“อนุทิน”​ เปิดเวที​ E-SAN Life drive ขับเคลื่อนอีสานสู่อนาคต​

ศรีสะเกษ​ 22 มี.ค. – “อนุทิน”​ เปิดเวที​ E-SAN Life drive ขับเคลื่อนอีสานสู่อนาคต​ หวังดึงศักยภาพ​ ทำประชาชนก้าวอย่างมั่นคง​ ชม​ “อาคม” สมัยเป็น​ รมว.คลัง​ หนุน​งาน “ศักดิ์​สยาม” ขับเคลื่อนคมนาคมขนส่งเชื่อมอีสานใต้​สมบูรณ์​ ก่อนขอบคุณ​ สส.​ แม้ภารกิจแน่น​ก่อนรับศึกอภิปราย​ แต่ไม่ทิ้งประชาชน​


นายอนุทิน​ ชาญ​วีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ กล่าวปาฐกถา​ในงาน​ E-SAN Life drive ขับเคลื่อนอีสานสู่อนาคต​ 8 จังหวัด​ 8 วิสัยทัศน์​ โดยมีนายอาคม​ เติม​พิทยา​ไพสิฐ​ กรรมการกฤษฎีกา นายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และข้าราชการระดับสูง​ ผู้ว่าราชการจังหวัด​ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง​ ประกอบด้วย ศรีสะเกษ อุบลราชธานี​ อำนาจเจริญ​ ยโสธร​ นครราชสีมา​ ชัยภูมิ​ สุรินทร์​ และบุรีรัมย์

นายอนุทิน​ กล่าวขอขอบคุณทุกท่านที่ได้สละเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายอาคม ซึ่งเป็นคนศรีสะเกษ ตนมั่นใจว่าด้วยประสบการณ์ของนายอาคมจะทำให้การประชุมวันนี้มีคุณค่าและมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นทั้งอดีตเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และด้วยคุณสมบัติที่ได้รับใช้ชาติมา​ สิ่งที่จะมาถ่ายทอดให้ได้รับฟังจากประสบการณ์จะทำให้มีการต่อยอดแนวทาง ทำให้การขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของความหมาย ความหวังที่จะมีความหมายและมีความหวังที่จะประสบความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งความพิเศษของงานในวันนี้เรามาประชุมร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทางภาคเอกชนข้าราชการประจำ ภาคส่วนการเมืองและประชาชน ซึ่งจะต้องใช้พลังของเราทั้งหมดนี้ในการขับเคลื่อน ให้ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ ได้มีการบรรลุผลสัมฤทธิ์ จากรากฐานต่างๆ จากที่ได้วางกันมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว อาจจะพูดถึงอนาคตในแบบของการแลกเปลี่ยนมุมมอง ทางภาครัฐเอกชน​ และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 8 จังหวัดอีสานไลฟ์ไดร์ฟ​ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถก้าวไปได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​วันนี้ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยทุกกรม​ ปลัดกระทรวง​ อธิบดีทุกคนผู้ว่าราชการจังหวัด จะได้มารับฟังและให้ความเห็นจากผู้ที่เราเชื่อว่ามีบทบาทโดดเด่นทางด้านเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด เพื่อที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของทุกจังหวัดมาร่วมประชุมในวันนี้ด้วยจะทำให้เกิดการสะท้อนความต้องการ ความเห็นคำแนะนำของประชาชน ซึ่งเราทุกคนพร้อมที่จะรับฟัง เส้นทางกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้คำปรึกษา​ เพิ่มโอกาสเสริมสร้างรายได้


นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ แผนพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างปี 2566-2570 มีการกำหนดทิศทางต้องพัฒนาสร้างสารตอนล่างสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เน้นพัฒนาสามมิติ คือ​ Green ฐานการผลิตสินค้าภาคเกษตรและอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเกษตรปลอดภัยเป็นเกษตรอินทรีย์ ภายใต้บีซีจีโมเดล​ Gate เป็นศูนย์กลางเป็นประตู เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน เพราะทุกประเทศจะต้องผ่านประเทศไทยโดยมีไทยในการเป็นจุดเชื่อมโยง Halloween เศรษฐกิจเศรษฐกิจชายแดนพัฒนาการการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การขนส่งระบบคมนาคม และ​ Growth การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งพัฒนาการแพทย์การศึกษาเศรษฐกิจ ซึ่งเราถือว่าจะทำให้ภาคอีสานไปสู่จากที่มั่นคงที่จะมีการศึกษาที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยีที่ทันโลกเยาวชนได้รับการศึกษาในบ้านเกิดในภูมิลำเนาของตนเอง และยกระดับคุณภาพชีวิตของตนทุกช่วงวัย

นายอนุทิน ยังกล่าว​ชื่นชมการทำงานของนายอาคมในอดีต​ ซึ่งเป็นการทำงานสานต่อในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา และขณะนั้นเราก็เป็นรัฐบาล พวกเรานี่แหละที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทำได้เกือบหมด เพราะเวลานายศักดิ์สยาม​ ชิดชอบ​ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม​ ส่วนนายอาคมก็ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ท่านก็สนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่​ มีเงินมา​ มีโปรเจ​กต์​ มีโครงการต่างๆ​ ทั้งทำรถไฟความเร็วสูง​ รถไฟรางคู่ สะพานมิตรภาพที่ข้ามแม่น้ำโขงตั้ง 2-3 แห่ง​ เพราะฉะนั้นการเชื่อมต่อของเราที่จะเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้า ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบมันเชื่อมต่อได้แล้ว บางส่วนผ่านประเทศ ที่ยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่ แต่อย่างน้อยการเชื่อมต่อไม่มีการขาดตอน เราจะต้องเชื่อว่าทำให้ประเทศไทยของเราได้เปรียบสูงสุดจากการที่เรามีระบบสาธารณูปโภค การขนส่งที่มั่นคงแข็งแรงมากที่สุด หากเรามีกันบริหารจัดการที่ดีเราจะเป็นศูนย์กลางระบบขนส่งของอาเซียน

นายอนุทิน​ กล่าวขอบคุณ สส. ที่เดินทางมารับฟังในวันนี้​ และพรุ่งนี้ต้องกลับไปประชุมพรรค​ วันมะรืนต้องกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในการร่วมประชุมญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ​ ซึ่งรัฐบาลเราก็พร้อมไปฟังและพร้อมชี้แจง ต้องขอบคุณทุกคนที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน วันนี้มาเพื่อประโยชน์ของประชาชน​ ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และขอบคุณข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในการให้ความสำคัญร่วมเดินทางมารับฟังนโยบายและความร่วมมือ ที่ได้นำไปปฏิบัติ ขอให้ทุกท่านได้ให้ความร่วมมือเช่นนี้ตลอดไป เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน.-319​-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์พื้นที่ชายแดน

ทำเนียบ 8 ส.ค.- ศบ.ทก. ย้ำ 13 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะการหยุดยิง ประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด เผยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำแต่ละประเทศจะประสานพื้นที่ นำอาเซียนลงติดตามเป็นระยะ ชี้การพูดคุยระดับ RBC เริ่มปลายเดือนนี้ หากเหตุการณ์ปะทุอีก เรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญได้ทันที พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมาตรวจพบว่า ฝ่ายกัมพูชา ตรึงกำลังทหารบริเวณชายแดนพื้นที่สำคัญ พร้อมมีการเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยจะต้องมีการตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากนั้นยังมีการตรวจพบการบินของอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายยั่วยุในบางจุด ทางทหารไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการตรวจตราตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง โฆษก ศบ.ทก. ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ว่า ได้มีการลงนามข้อตกลง 13 ข้อ โดยเป็นข้อตกลงที่สำคัญและเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะรายละเอียดข้อที่ 1 […]

เด้งนายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เซ่นจับผับ

ก.มหาดไทย 8 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผยผลปฏิบัติการ “ZERO DRUG” เด้ง นายอำเภอธัญบุรี-5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เซ่นจับผับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8เดือน 8ลุย ที่นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คนว่า จะมีการเด้ง 5เสือ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ส่วนรายละเอียดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงอีกครั้ง โดยตามระเบียบของตำรวจถ้ามีการจับกุม ในพื้นที่5 เสือสถานีตำรวจ จะต้องรับผิดชอบ จะมีการย้ายมาประจำที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่มีการแจ้ง กระบวนการของปกครองก็จะต้องมีการย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าปฏิบัติการเมื่อคืนนี้เป็นกำลังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง กับตำรวจหรือเฉพาะฝ่ายปกครอง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่แน่ใจ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าเป็นกองกำลังร่วม ที่ผ่านมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำรวจจะไม่ถูกเด้ง นายภูมิธรรมกล่าวว่า คงจะเอาผิดคนที่เกี่ยวข้อง ก็คงมีการจัดการตามระเบียบ […]