“สุทิน​” เย้ยฝ่ายค้านซักฟอกครึ่งวันแรกเบาหวิว ไม่ถึงขั้นโรยเกลือ


รัฐสภา 24 มี.ค.- “สุทิน​” เย้ยฝ่ายค้าน​ ซักฟอกครึ่งวันแรก มีแต่นามธรรม-ข้อกล่าวหาลอยๆ เบาหวิว ไม่ถึงขั้นยุทธการโรยเกลือ มอง “บิ๊กป้อม”​ ข้อมูลแค่จั่วหัวไม่ถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขู่ “วิโรจน์”​ เตรียมพร้อม​อาจถูกฟ้องปมพาดพิงคนครอบครัวชินวัตร​ ทำเสียหาย


นายสุทิน คลังแสง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ว่า เท่าที่ตนฟังการอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ต่างจากที่ตนได้คาดหมายว่าเป็นนามธรรม เป็นการกล่าวหาที่ปล่อยลอยๆมากกว่า ยังขาดตัวบ่งชี้ถึงพฤติกรรม เช่นดีลแลกประเทศ ซึ่งตนพยายามฟังอยู่ว่ามีการไปดีลกันเมื่อไหร่ เรื่องอะไร ก็ยังเป็นการพูดลอยๆคลุมเครือไม่เห็นชัดว่าไปดีลกันอย่างไร ส่วนพฤติกรรมขาดภาวะผู้นำ หรือถูกครอบงำ ยังไม่มีตัวบ่งชี้ถึงพฤติกรรมนั้น เช่นเดียวกับกรณีของพลเอกประวิตร ซึ่งดูเหมือนว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจหากเทียบกับทุกครั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความหนักแน่นพอ จะมีเป็นรูปธรรมบ้างก็การอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่มีการบ่งชี้ถึงพฤติกรรมอยู่ แต่ก็เป็นรายละเอียดที่จะต้องไปศึกษากันอีกครั้ง และคงต้องไปฟังนายกรัฐมนตรีชี้แจง

ทั้งนี้มองว่าการอภิปรายของนายวิโรจน์ น่าสนใจ เพียงแต่อาจใช้อารมณ์บดบังสาระมากไป ถ้าตัดเรื่องอารมณ์เรื่องวาทะ ตัดเรื่องการเสียดสีออกมองว่าสาระจะน่าสนใจมากกว่านี้ ดังนั้นภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกในครึ่งเช้า ถ้ามองในฐานะรัฐบาลเองมองว่ายังไม่มีอะไรน่าหนักใจ และที่ตนตั้งสมมติฐานว่าข้อมูลน้อยน่าจะเป็นความจริง


เมื่อถามถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านจะไปถึงยุทธการโรยเกลือได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คงไม่ไปถึงขั้นนั้นโดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้านดูแล้วเบาหวิวกว่าที่คาด เพราะกล่าวลอยๆ ไม่มีตัวบ่งชี้ถึงพฤติกรรม

ส่วนหากมีการเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในตระกูลชินวัตร จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คงจะเป็นช่วงการอภิปรายของนายวิโรจน์ เป็นส่วนใหญ่ที่พูดชัดเจนคิดถึงครอบครัวและเจาะจงให้ร้าย ถ้าไม่เป็นความจริงเขาก็ต้องมีสิทธิ์ฟ้อง และถ้าเขาตอบแล้วยืนยันแล้วไม่เป็นความจริง เรื่องนี้ก็คงต้องถึงขั้นฟ้องร้องกันนายวิโรจน์ ก็ต้องรับผิดเพราะกล่าวหาชัดเจนและหนักหน่วง

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะมีการยื่นเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช.หลังการอภิปราย นายสุทิน กล่าวว่าที่จริงแล้วหากทุกคนอภิปรายเรื่องทุจริตก็ต้องยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ก็ต้องรู้ว่าเค้าจะยื่นหรือไม่ และเรื่องที่น่าสนใจมีเรื่องภาษี ซึ่งก็ต้องฟังนายกรัฐมนตรีตอบด้วย


ส่วนการอภิปรายของพลเอกประวิตร มองอย่างไร น่าสนใจหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ก็ไม่ถึงขั้นนั้น เข้าใจได้ว่า พลเอกประวิตร แค่จั่วหัวมากกว่า​ ท่านก็พยายามทำให้ดีที่สุดของท่านแล้วก็ให้กำลังใจ แต่ไม่ถึงขั้นหนักแน่น หรือเป็นข้อกล่าวหาที่น่าสนใจ และต้องรอดูว่าจะมีใครมาอธิบายขยายซ้ำอีกหรือไม่ หากอธิบายเท่านี้ก็ไม่น่าจะถึงขั้นไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามถึงการอภิปรายของพลเอกประวิตร ที่บอกว่า ประเทศไม่ใช่เวทีของนายกฯ ฝึกหัด​ (นายกฯ มือสมัครเล่น)​ นาย​สุทิน​ กล่าวว่า​ เป็นเพียงวาทกรรมที่พูดกันมาตลอด ว่าเป็นสนามเด็กเล่น และคราวนี้ก็มาบอกว่าเป็นนายกฝึกหัด ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เป็นเรื่องฝึกหัด การมีทีมงานที่ดี มีพี่เลี้ยงที่ดี น่าจะดีกว่าพวกที่มีอาวุโสแต่ไม่มีทีมงาน

ส่วนมองการชี้แจงของนายกรัฐมนตรีต่อคำอภิปรายของพลเอกประวิตร ในวันนี้อย่างไร นายสุทิน​ กล่าวว่า​ น่าจะเป็นมุกเพื่อให้ทุกคนผ่อนคลายมากกว่า และมองว่าเป็นการย้อนศร เพื่อทำให้ทุกคนผ่อนคลายและสนุกมากกว่า แต่ในเรื่องการตอบแบบจริงจัง คงจะมีการที่แจ้งอีกครั้ง

ส่วนคาดหวังอะไรกับฝ่ายค้านในการอภิปรายครั้งนี้​ นายสุทิน​ กล่าวว่า​ ก็จะพยายามรอฟัง ถ้าเป็นเพียงเท่าที่ผ่านมาคาดหวังไม่ได้ แต่อาจจะมีคนมาขยายความให้ผู้นำฝ่าย จึงต้องรอดู หากมีคนมาขยายความให้ก็จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามต่อว่าการเป็นพ่อลูกระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายทักษิณ หากมีการพูดคุยปรึกษากันถือเป็นการครอบงำหรือไม่​ นายสุทิน​ กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องพูดให้ชัดเจน และต้องขีดเส้นให้ได้ ระหว่างคำว่าครอบงำกับแนะนำ ถ้าไม่สามารถขีดเส้นแบ่งตรงนี้ได้ การอภิปรายก็ไม่มีน้ำหนัก ยิ่งภาวะผู้นำ พูดยาก และยอมรับว่าแบ่งกันได้ยาก เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อเป็นธรรมชาติมันก็แบ่งยาก ความเป็นพ่อ ความเป็นคนในการเมือง และความเป็นคนในพรรค และผู้นำพรรค รวมไปถึงความเป็นห่วงลูกพรรค​ ก็มีแนะนำกันบ้าง แต่หากจะดูว่าเป็นการครอบงำก็ต้องดูว่าเป็นขั้นไหน ซึ่งฝ่ายค้านต้องทำงาน​หนัก

เมื่อถามต่อว่าหากเปรียบการอภิปรายในครั้งนี้ ให้เป็นกลอนลำ ปรับเปลี่ยนเป็นกลอนอะไร นายสุทิน​ กล่าวว่า​ ไม่ใช่ลำซิ่ง ไม่ใช่ ลำเต้ย แต่เป็นลำล่อง ล่องลอยไป พูดไปเรื่อย ล่องลอยไปเรื่อย ก่อนยิ้มกรุ่มกริ่มและพูดอีกครั้งว่าฝ่ายค้านเป็นลำล่อง.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]