เพื่อไทยผุด 20 ขุนพล พิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ

รัฐสภา 20 มี.ค.-“เพื่อไทย” ผุด 20 ขุนพล พิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯ​ “ประยุทธ์-หมอชลน่าน-สุทิน” นำทีม ย้ำ ไม่มีองครักษ์ “นายกฯ แพทองธาร” เหน็บ เพื่อนฝ่ายค้านบางคนกินยาผิดซอง ส่งสัญญาณสร้างความวุ่นวาย ยันไม่ผิดข้อบังคับไม่ประท้วง


สส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า จากที่มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในสัปดาห์หน้า หนึ่งในประเด็นที่อยู่ในความสนใจคือเรื่ององค์รักษ์พิทักษ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เราสบายๆไม่มีการตื่นตระหนก และเราทำหน้าที่ของทุกฝ่าย รวมถึงเคารพในการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน และเราจะไม่มีองครักษ์ แต่ทีมของเราชื่อว่าเป็นทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุม ซึ่งไม่ได้เกิดมาเพราะจะไปประท้วงอะไร หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงไปตรงมาทำงานด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน จะไม่มีใครลุกประท้วงและท่านจะได้อภิปรายอย่างสบายๆแน่นอน เพราะหากมีการประท้วงก็จะตัดเวลาของฝ่ายรัฐบาลออกไป เราเห็นว่าเวทีนี้เป็นเวทีแถลงผลงานของรัฐบาลเช่นกัน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวจะมีที่ปรึกษาพิเศษนำโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า จนถึงวันนี้เราไม่มั่นใจว่าฝ่ายค้านอยากอภิปรายจริงหรือไม่ เพราะมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การตั้งคำถาม เพราะหากคนที่อยากอภิปรายอะไรที่เป็นปัญหาเขาจะไม่ทำ แต่นี่เขาเลือกจะทำ เช่น การเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก ทั้งที่ประธานสภาบอกว่าใส่ไม่ได้ และบอกให้แก้ก็ไม่แก้ มาแก้จนวินาทีสุดท้าย จึงตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วฝ่ายค้านไม่ได้อยากอภิปราย เพียงแค่อยากสร้างคอนเทนต์และโปรโมทโฆษณาพรรคตนเอง เพื่อหวังผลไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่


“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพยายามทำผิดข้อบังคับ เพราะหลังๆ เพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านบางคนซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคยชื่นชม และเคยเห็นการทำงานของเขาอยากสร้างสรรค์ เหมือนเป็นการกินยาผิดซอง ตาขวางๆ ปูดๆ โปนๆ บางคนบอกว่าเป็นพฤติกรรมเถื่อน ถ่อย หยาบคายหรือไม่ ผิดไปจากท้วงทำนองแบบเดิม ที่เคยทำงานอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้น เราจึงเฝ้าระวังและตั้งคำถามต่อด้วยว่าหรือไม่ต้องการอภิปราย แต่หวังมาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลเราประท้วงก็จะถูกตัดเวลาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะไปสมวัตถุประสงค์ของเขาคือจากอภิปรายวันที่ 24-25 มี.ค. ก็จะไปอภิปรายต่อในวันที่ 26 มี.ค. วัตถุประสงค์คือสร้างคอนเทนต์หวังคะแนนหรือไม่ ดังนั้น หากพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่าสิ่งที่ท่านคิด สิ่งที่ท่านหวัง ไม่ได้กินพวกเราหรอก เรารู้ได้ เราคิดทันท่าน ดังนั้น จึงเปิดตัวทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมพรรคเพื่อไทย โดยจะไม่มีการแบ่งเป็นชุดใดๆ ทุกคนพร้อมทำงานตลอด 24 ชม.” นายอนุสรณ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากการอภิปรายมีการพาดพิงชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีการประท้วงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า “ชัดเจนครับ ทุกครั้งที่มีการประท้วงเราจะชี้ข้อบังคับชัดเจนว่าผิดข้อบังคับข้อใดและผิดอย่างไร อำนาจในการวินิจฉัยไม่ใช่อำนาจของพวกเรา เพียงแค่เราทำหน้าที่สื่อสารไปยังประธาน ทั้งนี้ ความรับผิดชอบทางการเมืองนั้นอยู่สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายคือทางการเมืองประชาชนดูอยู่แต่ทางกฎหมายอย่างที่ประธานบอกให้เปลี่ยนชื่อ เขาก็บอกว่าไม่เปลี่ยนหากจะมีการฟ้องก็ฟ้องเลย แต่ประเด็นคือเขาจะฟ้องประธานด้วย ดังนั้น ขอให้ใช้ความชอบธรรมทางด้านกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมืองประกอบกัน ซึ่งนี่ไม่ได้ขู่ แต่เส้นแบ่งของการประพฤติผิดต่อการฝ่าฝืนจริยธรรม ฝ่าฝืนคุณธรรมทางการเมือง เราไม่ได้ทำหน้าที่ในการวินิจฉัย แต่เราทำหน้าที่ชี้ว่าการกระทำดังว่านั้น ขัดต่อการไม่เคารพหรือประมวลจริยธรรมของสส.หรือไม่ ”

ถามย้ำว่า หากผิดข้อบังคับจะประท้วงทันทีหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น แต่เราต้องดูว่าเนื้อหาที่เขาอภิปรายนั้นผิดข้อบังคับหรือไม่


เมื่อถามว่าอาจจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมนั้น เป็นการแสดงผลงานให้นายใหญ่เห็นหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจและไม่แน่ใจว่านายใหญ่หมายถึงใคร คนที่มาทั้งหมดเป็นสส. ซึ่งหากจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีก็ต้องชี้ให้ชัดว่านายกรัฐมนตรีทำงานผิดพลาดเรื่องอะไร บริหารราชการแผ่นดิน นโยบายผิดพลาดอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงลุกขึ้นชี้แจง ไม่มีความจำเป็นที่ชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะลุกขึ้นมา ทั้งนี้ ท่านมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามแต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสิน คนตัดสินคือประชาชน ส่วนจะผิดข้อบังคับหรือไม่คนตัดสินคือประธาน ย้ำว่าหากฝ่ายค้านไม่ฝ่าฝืนข้อบังคับจะไม่มีการประท้วง และทุกครั้งที่ลุดขึ้นประท้วงฝ่ายค้านต้องผิดข้อบังคับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมสภานั้นประกอบด้วย นายประยุทธ์ นพ.ชลน่าน นายสุทิน นายอนุสรณ์ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี นายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี นายวิรัช พิมมะนิตย์ สส.กาฬสินธ์ุ นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายพชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]