“พล.อ.ประวิตร” นำทัพศึกซักฟอกบอก “คอยฟังสิ คอยฟัง”

พปชร. 18 มี.ค.- “พล.อ.ประวิตร” นำทัพศึกซักฟอก ส่วนเป็นประเด็นอะไร บอก “คอยฟังสิ คอยฟัง” ด้าน “ไพบูลย์” อุบ มีหมัดเด็ด 2 ประเด็น โว ประชาชนฟังแล้วจะไม่ผิดหวัง ตอก “สงคราม” ปรามาสลุง หากไม่เป็นอย่างที่พูด ให้มาขอโทษที่พรรค


พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า “คอยฟังสิ ให้คอยฟัง” และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้ประชาชน รอฟังว่าพลเอกประวิตรจะอภิปรายเรื่องอะไร ใช่ เอ็มโอยู 44 หรือไม่ พลเอกประวิตร ย้ำคำเดิมว่า คอยฟังสิ คอยฟัง

และเมื่อถามต่อว่า แสดงว่าประชาชนจะไม่ผิดหวัง เพราะขณะนี้ประชาชนรอฟังพลเอกประวิตรอภิปรายคนเดียวว่าจะมีหมัดเด็ดอะไร โดยพลเอกประวิตร ไม่ตอบ แต่เดินขึ้นรถทันที ก่อนที่จะลดกระจกลง พร้อมยิ้มทักทาย กับสมาชิกพรรคที่เดินลงมาส่ง


ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าพลเอกประวิตรจะเป็นผู้นำการอภิปรายภาพรวม โดยจะมีการกล่าวถึงประเด็นหลักๆ ที่พรรคตรวจสอบ ทั้งเรื่องที่ดินอัลไพน์ ซึ่งเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ คาสิโน การพนันออนไลน์ และ เอ็มโอยู 2544 รวมไปถึงเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องของครอบครัวนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่นายทักษิณ ชินวัตร

นอกจากนี้ ยังมี 2 ประเด็นสำคัญที่อุบไว้ก่อน ส่วนถ้าเปิดออกมา แล้วจะทำให้ตะลึงหรือไม่ นายไพบูลย์ เลี่ยง ที่จะตอบ โดยบอกว่าเป็นประเด็นที่ ฝ่ายเตรียมข้อมูล ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นใหม่ โดยเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีเอง ส่วนเป็นเรื่องทุจริตหรือเรื่องการบริหารงาน นายไพบูลย์ บอกว่าขอตอบแค่นี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวไปพูดหมด

และเมื่อถามว่าที่ผ่านมา จะไม่ค่อยเห็นบทบาท พลเอกประวิตรในการอภิปรายในสภา หลายคนมีการจับตา ถึงขั้นปรามาสว่าจะไม่มีข้อมูลเด็ด นายไพบูลย์ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ เวลาที่ท่านอภิปรายก็จะเลือกใช้ถ้อยคำ แบบผู้ใหญ่และ มีน้ำหนัก และพุ่งเป้าไปสู่การอภิปรายนายกรัฐมนตรีว่าทำไมเราถึงไม่ไว้วางใจนายกฯ และต้องทำความเข้าใจว่า การอภิปรายของพลเอกประวิตรเป็นการอภิปรายภาพรวม ส่วนการลงรายละเอียดแต่ละประเด็นนั้น เป็นเรื่องของสส. ที่จะอภิปราย ไปขยายผล


ส่วนนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปรามาสว่าอยากเห็นพลเอกประวิตรอภิปรายลงลึกรายละเอียดในเอ็มโอยู 44 มากกว่าที่จะพูดคำว่า ไม่รู้ๆ นายไพบูลย์ กล่าวว่า “ให้รอฟัง ไม่เป็นอย่างที่เขาพูดก็แล้วกัน แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาพูด เขาจะทำอะไรให้ ขอโทษกันที่นี่ได้หรือไม่”

พร้อมย้ำว่า ประชาชนจะไม่ผิดหวัง กับบทบาทของหัวหน้าพรรค ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และการทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งสำหรับตนได้ฟังอภิปรายแช้ว ตอนไม่ไว้วางใจ

และเมื่อถามว่า พลเอกประวิตรมีการซักซ้อมการอภิปรายแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ระดับนี้แล้ว ท่านก็เตรียมอะไรของท่าน สมบูรณ์อยู่แล้ว ส่วนจะอภิปรายกี่นาที ขอให้รอฟัง แต่ได้เวลาพอสมควร ซึ่งจะไม่มีการพูดเยิ่นเย้อกินเวลา โดยพรรคพลังประชารัฐได้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง โดยมีจำนวนผู้อภิปราย รวมพลเอกประวิตรด้วย รวม 6 คน ส่วนมีใครบ้างขออุบไว้ก่อน หลายเรื่องยังไม่อยากจะพูด อยากจะไปโชว์ในวันอภิปราย

ส่วนร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บอกว่า การอภิปรายจะมีงูเห่า โหวตให้รัฐบาล 10 เสียง เป็นเสียงจากพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ขอให้คอยดู ใครพูดอะไรก็พูดไป ส่วนถ้ามีจะทำอย่างไร นายไพบูลย์ ย้ำว่า ขอให้รอดู แต่ล่าสุด พรรคได้มีคำสั่ง ให้ปลด นางสาวกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ ออกจากรองเลขาธิการพรรค เพราะไปร่วมกิจกรรมในการเปิดที่ทำการพรรคกล้าธรรม เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จะไม่มีการขับออกจากพรรค แต่รอให้ลาออกเอง

ส่วนหลังการอภิปรายจะยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดได้เลยหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จแล้ว มีหลายเรื่อง ที่จะถูกยื่นคำร้องต้อ ป.ป.ช. หรืออาจจะถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ 2 ประเด็นที่อุบไว้ แต่เป็นประเด็นทั่วไป โดยตนเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะนำไปสู่ ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนการแบ่งข้อมูลอภิปรายกับพรรคประชาชน ต่างฝ่ายต่างทำ แต่ประเด็นเหมือนกันไม่เป็นไร แต่ข้อมูลข้อเท็จจริงอาจจะแตกต่างกัน ไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลมาแสดงกัน เพราะแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ และ สส. มีการเตรียมการบ้าน ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยร่วมมือกันเท่าไหร่ แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีการร่วมมือกัน ผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่น ขณะที่จากการฟังข่าว พรรคร่วมรัฐบาล รู้สึกจะง่อนแง่นกันพอสมควร

และเมื่อพรรคประชาชนใช้คำว่าดีลแลกประเทศ พรรคพลังประชารัฐใช้คำว่าอะไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขอให้รอฝ่ายที่เกี่ยวข้องสรุป ว่าจะใช้สโลแกนอย่างไร แต่การอภิปรายของพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีนายกฯ แบบไหน.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย