เพื่อไทยผุด 20 ขุนพล พิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ

รัฐสภา 20 มี.ค.-“เพื่อไทย” ผุด 20 ขุนพล พิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ​ “ประยุทธ์-หมอชลน่าน-สุทิน” นำทีม ย้ำ ไม่มีองครักษ์ “นายกฯ แพทองธาร” เหน็บ เพื่อนฝ่ายค้านบางคนกินยาผิดซอง ส่งสัญญาณสร้างความวุ่นวาย ยันไม่ผิดข้อบังคับไม่ประท้วง


สส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า จากที่มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในสัปดาห์หน้า หนึ่งในประเด็นที่อยู่ในความสนใจคือเรื่ององค์รักษ์พิทักษ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เราสบายๆไม่มีการตื่นตระหนก และเราทำหน้าที่ของทุกฝ่าย รวมถึงเคารพในการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน และเราจะไม่มีองครักษ์ แต่ทีมของเราชื่อว่าเป็นทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุม ซึ่งไม่ได้เกิดมาเพราะจะไปประท้วงอะไร หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงไปตรงมาทำงานด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน จะไม่มีใครลุกประท้วงและท่านจะได้อภิปรายอย่างสบายๆแน่นอน เพราะหากมีการประท้วงก็จะตัดเวลาของฝ่ายรัฐบาลออกไป เราเห็นว่าเวทีนี้เป็นเวทีแถลงผลงานของรัฐบาลเช่นกัน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวจะมีที่ปรึกษาพิเศษนำโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า จนถึงวันนี้เราไม่มั่นใจว่าฝ่ายค้านอยากอภิปรายจริงหรือไม่ เพราะมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การตั้งคำถาม เพราะหากคนที่อยากอภิปรายอะไรที่เป็นปัญหาเขาจะไม่ทำ แต่นี่เขาเลือกจะทำ เช่น การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก ทั้งที่ประธานสภาบอกว่าใส่ไม่ได้ และบอกให้แก้ก็ไม่แก้ มาแก้จนวินาทีสุดท้าย จึงตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วฝ่ายค้านไม่ได้อยากอภิปราย เพียงแค่อยากสร้างคอนเทนต์และโปรโมทโฆษณาพรรคตนเอง เพื่อหวังผลไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่


“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพยายามทำผิดข้อบังคับ เพราะหลังๆ เพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านบางคนซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคยชื่นชม และเคยเห็นการทำงานของเขาอยากสร้างสรรค์ เหมือนเป็นการกินยาผิดซอง ตาขวางๆ ปูดๆ โปนๆ บางคนบอกว่าเป็นพฤติกรรมเถื่อน ถ่อย หยาบคายหรือไม่ ผิดไปจากท้วงทำนองแบบเดิม ที่เคยทำงานอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้น เราจึงเฝ้าระวังและตั้งคำถามต่อด้วยว่าหรือไม่ต้องการอภิปราย แต่หวังมาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลเราประท้วงก็จะถูกตัดเวลาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะไปสมวัตถุประสงค์ของเขาคือจากอภิปรายวันที่ 24-25 มี.ค. ก็จะไปอภิปรายต่อในวันที่ 26 มี.ค. วัตถุประสงค์คือสร้างคอนเทนต์หวังคะแนนหรือไม่ ดังนั้น หากพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่าสิ่งที่ท่านคิด สิ่งที่ท่านหวัง ไม่ได้กินพวกเราหรอก เรารู้ได้ เราคิดทันท่าน ดังนั้น จึงเปิดตัวทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมพรรคเพื่อไทย โดยจะไม่มีการแบ่งเป็นชุดใดๆ ทุกคนพร้อมทำงานตลอด 24 ชม.” นายอนุสรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากการอภิปรายมีการพาดพิงชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีการประท้วงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า “ชัดเจนครับ ทุกครั้งที่มีการประท้วงเราจะชี้ข้อบังคับชัดเจนว่าผิดข้อบังคับข้อใดและผิดอย่างไร อำนาจในการวินิจฉัยไม่ใช่อำนาจของพวกเรา เพียงแค่เราทำหน้าที่สื่อสารไปยังประธาน ทั้งนี้ ความรับผิดชอบทางการเมืองนั้นอยู่สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายคือทางการเมืองประชาชนดูอยู่แต่ทางกฎหมายอย่างที่ประธานบอกให้เปลี่ยนชื่อ เขาก็บอกว่าไม่เปลี่ยนหากจะมีการฟ้องก็ฟ้องเลย แต่ประเด็นคือเขาจะฟ้องประธานด้วย ดังนั้น ขอให้ใช้ความชอบธรรมทางด้านกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมืองประกอบกัน ซึ่งนี่ไม่ได้ขู่ แต่เส้นแบ่งของการประพฤติผิดต่อการฝ่าฝืนจริยธรรม ฝ่าฝืนคุณธรรมทางการเมือง เราไม่ได้ทำหน้าที่ในการวินิจฉัย แต่เราทำหน้าที่ชี้ว่าการกระทำดังว่านั้น ขัดต่อการไม่เคารพหรือประมวลจริยธรรมของสส.หรือไม่ ”

ถามย้ำว่า หากผิดข้อบังคับจะประท้วงทันทีหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น แต่เราต้องดูว่าเนื้อหาที่เขาอภิปรายนั้นผิดข้อบังคับหรือไม่


เมื่อถามว่าอาจจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมนั้น เป็นการแสดงผลงานให้นายใหญ่เห็นหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจและไม่แน่ใจว่านายใหญ่หมายถึงใคร คนที่มาทั้งหมดเป็นสส. ซึ่งหากจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีก็ต้องชี้ให้ชัดว่านายกรัฐมนตรีทำงานผิดพลาดเรื่องอะไร บริหารราชการแผ่นดิน นโยบายผิดพลาดอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงลุกขึ้นชี้แจง ไม่มีความจำเป็นที่ชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะลุกขึ้นมา ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามแต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสิน คนตัดสินคือประชาชน ส่วนจะผิดข้อบังคับหรือไม่คนตัดสินคือประธาน ย้ำว่าหากฝ่ายค้านไม่ฝ่าฝืนข้อบังคับจะไม่มีการประท้วง และทุกครั้งที่ลุดขึ้นประท้วงฝ่ายค้านต้องผิดข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภานั้นประกอบด้วย นายประยุทธ์ นพ.ชลน่าน นายสุทิน นายอนุสรณ์ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี นายวิรัช พิมมะนิตย์ สส.กาฬสินธ์ุ นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]