กองทัพไทย 21 มี.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ปชด. ครั้งที่ 2 รับทราบสถานการณ์ 3 ตัด รับทราบ และติดตามการประเมินผล ความมั่นคงชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน(คกก. ปชด.) ได้จัดการประชุมคณะกรรมการ อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ครั้งที่ 2
โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีพล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการหายสูงสุด (ผบ.ทสส.) พร้อมเสนาธิการเหล่าทัพ และเลขาธิการปปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม โดยได้รับทราบสถานการณ์ในพื้นที่ภายหลังการระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง การงดการจ่ายกระแสไฟฟ้าและสัญญาโทรคมนาคม (มาตรการ 3 ตัด) รวมทั้งปฏิบัติการ Seal Stop Safe ของรัฐบาล
รวมทั้งการรายงานผลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผลการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานความมั่นคงบริเวณชายแดน ของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะ ผอ.ศอ.ปชด. การดำเนินการส่งกลับชาวต่างชาติที่ถูกชักชวนไปทำงานผิดกฎหมายในเมียนมา เป็นต้น
จากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาการจัดตั้งคณะที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ให้กับคณะกรรมการ ปชด. และ ศอ.ปชด. ตลอดจนพิจารณาจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรับผิดชอบ การแก้ไขปัญหาภัยคุกคามเฉพาะด้าน อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจด้านยาเสพติดทางบก ทางทะเล ทางอากาศ (ศปฉ.331 ศปฉ.332 และ ศปฉ.333) และศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการค้ามนุษย์ (ศปฉ.88) ตลอดจนพิจารณาข้อเสนอมาตรการควบคุมเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ มาตรการระงับสัญญาณโทรคมนาคมที่ส่งผ่านเคเบิลใยแก้วนำแสง มาตรการควบคุมบุคคลต่างชาติเข้าพื้นที่อำเภอชายแดน และมาตรการควบคุมสินค้าผ่านแดน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้สำเร็จเป็นรูปธรรม และเกิดความยั่งยืน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวชื่นชมทุกหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายด้วยความเสียสละ รวมทั้งเห็นชอบข้อเสนอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยินดีที่จะสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็นในการเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ต่อไป-313 -สำนักข่าวไทย