1 ใน 40 ชาวอุยกูร์ร่ำไห้ดีใจ ได้กลับสู่อ้อมอกครอบครัว

19 มี.ค.- 1 ใน 40 ชาวอุยกูร์ร่ำไห้ดีใจ ได้กลับสู่อ้อมอกครอบครัว ขอบคุณรัฐบาล 2 ประเทศปล่อยตัว ยืนยันจีนดูแลดี-มอบบ้าน-เงินหมื่นหยวน-ไม่ลงโทษ วอนสื่อ ออกข่าวได้แต่ช่วยเบลอหน้า เพราะอยากใช้ชีวิตแบบคนปกติ ขณะที่พ่อแม่บอก ไม่คิดว่าจะได้เห็นหน้าลูกอีก


วันนี้ ( 19 มี.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังได้เยี่ยมชายชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คนที่ถูกส่งกลับในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ชาวอุยกูร์ รายนี้บอกว่า กลับมาได้เห็นบ้านเกิดเมืองนอนเปลี่ยนไปมาก มีถนนหนทางที่ดีและกว้าง มีการพัฒนาที่ถูกต้อง ตนยังไม่ได้แต่งงานแต่ครอบครัวก็ได้เตรียมห้องแต่งงานไว้ให้แล้ว ที่ผ่านมาตนไปหลงเชื่อคนชั่วจึงทำผิด แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว ก็อยากแต่งงานมีครอบครัว ดูแลแม่ดูแลครอบครัว ตนชอบขับรถ ก็จะไปสอบขับรถ

“ตอนนี้ชีวิตก็เป็นปกติแล้ว อยากแต่งงานมีครอบครัวของตัวเอง หวังว่าเพื่อนคนไทยจะเคารพเสรีภาพของผม ถ่ายรูป สัมภาษณ์ได้ ถ่ายวิดีโอได้ แต่ขอร้องให้ปิดหน้า ผมไม่อยากให้ชีวิตของผม และในอนาคตมีคนอื่นมารบกวน”


จากนั้น พ.ต.อ.ทวี สอบถามว่า บ้านหลังนี้เป็นของตัวเอง หรือรัฐบาลจัดให้ แม่ของเขาตอบแทนว่า แต่ก่อนมีบ้านอยู่ แต่รัฐบาลได้เวรคืนพื้นที่ แล้วคืนให้เราเป็นอพาร์ทเม้นท์ 2 ชุด ส่วนบ้านนี้เราใช้เงินที่รัฐบาลให้ 10,000 หยวน มาปรับปรุง เราจึงมีบ้านพัก 3 ชุด

พ.ต.อ.ทวี ได้ถามต่อว่าระหว่างที่ถูกกักอยู่ใน ตม.ไทย กับได้กลับมาบ้านแบบไหนดีกว่า ชายชาวอุยกูร์ ตอบว่า 10 กว่าปีที่ไม่ได้อยู่บ้าน รู้สึกเต็มไปด้วยความยากลำบาก ไม่เคยนึกว่าจะมีวันไหนได้กลับบ้าน ก็ต้องขอบคุณรัฐบาลจีน รัฐบาลไทย ที่ส่งกลับมา ช่วงที่ตนลงจากเครื่องบิน รู้สึกว่าประทับใจมาก ชีวิตหลังจากนี้ก็อยากตั้งใจทำงานดูแลครอบครัว

“10 กว่าปีที่อยู่ข้างนอก มีคนบอกว่าถ้ากลับประเทศจีนจะถูกขัง เข้าคุก แต่จริงๆกลับมาแล้วก็ได้อยู่กับครอบครัวทุกวัน ก่อนกลับรู้สึกเครียด แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจ และรัฐบาลก็ช่วยตรวจสุขภาพให้ด้วย ลงทะเบียนทำบัตรประชาชน และมีประกันชีวิตให้ ฃรู้สึกว่าชีวิตของผมกำลังฟื้นฟูปกติแล้ว อีกทั้งรัฐบาลท้องถิ่นก็ไม่ได้ลงโทษผมและพ่อแม่ ตอนนี้ครอบครัวค่อยๆมีเงินขึ้น น้องสาวกับน้องชายก็ได้เรียนหนังสือ ซึ่งมีความสุข แม้ว่าผมจะหลบหนีข้ามประเทศออกไป แต่ตอนนี้รัฐบาลก็ให้น้ำใจต่อผมและครอบครัว ผมรู้สึกขอบคุณรัฐบาล พวกเรารู้สึกตื่นเต้น แล้วก็เสียใจ แล้วก็ขอบคุณทุกคน ที่ใช้เวลาเดินทางไกลมาหาพวกเรา”


ขณะที่แม่ของชายชาวอุยกูร์ กล่าวต่อว่า เธอมีลูก 6 คน ช่วงที่มีลูก 3 คนแล้ว ก็ได้ไปได้อุลุมชีทำธุรกิจแล้วก็หาเงิน จากนั้นก็มีลูกต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ห้ามมีลูกเยอะ และเรายังมีอิสระในการนับถือศาสนา รัฐบาลไม่ได้บังคับ

พ.ต.อ.ทวี ถามต่อว่า คนทั่วโลกยังเข้าใจผิดว่าคุณกลับมาบ้านจะทุกข์ทรมานทางจิตใจ หรือถูกบีบบังคับทำร้ายร่างกายจิตใจมีหรือไม่ ซึ่งชายชาวอุยกูร์ ตอบว่า ช่วงที่ตนอยู่ข้างนอกมีคนบอกว่ากลับมาจะไม่มีเสรีภาพ หรือถูกขังคุกตลอดชีวิต ตนก็รู้สึกเครียด แต่ตอนนี้กลับมาแล้ว เสรีภาพมากขึ้น 100% ไม่มีการบังคับอะไรเลย ได้ทานข้าวที่แม่ทำให้ทุกวัน และรัฐบาลท้องถิ่นก็ช่วยดูแลครอบครัว ตนรู้สึกขอโทษกับครอบครัวและรัฐบาลท้องถิ่น เพราะเขาดูแลเราเต็มที่ นี่คือความจริงใจ

ทำให้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวให้กำลังใจ เขาและครอบครัว ซึ่งรัฐบาลไทยก็จริงใจที่คำนึงถึงสิทธิของเขา เขามีความสุขเราก็มีความสุข และเราจะดูแลให้

จากนั้น คณะของ พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางต่ออีก 1 ชั่วโมงกว่า เพื่อมาเจอกับชายชาวอุยกูร์คนที่ 2 โดยได้เข้าเยี่ยมบ้านและพูดคุยกับพ่อแม่เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ ซึ่งชายคนนี้ ยอมรับว่าตอนแรกกลัว เพราะมีคนบอกว่าถ้ากลับมาประเทศจีน จะเสียเสรีภาพ ถูกขังตลอด จึงเครียดก็เลยไม่กล้า แต่พอมาแล้วยืนยันมีเสรีภาพ 100% และทางการยังส่งตนไปโรงพยาบาลตรวจโรค ตอนนี้ก็อยู่กับครอบครัวทุกวัน รู้สึกสบายใจ แต่ก่อนบ้านทำด้วยอิฐซึ่งล้าสมัยมาก และรัฐบาลช่วยสร้างบ้านใหม่ รวมทั้งหมดเสียค่าใช้จ่าย 22,000 หยวนให้ ตอนนี้ชีวิตเป็นอยู่ดีกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งตนกลับมาไม่นาน ตอนนี้ช่วยพ่อแม่ทำนา และ อนาคตอยากเป็นช่างซ่อมรถยนต์

จากนั้นพ.ต.อ.ทวี ได้สอบถามว่ารู้จักใครในคณะที่มามาเยี่ยมในวันนี้บ้าง ชายชาวอุยกูร์ ได้ชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ ตม.ไทย พร้อมกับเรียกว่า “สารวัตร” และทั้งสองก็ได้จับมือทักทายกัน โดยเจ้าหน้าที่ ตม.ไทย กล่าวแสดงความยินดีที่ได้กลับบ้านเกิด

ด้าน บิดาของชายชาวอุยกูร์ บอกว่า รู้สึกสบายใจมาก ไม่ได้เจอลูกมาเป็น 10 ปี ตอนแรกคิดว่าทั้งชีวิตจะไม่ได้เจอแล้ว แต่ตอนนี้รัฐบาลก็ให้ลูกกลับบ้านแล้ว รู้สึกสบายใจ

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวยืนยันว่า รัฐบาล 2 ประเทศมีความห่วงใย คำนึงถึงสิทธิไม่อยากให้ตัวเขาตกเป็นเครื่องมือถูกกักแบบไม่มีอนาคต เมื่อประเมินแล้วว่าถ้าส่งกลับมาแล้วปลอดภัย จึงได้ดำเนินการร่วมกัน และจากนี้จะคอยติดตามความเป็นอยู่เป็นระยะ และการมาครั้งนี้รัฐบาลจีนก็รับรองว่าจะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นโดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้สอบถามว่า ตอนนี้มีความอึดอัดใจหรือไม่ มีใครบังคับหรือทำให้ทรมานทางจิตใจและร่างกาย หรือไม่ ซึ่งเขาตอบว่า “ตั้งแต่ผมกลับบ้าน ไม่มีปัญหาอะไร รัฐบาลก็ช่วยชีวิตผมตลอด มีการลงทะเบียนบัตรประชาชน และการประกันชีวิต ครอบครัวก็ไม่ได้ทิ้งผม ช่วยผมตลอด” .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

อุตุฯ เผยไทยอากาศร้อนโดยทั่วไป-ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20%

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน