“มท.1” นำข้าราชการมหาดไทย รับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ

เมืองทอง ​20 มี.ค.- “มท.1” นำข้าราชการมหาดไทย รับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อน 5 ประเด็นหลัก กำชับรู้เท่าทันปัญหา-สร้างโอกาส-ใช้กลไกที่มี “บำบัดทุกข์บำรุงสุข” ให้ประชาชน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีรับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ และการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยให้แก่ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

โดยมี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวรายงานว่า เนื่องในโอกาสมงคลที่กระทรวงมหาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญที่ระลึกตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เป็นเกียรติประวัติ และเชิดชูเกียรติที่ได้ปฏิบัติงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ด้วยความเสียสละ วิริยะ อุตสาหะ อันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ในการนี้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดพิธีรับเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ ให้แก่ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพรมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมอบนโยบายสำคัญให้แก่หัวหน้าส่วนราชการในส่วนภูมิภาค เพื่อติดตามความก้าวหน้า กำกับ เร่งรัด การขับเคลื่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหา “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป


ขณะที่ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นนักปกครองที่ดีมีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มุ่งมั่น แน่วแน่ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดินและดำเนินชีวิต โดยยึดมั่นในหลักธรรม
คำสอนแห่งศาสนาตามแนวทางในพระบรมราโชวาทตลอดไป

จากนั้น ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย จำนวน 20 คน และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมด 76 จังหวัด เข้ารับพระราชทานเหรียญที่ระลึกพระราชทานฯ ต่อหน้า พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบาย โดยระบุว่า วันนี้ถือเป็นวันดีที่ชาวกระทรวงมหาดไทยได้มาอยู่ร่วมกันในพิธีรับพระราชทานเหรียญที่ระลึกพระราชทานให้กับผู้บริหาร และข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือว่าเป็นวันที่มีความหมาย มีความสำคัญ และเป็นวันที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และในฐานะที่เป็นข้าราชการในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อพี่น้องประชาชน ด้วยความตั้งใจ และเสียสละ


นายอนุทิน​กล่าวว่า​ ปลัดจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเปรียบเสมือนมือขวาและมือซ้ายของผู้ว่าราชการจังหวัดในการขับเคลื่อน 5 นโยบายหลักของกระทรวงมหาดไทย คือ 1) การจัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพล 2) การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด 3) การสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน 4) การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน และ 5) น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด หลักสำคัญที่ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคนจะต้องมีคือการตระหนักว่าโลกหมุนเร็วและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่าความทุกข์ใหม่ๆ ของพี่น้องประชาชนสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และในขณะเดียวกันโอกาสแห่งความสุขของพี่น้องประชาชนก็สามารถมีได้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นถ้าเราจะบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้จริงก็ต้องรู้เท่าทันเหตุแห่งทุกข์ และรู้จักหาโอกาสให้ความสุขของพี่น้องประชาชน

นายอนุทิน​ย้ำว่า ใครจะไปรู้ว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะกลายมาเป็นปัญหาแห่งทุกข์ของพี่น้องประชาชนในขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยจึงมีส่วนร่วมในการหาแนวทางแก้ไข เพราะปัจจุบันมีคนถูกหลอกให้โอนเงิน เปิดบัญชีม้า และหลอกไปทำงานในแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจไทย

“ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้เท่าทันปัญหานี้แต่เราต้องหากลไกในการช่วยกันที่จะสอดส่องดูแล และช่วยกันป้องปรามผู้ที่ถูกหลอก ผู้ที่ถูกเอาเปรียบรวมถึงผู้ที่เสียโอกาสต่างๆด้วย จึงขอฝากให้ทุกท่านหาวิธีคิดในการช่วยเหลือพวกเขา ไม่ใช่แค่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่ยังมีปัญหาอื่นๆที่เราต้องคิดอยู่เสมอว่าทำอะไรได้มากกว่านี้ และที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ใช้ได้หรือไม่ เพราะยังมีปัญหาอื่นอีกมากมาย หากช่วยพี่น้องประชาชนแก้ปัญหาได้ ก็จะสามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พวกเขาได้สมดังเจตนารมย์ที่วางไว้” นายอนุทิน​ กล่าว

นายอนุทิน​ กล่าวอีกว่า​ บางพื้นที่มีปัญหาเรื่องความสงบ ยาเสพติดเรื่องน้ำ เรื่องไฟ และสิ่งแวดล้อม ฉะนั้นต้องมีการใช้ความคิด ใช้กลไกของทุกภาคส่วนที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีศูนย์ดำรงธรรมสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจัง ในการรับฟังประชาชน ของเครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านดูแลชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ทันท่วงที ขณะเดียวกัน ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยก็ได้เสนอแก้กฎหมาย เพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างต่อเนื่องแล้ว

นอกจากนี้ ขอให้เท่าทันในการใช้โอกาส โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งท่านต้องมีหัวใจที่กว้างไกล คิดวิธีว่าควรทำอย่างไร ให้พี่น้องประชาชนมีปากท้องที่ดี มีอาชีพการงาน และสามารถเสริมสร้างรายได้เพื่อจุนเจือตัวเขาเองและครอบครัวได้ จึงขอให้นำซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาช่วย เพื่อยกระดับภูมิปัญญาชาวบ้านและภูมิปัญญาท้องถิ่น เนื่องจากเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

นายอนุทินยังฝากความหวังในการพัฒนาพื้นที่ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอไปจนถึงหน่วยย่อยที่สุดของประเทศที่เรียกว่า “หมู่บ้าน” ไว้ในมือของทุกท่านที่จะนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ และขอให้พึงระลึกไว้ว่า การทุ่มเทเสียสละปฏิบัติหน้าที่ จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและเกียรติยศศักดิ์ศรีแก่ท่านและครอบครัว โดยตนในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะคอยดูแลขวัญและกำลังใจทุกท่านผู้ซึ่งเป็นครอบครัวมหาดไทย ครอบครัวเดียวกัน ให้ช่วยกันนำพาประเทศนี้ไปสู่ความเจริญต่อไป.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

RBC ไทย-กัมพูชา (ทภ.1) เห็นพ้อง 13 ข้อหยุดยิง ตอบรับเพิ่ม 3 ประเด็น

สระแก้ว 22 ส.ค.- ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC ฝ่ายกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ตั้งชุดประสานงานร่วม แต่ไม่ตอบรับแก้ปัญหา MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนถกวง JBC แทน พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงด้วยดี ตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิง จากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทยเสนอ 4 ประเด็น คือ […]

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1

สระแก้ว 22 ส.ค.-เริ่มแล้ว ประชุม RBC ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 รอผล “กัมพูชา” ตอบรับ 3 ข้อ เวลา 10.00 น. ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 เริ่มแล้วสำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงต้นได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออกเพื่อเข้าสู่วาระการประชุม ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า ในวงประชุมวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลง คือ 13 ข้อจากเดิม GBC เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ ของฝ่ายไทย 3 […]

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย