“ณัฐพงษ์” ขู่นายกฯ ก่อนเริ่ม​ซักฟอก แฉ​มีข้อมูลลับถอดถอนได้

รัฐสภา ​24 มี.ค.- “ณัฐพงษ์” ขู่นายกฯ ก่อนเริ่ม​ศึกซักฟอก แฉ​มีข้อมูลลับถอดถอนพ้นตำแหน่งได้​ ปัด​ดีลพรรคร่วมรัฐบาล​ ขอจับตา​ “บิ๊กป้อม​ -​ เฉลิม”​ ร่วมวง​ บอก​ 10 นาทีคุ้มค่า


นายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ​ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า
วันนี้มั่นใจเต็มที่ ซึ่งเราเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว และทางรัฐบาลควรจะตอบคำถามว่ามีความพร้อมหรือไม่​ และวันนี้ก่อนที่จะมีการเริ่มอภิปราย หากได้เห็นสัญญาณว่ามีการขัดขวางรัฐบาลก็จะได้รับผลเสียมากที่สุด พร้อมทั้งยอมรับว่าพรรคประชาชนเตรียมรับมือกับการประท้วงของฝ่ายรัฐบาล และสส.ของพรรคประชาชนแม่นในข้อบังคับและพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกคน​ ซึ่งก็ไม่ได้กังวลอะไร ยังเชิญชวนประชาชนให้รับชมการอภิปรายในวันนี้ เพราะมีไฮไลท์ที่ต้องจับตาในหลายประเด็น

เมื่อถามถึงหัวข้อญัตติดีลแลกประเทศหมายถึงอะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า​ คือสิ่งที่ประชาชนต้องสูญเสียไป เป็นต้นทุนของการเสียโอกาส รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ที่ต้องแลกกับการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นดีลแลกประเทศ เพื่อผลประโยชน์ของคนในตระกูลชินวัตร และพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนตระกูลชินวัตรจะครอบคลุมขนาดไหนนั้น​ ยอมรับว่า มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงอยากให้ติดตาม การอภิปรายใน 2 วันนี้ เพราะถือเป็นสาระสำคัญ ส่วนการอภิปรายจะมีมากกว่า​ นายทักษิณ​ ชินวัตร​ และนางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ขอใช้คำว่าคนในตระกูลชินวัตรดีกว่า เพราะครอบคลุมอยู่แล้ว และยืนยันว่าทุกคนที่ถูกพาดพิงจะยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และมีส่วนสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อชี้ให้เห็นว่า การจัดตั้งรัฐบาลนั้นไม่ชอบธรรม และเป็นดีลแลกประเทศจริง


เมื่อถามว่ากังวลว่าบุคคลภายนอกจะฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าไม่ห่วง เพราะตามบทข้อบังคับ ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว หากพาดพิงบุคคลภายนอก และเรามั่นใจในข้อมูล ว่าไม่น่าจะถูกฟ้องร้องอะไร

เมื่อถามกรณีที่นายทักษิณ​ ให้สัมภาษณ์ว่า​ ไม่กลัวยุทธการ​ โรยเกลือของพรรคฝ่ายค้าน แต่จะโรยน้ำตาลกลับ ผู้นำฝ่ายค้าน​ ระบุว่า หากเขาโรยน้ำตาลกลับมาจริงๆ ก็อาจจะเป็นการอภิปรายที่มีสีสัน แต่มั่นใจว่าพรรคฝ่ายค้านจะกรีดแผล และหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากฝ่ายค้านไม่สามารถโหวตถอด นายกรัฐมนตรีได้ แต่การดำเนินการหลังจากนี้จะสร้างแรงสะเทือนถึงรัฐบาลได้

เมื่อถามย้ำว่า คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณที่ผ่านมาเหมือนมีนัยว่าการอภิปรายไม่ได้มีอะไร เหมือนกับมีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ อยากให้รอดูการอภิปราย ว่าจะมีการอยู่กับฝ่ายรัฐบาลอย่างที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ และข้อมูลที่จะนำเสนอใน 2 วันนี้ จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน​ คนที่มีดีลไม่ใช่พรรคประชาชนหรือพรรคฝ่ายค้าน แต่เป็นการดีลระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล​ เพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อน


เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคภูมิใจไทยดีลกับพรรคประชาชน เพื่อหวังผล​ 44 สส.​ คดีแก้ม.​112 นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ ไม่เกี่ยว เพราะการอภิปรายจะมีการพาดพิงหลายกระทรวง มีรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลที่นำเสนอ ทุกคนมีเอกสิทธิ์ความเป็นสส.​คุ้มครอง ดังนั้นทุกหลักฐานที่เปิดเผย จะนำไปสู่การยื่นขอถอดถอนรัฐมนตรี​ที่ไม่สามารถตอบข้อชี้แจงได้​ เพื่อจะชี้ให้เห็นจุดเริ่มต้นของปัญหา อย่างไรก็ตามดีลแลกประเทศ เราไม่ได้หมายถึงการพานายทักษิณกลับบ้าน เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง

ส่วนการเพิ่มวันอภิปรายนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าฝั่งรัฐบาลสามารถควบคุมเวลาได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นก่อนเปิดการประชุมในวันนี้ หากมีการตีรวน จากฝั่งรัฐบาล จนทำให้การอภิปรายไม่จบใน 2 วัน ก็ต้องโทษฝั่งรัฐบาล และคาดหวังว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีอยู่ตอบคำถาม มากที่สุด แต่เชื่อว่าท่านคงมีภารกิจครอบครัว คงไปกะเกณฑ์ไม่ได้ ว่าต้องอยู่กี่ชั่วโมง

ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านให้เวลา ร้อยตำรวจเอกเฉลิม​ อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย​ ในการอภิปรายรัฐบาล นายณัฐพงษ์กล่าวว่าขอให้รอดูหน้างาน เพราะมีเสียงสะท้อนจากฝั่งรัฐบาล แต่ฝ่ายค้านก็มองว่าให้โอกาสสมาชิกทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าสังกัดพรรคใด หากมีข้อมูลที่จะตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม แต่ทางวิปฝ่ายค้านยังไม่เคยเจรจา โดยตรงกับร้อยตำรวจเอกเฉลิม เพียงแต่ได้รับการประสานในทางอ้อมเท่านั้น

ส่วนกรณีที่จะให้เวลาการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน 10 นาที​ ให้พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอภิปราย​ นายณัฐพงษ์กล่าวว่าถือว่าเป็นเวลาที่คุ้มค่า และที่ผ่านมาไม่ได้เห็นบทบาทของพลเอกประวิตรในสภามากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าติดตาม​

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า​ ประเด็นที่จะอภิปรายในวันนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาลแล้ว ยังมีเรื่องการทุจริต ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี หรือตัวรัฐมนตรี และมีข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน และมีความเป็นไปได้สูง ที่จะนำไปสู่การถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้จริง .319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]