในสภา แล้วต้องอยู่ในฐานะเป็นลิ่วล้อ เป็นบริวารที่ไม่มีศักดิ์ศรี แต่ยังพูดไม่ทันจบ นายพิเชษฐ์ปิดไมค์ แล้วกล่าวว่า จบแล้ว

ต่อมา นายครูมานิตย์ ลุกกล่าวว่า ตั้งแต่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ อภิปรายตนก็บอกกับทีมว่าอย่าประท้วงนะ ให้เกียรติหัวหน้าพรรคเขา แต่นายวิโรจน์อภิปรายด้วยความทุจริต มีการข่มขู่ว่าถ้าโหวตให้นายกรัฐมนตรีจะผิดข้อบังคับ ถือเป็นการกรรโชก

“วันนี้ขอให้พี่วิโรจน์ใจเย็นลงนิดหนึ่งน้อง หรือคุณพี่ที่เคารพครับ ใจเย็นนิดหนึ่ง เพราะเหมือนกับคนสติแตก” นายครูมานิตย์ กล่าว

นายพิเชษฐ์ จึงวินิจฉัยว่า การอยู่ในสภาเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล ท่านจะสุภาพหรือไม่เป็นเรื่องของท่าน แต่ถ้าเกินไปก็ต้องประท้วง ประชาชนเขาตัดสิน

จากนั้น นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงนายวิโรจน์ว่า อภิปรายเสียดสีมาโดยตลอด ต่อไปถ้าจะพูดจาอะไร ขอให้พยายามใช้สมอง แต่นี่เขาใช้สมองแค่ 2 ซีกเท่านั้น ได้แก่ 1.ยกตนข่มท่าน ด้อยค่าคนอื่น เสียดสีคนอื่น 2.ยกย่องพวกตัวเองเท่านั้น คนแบบนี้เหมาะสมเป็นหัวหน้าม็อบ ดังนั้น ประธานต้องวินิจฉัยอย่างเอาจริงเอาจัง เดี๋ยวมันจะได้ใจ ไอ้เหลือก!

ทำให้นายพิเชษฐ์วินิจฉัยว่า ตั้งแต่นายวันมูหะมัดนอร์มาถึง ตนพยายามตักเตือนนายวิโรจน์ว่าสุภาพหน่อย และให้เกียรตินายกรัฐมนตรีด้วย เพราะออกไปข้างนอก ประชาชนจะมองนายกรัฐมนตรีอย่างไร

นายวิโรจน์ จึงลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิงว่าไปถึงนายครูมานิตย์ ว่าตนคิดว่าการพูดถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ สส.ทุกคนเข้าใจถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ส่วน สส.อีกคน ตนไม่อยากเอ่ยชื่อ มาบอกว่าใช้สมองซีกซ้ายซีกขวา 2 ซีกอะไร ตนก็ยังดีใจที่ใช้สมอง แต่เมื่อกี้คำพูดของท่านชัดเจนว่าไม่มีสมอง

ทำให้นายธีระชัย ลุกขึ้นโต้ว่า “ถ้าจะต่อล้อต่อเถียง เขาประสบความสำเร็จอะไรบ้าง ผมอยากรู้ นอกจากใช้ปากเป็นอาวุธ ระวังปากด้วยครับ เดี๋ยวนี้ผมแก่แล้ว ไม่กลัวด้วยไอ้พวกปาก…” ซึ่งนายธีระชัยยังไม่ทันพูดจบ นายพิเชษฐ์ปิดไมค์ จนทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายโต้กันอย่างดุเดือดนอกไมค์

ทั้งนี้ในช่วงท้าย นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ลุกหารือว่า ในการอภิปรายของนายวิโรจน์มีการอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ดังนั้นในรายงานหรือบันทึกการประชุมช่วยว่านำชื่อคนนอกออก เพื่อความถูกต้องของการอภิปราย ตามข้อบังคับด้วย

นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า การเอ่ยชื่อคนนอกต้องรับผิดชอบเอง จากนั้นได้ให้ผู้จะอภิปรายในลำดับถัดไปได้อภิปรายต่อไป.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]