“มท.1” นำข้าราชการมหาดไทย รับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ

เมืองทอง ​20 มี.ค.- “มท.1” นำข้าราชการมหาดไทย รับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อน 5 ประเด็นหลัก กำชับรู้เท่าทันปัญหา-สร้างโอกาส-ใช้กลไกที่มี “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” ให้ประชาชน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีรับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ และการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

โดยมี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวรายงานว่า เนื่องในโอกาสมงคลที่กระทรวงมหาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เป็นเกียรติประวัติ และเชิดชูเกียรติที่ได้ปฏิบัติงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ด้วยความเสียสละ วิริยะ อุตสาหะ อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ในการนี้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดพิธีรับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพรมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมอบนโยบายสำคัญให้แก่หัวหน้าส่วนราชการในส่วนภูมิภาค เพื่อติดตามความก้าวหน้า กำกับ เร่งรัด การขับเคลื่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป


ขณะที่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นนักปกครองที่ดีมีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่น แน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดินและดำเนินชีวิต โดยยึดมั่นในหลักธรรม
คำสอนแห่งศาสนาตามแนวทางในพระบรมราโชวาทตลอดไป

จากนั้น ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย จำนวน 20 คน และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมด 76 จังหวัด เข้ารับพระราชทานเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ ต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบาย โดยระบุว่า วันนี้ถือเป็นวันดีที่ชาวกระทรวงมหาดไทยได้มาอยู่ร่วมกันในพิธีรับพระราชทานเหรียญที่ระลึกพระราชทานให้กับผู้บริหาร และข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือว่าเป็นวันที่มีความหมาย มีความสำคัญ และเป็นวันที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และในฐานะที่เป็นข้าราชการในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความตั้งใจ และเสียสละ


นายอนุทิน​กล่าวว่า​ ปลัดจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเปรียบเสมือนมือขวาและมือซ้ายของผู้ว่าราชการจังหวัดในการขับเคลื่อน 5 นโยบายหลักของกระทรวงมหาดไทย คือ 1) การจัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพล 2) การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด 3) การสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน 4) การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน และ 5) น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด หลักสำคัญที่ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคนจะต้องมีคือการตระหนักว่าโลกหมุนเร็วและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่าความทุกข์ใหม่ๆ ของพี่น้องประชาชนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และในขณะเดียวกันโอกาสแห่งความสุขของพี่น้องประชาชนก็สามารถมีได้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นถ้าเราจะบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้จริงก็ต้องรู้เท่าทันเหตุแห่งทุกข์ และรู้จักหาโอกาสให้ความสุขของพี่น้องประชาชน

นายอนุทิน​ย้ำว่า ใครจะไปรู้ว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลายมาเป็นปัญหาแห่งทุกข์ของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีส่วนร่วมในการหาแนวทางแก้ไข เพราะปัจจุบันมีคนถูกหลอกให้โอนเงิน เปิดบัญชีม้า และหลอกไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจไทย

“ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้เท่าทันปัญหานี้แต่เราต้องหากลไกในการช่วยกันที่จะสอดส่องดูแล และช่วยกันป้องปรามผู้ที่ถูกหลอก ผู้ที่ถูกเอาเปรียบรวมถึงผู้ที่เสียโอกาสต่างๆด้วย จึงขอฝากให้ทุกท่านหาวิธีคิดในการช่วยเหลือพวกเขา ไม่ใช่แค่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่ยังมีปัญหาอื่นๆที่เราต้องคิดอยู่เสมอว่าทำอะไรได้มากกว่านี้ และที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ใช้ได้หรือไม่ เพราะยังมีปัญหาอื่นอีกมากมาย หากช่วยพี่น้องประชาชนแก้ปัญหาได้ ก็จะสามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พวกเขาได้สมดังเจตนารมย์ที่วางไว้” นายอนุทิน​ กล่าว

นายอนุทิน​ กล่าวอีกว่า​ บางพื้นที่มีปัญหาเรื่องความสงบ ยาเสพติดเรื่องน้ำ เรื่องไฟ และสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นต้องมีการใช้ความคิด ใช้กลไกของทุกภาคส่วนที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีศูนย์ดำรงธรรมสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจัง ในการรับฟังประชาชน ของเครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านดูแลชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ทันท่วงที ขณะเดียวกัน ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยก็ได้เสนอแก้กฎหมาย เพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างต่อเนื่องแล้ว

นอกจากนี้ ขอให้เท่าทันในการใช้โอกาส โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งท่านต้องมีหัวใจที่กว้างไกล คิดวิธีว่าควรทำอย่างไร ให้พี่น้องประชาชนมีปากท้องที่ดี มีอาชีพการงาน และสามารถเสริมสร้างรายได้เพื่อจุนเจือตัวเขาเองและครอบครัวได้ จึงขอให้นำซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาช่วย เพื่อยกระดับภูมิปัญญาชาวบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

นายอนุทินยังฝากความหวังในการพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอไปจนถึงหน่วยย่อยที่สุดของประเทศที่เรียกว่า “หมู่บ้าน” ไว้ในมือของทุกท่านที่จะนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ และขอให้พึงระลึกไว้ว่า การทุ่มเทเสียสละปฏิบัติหน้าที่ จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและเกียรติยศศักดิ์ศรีแก่ท่านและครอบครัว โดยตนในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะคอยดูแลขวัญและกำลังใจทุกท่านผู้ซึ่งเป็นครอบครัวมหาดไทย ครอบครัวเดียวกัน ให้ช่วยกันนำพาประเทศนี้ไปสู่ความเจริญต่อไป.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย