เพื่อไทยผุด 20 ขุนพล พิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ

รัฐสภา 20 มี.ค.-“เพื่อไทย” ผุด 20 ขุนพล พิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ​ “ประยุทธ์-หมอชลน่าน-สุทิน” นำทีม ย้ำ ไม่มีองครักษ์ “นายกฯ แพทองธาร” เหน็บ เพื่อนฝ่ายค้านบางคนกินยาผิดซอง ส่งสัญญาณสร้างความวุ่นวาย ยันไม่ผิดข้อบังคับไม่ประท้วง


สส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า จากที่มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในสัปดาห์หน้า หนึ่งในประเด็นที่อยู่ในความสนใจคือเรื่ององค์รักษ์พิทักษ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เราสบายๆไม่มีการตื่นตระหนก และเราทำหน้าที่ของทุกฝ่าย รวมถึงเคารพในการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน และเราจะไม่มีองครักษ์ แต่ทีมของเราชื่อว่าเป็นทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุม ซึ่งไม่ได้เกิดมาเพราะจะไปประท้วงอะไร หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงไปตรงมาทำงานด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน จะไม่มีใครลุกประท้วงและท่านจะได้อภิปรายอย่างสบายๆแน่นอน เพราะหากมีการประท้วงก็จะตัดเวลาของฝ่ายรัฐบาลออกไป เราเห็นว่าเวทีนี้เป็นเวทีแถลงผลงานของรัฐบาลเช่นกัน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวจะมีที่ปรึกษาพิเศษนำโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า จนถึงวันนี้เราไม่มั่นใจว่าฝ่ายค้านอยากอภิปรายจริงหรือไม่ เพราะมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การตั้งคำถาม เพราะหากคนที่อยากอภิปรายอะไรที่เป็นปัญหาเขาจะไม่ทำ แต่นี่เขาเลือกจะทำ เช่น การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก ทั้งที่ประธานสภาบอกว่าใส่ไม่ได้ และบอกให้แก้ก็ไม่แก้ มาแก้จนวินาทีสุดท้าย จึงตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วฝ่ายค้านไม่ได้อยากอภิปราย เพียงแค่อยากสร้างคอนเทนต์และโปรโมทโฆษณาพรรคตนเอง เพื่อหวังผลไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่


“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพยายามทำผิดข้อบังคับ เพราะหลังๆ เพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านบางคนซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคยชื่นชม และเคยเห็นการทำงานของเขาอยากสร้างสรรค์ เหมือนเป็นการกินยาผิดซอง ตาขวางๆ ปูดๆ โปนๆ บางคนบอกว่าเป็นพฤติกรรมเถื่อน ถ่อย หยาบคายหรือไม่ ผิดไปจากท้วงทำนองแบบเดิม ที่เคยทำงานอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้น เราจึงเฝ้าระวังและตั้งคำถามต่อด้วยว่าหรือไม่ต้องการอภิปราย แต่หวังมาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลเราประท้วงก็จะถูกตัดเวลาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะไปสมวัตถุประสงค์ของเขาคือจากอภิปรายวันที่ 24-25 มี.ค. ก็จะไปอภิปรายต่อในวันที่ 26 มี.ค. วัตถุประสงค์คือสร้างคอนเทนต์หวังคะแนนหรือไม่ ดังนั้น หากพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่าสิ่งที่ท่านคิด สิ่งที่ท่านหวัง ไม่ได้กินพวกเราหรอก เรารู้ได้ เราคิดทันท่าน ดังนั้น จึงเปิดตัวทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมพรรคเพื่อไทย โดยจะไม่มีการแบ่งเป็นชุดใดๆ ทุกคนพร้อมทำงานตลอด 24 ชม.” นายอนุสรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากการอภิปรายมีการพาดพิงชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีการประท้วงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า “ชัดเจนครับ ทุกครั้งที่มีการประท้วงเราจะชี้ข้อบังคับชัดเจนว่าผิดข้อบังคับข้อใดและผิดอย่างไร อำนาจในการวินิจฉัยไม่ใช่อำนาจของพวกเรา เพียงแค่เราทำหน้าที่สื่อสารไปยังประธาน ทั้งนี้ ความรับผิดชอบทางการเมืองนั้นอยู่สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายคือทางการเมืองประชาชนดูอยู่แต่ทางกฎหมายอย่างที่ประธานบอกให้เปลี่ยนชื่อ เขาก็บอกว่าไม่เปลี่ยนหากจะมีการฟ้องก็ฟ้องเลย แต่ประเด็นคือเขาจะฟ้องประธานด้วย ดังนั้น ขอให้ใช้ความชอบธรรมทางด้านกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมืองประกอบกัน ซึ่งนี่ไม่ได้ขู่ แต่เส้นแบ่งของการประพฤติผิดต่อการฝ่าฝืนจริยธรรม ฝ่าฝืนคุณธรรมทางการเมือง เราไม่ได้ทำหน้าที่ในการวินิจฉัย แต่เราทำหน้าที่ชี้ว่าการกระทำดังว่านั้น ขัดต่อการไม่เคารพหรือประมวลจริยธรรมของสส.หรือไม่ ”

ถามย้ำว่า หากผิดข้อบังคับจะประท้วงทันทีหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น แต่เราต้องดูว่าเนื้อหาที่เขาอภิปรายนั้นผิดข้อบังคับหรือไม่


เมื่อถามว่าอาจจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมนั้น เป็นการแสดงผลงานให้นายใหญ่เห็นหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจและไม่แน่ใจว่านายใหญ่หมายถึงใคร คนที่มาทั้งหมดเป็นสส. ซึ่งหากจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีก็ต้องชี้ให้ชัดว่านายกรัฐมนตรีทำงานผิดพลาดเรื่องอะไร บริหารราชการแผ่นดิน นโยบายผิดพลาดอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงลุกขึ้นชี้แจง ไม่มีความจำเป็นที่ชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะลุกขึ้นมา ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามแต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสิน คนตัดสินคือประชาชน ส่วนจะผิดข้อบังคับหรือไม่คนตัดสินคือประธาน ย้ำว่าหากฝ่ายค้านไม่ฝ่าฝืนข้อบังคับจะไม่มีการประท้วง และทุกครั้งที่ลุดขึ้นประท้วงฝ่ายค้านต้องผิดข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภานั้นประกอบด้วย นายประยุทธ์ นพ.ชลน่าน นายสุทิน นายอนุสรณ์ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี นายวิรัช พิมมะนิตย์ สส.กาฬสินธ์ุ นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย