“มท.1” นำข้าราชการมหาดไทย รับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ

เมืองทอง ​20 มี.ค.- “มท.1” นำข้าราชการมหาดไทย รับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อน 5 ประเด็นหลัก กำชับรู้เท่าทันปัญหา-สร้างโอกาส-ใช้กลไกที่มี “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” ให้ประชาชน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีรับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ และการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

โดยมี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวรายงานว่า เนื่องในโอกาสมงคลที่กระทรวงมหาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เป็นเกียรติประวัติ และเชิดชูเกียรติที่ได้ปฏิบัติงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ด้วยความเสียสละ วิริยะ อุตสาหะ อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ในการนี้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดพิธีรับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพรมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมอบนโยบายสำคัญให้แก่หัวหน้าส่วนราชการในส่วนภูมิภาค เพื่อติดตามความก้าวหน้า กำกับ เร่งรัด การขับเคลื่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป


ขณะที่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นนักปกครองที่ดีมีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่น แน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดินและดำเนินชีวิต โดยยึดมั่นในหลักธรรม
คำสอนแห่งศาสนาตามแนวทางในพระบรมราโชวาทตลอดไป

จากนั้น ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย จำนวน 20 คน และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมด 76 จังหวัด เข้ารับพระราชทานเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ ต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบาย โดยระบุว่า วันนี้ถือเป็นวันดีที่ชาวกระทรวงมหาดไทยได้มาอยู่ร่วมกันในพิธีรับพระราชทานเหรียญที่ระลึกพระราชทานให้กับผู้บริหาร และข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือว่าเป็นวันที่มีความหมาย มีความสำคัญ และเป็นวันที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และในฐานะที่เป็นข้าราชการในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความตั้งใจ และเสียสละ


นายอนุทิน​กล่าวว่า​ ปลัดจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเปรียบเสมือนมือขวาและมือซ้ายของผู้ว่าราชการจังหวัดในการขับเคลื่อน 5 นโยบายหลักของกระทรวงมหาดไทย คือ 1) การจัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพล 2) การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด 3) การสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน 4) การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน และ 5) น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด หลักสำคัญที่ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคนจะต้องมีคือการตระหนักว่าโลกหมุนเร็วและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่าความทุกข์ใหม่ๆ ของพี่น้องประชาชนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และในขณะเดียวกันโอกาสแห่งความสุขของพี่น้องประชาชนก็สามารถมีได้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นถ้าเราจะบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้จริงก็ต้องรู้เท่าทันเหตุแห่งทุกข์ และรู้จักหาโอกาสให้ความสุขของพี่น้องประชาชน

นายอนุทิน​ย้ำว่า ใครจะไปรู้ว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลายมาเป็นปัญหาแห่งทุกข์ของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีส่วนร่วมในการหาแนวทางแก้ไข เพราะปัจจุบันมีคนถูกหลอกให้โอนเงิน เปิดบัญชีม้า และหลอกไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจไทย

“ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้เท่าทันปัญหานี้แต่เราต้องหากลไกในการช่วยกันที่จะสอดส่องดูแล และช่วยกันป้องปรามผู้ที่ถูกหลอก ผู้ที่ถูกเอาเปรียบรวมถึงผู้ที่เสียโอกาสต่างๆด้วย จึงขอฝากให้ทุกท่านหาวิธีคิดในการช่วยเหลือพวกเขา ไม่ใช่แค่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่ยังมีปัญหาอื่นๆที่เราต้องคิดอยู่เสมอว่าทำอะไรได้มากกว่านี้ และที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ใช้ได้หรือไม่ เพราะยังมีปัญหาอื่นอีกมากมาย หากช่วยพี่น้องประชาชนแก้ปัญหาได้ ก็จะสามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พวกเขาได้สมดังเจตนารมย์ที่วางไว้” นายอนุทิน​ กล่าว

นายอนุทิน​ กล่าวอีกว่า​ บางพื้นที่มีปัญหาเรื่องความสงบ ยาเสพติดเรื่องน้ำ เรื่องไฟ และสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นต้องมีการใช้ความคิด ใช้กลไกของทุกภาคส่วนที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีศูนย์ดำรงธรรมสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจัง ในการรับฟังประชาชน ของเครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านดูแลชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ทันท่วงที ขณะเดียวกัน ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยก็ได้เสนอแก้กฎหมาย เพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างต่อเนื่องแล้ว

นอกจากนี้ ขอให้เท่าทันในการใช้โอกาส โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งท่านต้องมีหัวใจที่กว้างไกล คิดวิธีว่าควรทำอย่างไร ให้พี่น้องประชาชนมีปากท้องที่ดี มีอาชีพการงาน และสามารถเสริมสร้างรายได้เพื่อจุนเจือตัวเขาเองและครอบครัวได้ จึงขอให้นำซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาช่วย เพื่อยกระดับภูมิปัญญาชาวบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

นายอนุทินยังฝากความหวังในการพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอไปจนถึงหน่วยย่อยที่สุดของประเทศที่เรียกว่า “หมู่บ้าน” ไว้ในมือของทุกท่านที่จะนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ และขอให้พึงระลึกไว้ว่า การทุ่มเทเสียสละปฏิบัติหน้าที่ จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและเกียรติยศศักดิ์ศรีแก่ท่านและครอบครัว โดยตนในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะคอยดูแลขวัญและกำลังใจทุกท่านผู้ซึ่งเป็นครอบครัวมหาดไทย ครอบครัวเดียวกัน ให้ช่วยกันนำพาประเทศนี้ไปสู่ความเจริญต่อไป.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย