“จิราพร” แถลง​ปราบบุหรี่ไฟฟ้า​ โชว์ยอดยึดพุ่ง​ 1.2 ล้านชิ้น

ทำเนียบ 19 มี.ค.- “รมต.จิราพร” นำแถลง​คืบปราบบุหรี่ไฟฟ้า​ โชว์ผลงาน​ 2 สัปดาห์เศษ​ ยอดยึดพุ่ง​ 1.2 ล้านชิ้น​ มูลค่า​ 231 ล้านบาท​ ก่อนรายงานนายกฯ​ 27 มี.ค.นี้​ ลั่น​บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น​ ด้านศุลกากร ยันตรวจยึดได้ไม่มีระงับคดี​เด็ดขาด พร้อมส่ง ปปง.สืบยึดทรัพย์​ทันที


นางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ พร้อมด้วย​ พลตำรวจโท​ อัครา​เดช พิมลศรี​ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายวรณัฏฐ์​ หนูรอต ที่ปรึกษาด้านการปกครองกระทรวงมหาดไทย​ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมการกรมศุล​กากร นายกมลสิษฐ์​ วงศ์บุตรน้อย​ รองเลขาธิการ​คณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ฟอกเงิน​ นางสาวทรงศิริ จุมพล​ รองเลขาธิการ​คณะกรรมการ​คุ้มครอง​ผู้บริโภค​ ร่วมการแถลงข่าว​ ภายหลังการประชุมการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า

โดย นางสาวจิราพร ระบุว่า​ จากข้อสั่งการ​ของนายกรัฐมนตรี​ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า​ ได้มีการแบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วน ในระยะเร่งด่วน เพื่อปูพรมการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เน้นพื้นที่ชายแดน​ โดยเฉพาะพื้นที่รับผิดชอบของกรมศุลกากร ซึ่งมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยจะไม่มีการระงับคดีและส่งต่อไปยังตำรวจสอบสวนกลาง​ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน​ (ปปง.​) เพื่อสืบเส้นทางการเงินเพื่อยึดทรัพย์


ส่วนการปราบปรามร้านค้า ร้านที่มีที่ตั้งและออนไลน์ด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค​ (สคบ.) กระทรวงมหาดไทย​ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อ​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​ (ดีอี​)ได้ทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยหาก จับกุมกรณีที่มีของกลางมูลค่า เกินกว่า 500,000 บาท​ จะส่งไปยังปปง. หากต่ำกว่า 500,000 ทางตำรวจจะสืบทรัพย์และส่งต่อปปง.​เพื่อดำเนินการ ส่วน กระทรวงดีอี สามารถปิดกั้นเพจและเว็บไซต์ต่างๆได้แล้วกว่า 9,500 กว่าเพจ

ขณะเดียวกันยังสร้างความตระหนักรู้ เรื่องโทษของบุหรี่ไฟฟ้าและข้อกฎหมายควบคู่กัน ให้กับประชาชน​ รวมไปถึงเน้นที่สถานศึกษา เพราะนายกรัฐมนตรี​ มีความห่วงใยไม่อยาก ไม่อยากให้เยาวชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าโดยง่าย โดยใช้กลไกที่มีอยู่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ต้องนำข้อกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาทบทวน​ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวถึง ความคืบหน้ามาตรการเร่งด่วนโดยเฉพาะการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและกวาดล้าง นับจากวันที่นายกรัฐมนตรี​มีข้อสั่งการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อ​25 กุมภาพันธ์​ ได้เริ่มดำเนินการทันที​ โดยมียอด​26 กุมภาพันธ์​ – 18 มีนาคม​ ยอด การจับกุมดำเนินคดี​ 1,741 คดี​ ผู้ต้องหา 1789 คน​ จำนวนของกลาง 1, 285,024 ชิ้น​ มูลค่า​ 231,881,074 บาท​


นอกจากนี้นางสาวจิราพร​ ยังระบุอีกว่า​ มีการยกระดับการทำงานที่เข้มข้น​ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี มีการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เข้ามาจัดการ โดยเฉพาะมีส่งข้อมูลไปยัง​ ปปง.เพื่อสืบเส้นทางการเงินและขยายผลการจับกุมไปถึงต้นตอรายใหญ่​ นอกจากนี้ยังมีช่องทางการแจ้งเบาะแสส่วนต่างๆแล้ว มีการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ประชาชนสามารถแจ้งผ่านทางแอปพลิเคชั่นทางรัฐ​ ที่พัฒนาร่วมกันกับกระทรวงดีอี

นางสาวจิราพรกล่าวต่อว่า​ หลังจากการดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นจะรายงานนายกรัฐมนตรี​ตามที่ได้รับมอบหมาย​ 30 วัน​ หรือ​ ในวันที่27 มีนาคม​ 2568 ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำงานอย่างเข้มข้นเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ ในการส่งรายงานให้กับนายกรัฐมนตรี ถึงสถิติการจับกุม อุปสรรคและข้อปัญหาต่างๆที่จะมีการแก้ไขปัญหาทางระยะสั้นและระยะยาว

ด้านพลตำรวจโท​ อัครา​เดช กล่าวถึง การจับกุมผู้นำเข้าจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยผลปฏิบัติการตั้งแต่ปี 67 มีการจับกุมไปกว่า 1,400 กว่าราย ของกลางกว่า 1,600,000 ชิ้น มูลค่าการจับกุม 300 กว่าล้านบาท และในปี 2568 ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันมีการจับกุมกว่า 1,800 ราย ของกลางกว่า 1,400,000 ชิ้น แต่ไฮไลท์อยู่ในช่วงที่รัฐบาลดำเนินการเข้มงวด กวดขัน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 18 มีนาคม ได้มีการจับกุมไปแล้วกว่า 1,700 ราย ของกลางกว่า1 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นการจับกุม รายใหญ่ถึง 24 ราย ของกลาง1,200,000 ชิ้นซึ่งมูลค่าของกลางคำนวณได้กว่า 248 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการจับกุมในปี 67 เราจับกุมได้ขึ้นกว่า 468 ราย

พลตำรวจโทอัคราเดช ย้ำว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายต่อสุขภาพและผิดกฎหมายมีส่วนผสมหลายอย่างที่ไม่ควรนำมาใช้ในประเทศไทยและอีกข้อกฎหมายที่อยากจะแนะนำที่มีการนำไปใช้และเผยแพร่ ขายหรือจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 600,000 บาท ,ครอบครองรับฝาก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาประเมิน, นำเข้าหรือผลิต จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 5 เท่าของราคาประเมิน สูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่ ปรับ 5,000 บาท

ขณะที่อธิบดีกรมการกรมศุล​กากร กล่าวว่า ศุลกากรเป็นเหมือนด่านหน้าในการดูแลเรื่องสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ไม่ได้ผลิตในเมืองไทย เพราะฉะนั้นสินค้าที่มีการขายกันอยู่ต้นทางมาจากต่างประเทศ ส่วนกลไกของกรมศุลกากรถือว่ามีความสำคัญในการควบคุม ซึ่งมาตรการที่ทำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสินมาจนถึงข้อสั่งการของ นางสาวแพทองธาร นำระบบข้อมูลบัญชีสินค้า มาขยายผลเชื่อมโยงข้อมูลผู้นำเข้าและประเทศต้นทาง

อีกหนึ่งมาตรการคือการตรวจสอบทางกายภาพในทุกการขนส่งสินค้าทางเรือ ที่มีความเสี่ยงในการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย บุหรี่ไฟฟ้ารวมถึงสินค้าอื่นที่เป็นของต้องห้าม และของ ต้องจำกัดการนำเข้าทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศโดยจะมีสัดส่วนการเปิดตรวจทางกายภาพ ซึ่งในกรณีของบุหรี่ไฟฟ้ามีการเพิ่มสัดส่วนการเปิดตรวจเข้มข้นในระดับสูงสุด

สำหรับมาตรการตามแนวชายแดน และตามลำน้ำ พบว่าจะมีการลักลอบเข้ามาตามบริเวณแนวด่านชายแดน และจะมีการคุยกับศุลกากรประเทศต้นทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งหากมีข้อมูลจะสามารถระบุเป้าหมายได้

อธิบดีกรมศุลกากร ยืนยันว่าจะไม่มีการตกลงยอมความระงับคดีในชั้นศุลกากรโดยเด็ดขาด และจะมีการดำเนินคดีสูงสุดในทุกกรณี พร้อม ดำเนิน มาตรการเชิงรุก ตรวจโกดังสินค้า และสถานที่ทำการ ไปรษณีย์รวมถึงบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีการขอหมายศาล เข้าตรวจค้น ซึ่งเป็นมาตรการที่เริ่มดำเนินการแล้ว .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]