“สุริยะ” เผยนายกฯ สั่งเอาผิดโทษสูงสุดเหตุคานสะพานถล่ม

ทำเนียบ 17 มี.ค.- “สุริยะ” เผย นายกฯ สั่งการตรวจสอบเอาผิดบริษัทผู้รับเหมารับโทษสูงสุด ขอเวลาไม่เกิน 1 เดือน เผย จ้างวิศวกรรมสถานมาเป็นที่ปรึกษาตรวจสอบโครงการทั้งหมด เริ่มใช้มาตรการสมุดพกสิ้นเดือน เม.ย.นี้ สั่งให้ทบทวนการแบ่งสัญญา ยันโครงการแล้วเสร็จภายในปีนี้แน่นอน


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม แถลงหลังประชุมเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม ภายหลังโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง -ว งแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 บริเวณถนนพระราม 2 ทรุดตัว ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการว่า ถ้าหากตรวจสอบแล้ว ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความผิดของบริษัทผู้รับเหมาหรือผู้ควบคุมงานให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่ โดยพิจารณาบทลงโทษสูงสุด ตามมาตรา 109 หมวด 12 ของพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ว่าด้วยการทิ้งงาน

ทั้งนี้ มีการรายงานถึงมาตรการสมุดพกเพื่อตัดแต้มผู้รับเหมาหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมบัญชีกลางระบุว่า มาตรการปัจจุบันตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง สามารถนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาใช้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอมาตรการสมุดพก แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละกรมต้องใช้ดุลยพินิจ​ และทางเจ้าหน้าที่ก็ห่วงว่า อาจถูกฟ้องร้องได้ อย่างไรก็ตามคิดว่า ควรตรวจสอบให้ชัดเจน และหากเป็นความบกพร่องของผู้รับเหมาทำให้เสียชีวิต ก็คงต้องใช้มาตรการสูงสุด


ส่วนจะสามารถเอาผิดผู้รับเหมาได้หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เรื่องนี้เหตุเพิ่งเกิดเมื่อ 2 วันที่แล้ว ตอนนี้ทางการพิเศษจะรีบตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่า ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน

ทั้งนี้ จะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีกหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ในช่วงนี้การก่อสร้างคงมีต่อไป ตนเชื่อว่า คนที่เดินทางผ่านถนนพระราม 2 คงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ตนจะเสนอให้สภาวิศวกรรมสถานให้มาตรวจสอบกระบวนการ โดยจะมีการจ้างเข้ามาเป็นที่ปรึกษาดูกระบวนการทั้งหมดว่า เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการขอร้องให้ทางสภาวิศวกรรมสถาน มาช่วยดูแต่ไม่มีการจ่ายค่าจ้าง แต่ขณะนี้เราต้องมีการดำเนินการว่าจ้างให้เป็นกิจลักษณะ

นายสุริยะ ยืนยันว่า หากความผิดพลาดเกิดจากบริษัทที่ปรึกษา ได้มีการสั่งการให้มีการดำเนินคดีอาญาและทางแพ่ง และอาจถึงขั้นยึดใบอนุญาตที่ปรึกษาด้วย


นายสุริยะ ยืนยันว่า โครงสร้างการก่อสร้างทุกโครงการที่ผ่านมา ไม่มีโครงการไหนที่ไม่แข็งแรง เพราะตอนออกแบบใช้มาตรการที่เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม และวัสดุการก่อสร้างได้มาตรฐาน เพียงแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง การควบคุมงานอาจเกิดความประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมาจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

นายสุริยะ ย้ำว่า ที่ผ่านตนได้กำชับทางอธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท และรฟม.ที่ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ให้ไปพูดคุยกับผู้รับเหมาอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ ในขณะที่ทางกระทรวงได้เชิญผู้รับเหมามาเน้นย้ำ แต่ปรากฏว่า ยังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีก จึงได้เสนอมาตรการสมุดพกขึ้นมาและเริ่มมีการตัดคะแนน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เสียชีวิต ในมาตรการสมุดพกจะมีการให้บริษัทนั้นถูกขึ้นแบล็คลิสต์ไม่สามารถเสนอราคาได้อีก ทำให้ผู้รับเหมาต้องทำงานด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะถ้าเกิดแบล็คลิสต์ไปแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่ไม่สามารถนำมาทำงานได้ อาจถึงบริษัทขาดสภาพคล่องและล้มละลายได้ โดยขั้นตอนสมุดพกจะดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ได้ ช้าสุดไม่เกินสิ้นเดือนเมษายนนี้ ส่วนจะสมุดพกจะย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ก่อนได้หรือไม่ เรื่องนี้กำลังพิจารณาอยู่

นายสุริยะ ยอมรับว่า ต้องมีการทบทวนการแบ่งสัญญาใหม่ เพราะที่ผ่านมามีการแบ่งงานซอยงานสัญญาไปหลายสัญญา อย่างกรณีการก่อสร้างเส้นพระราม 2 มีการซอยสัญญาไป 14 สัญญาทำให้บางสัญญาการก่อสร้างไม่เสร็จทำให้เกิดฟันหลอ จึงได้สั่งการไปว่า จากนี้ต้องแบ่งสัญญาเท่าที่จำเป็น

ทั้งนี้ การก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 ก็เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งแล้ว จำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในการก่อสร้างหรือไม่ เพื่อให้การก่อสร้างราบรื่น นายสุริยะ กล่าวว่า ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจ ตนก็เข้าใจความรู้สึกของประชาชน จึงเป็นที่มาที่บอกว่า หากเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจะต้องห้ามรับงาน ทำให้บริษัทผู้รับเหมาต้องมีมาตรการที่เข้มข้น และเป็นที่มาที่จะจ้างวิศวกรรมการมาตรวจสอบเพื่อให้การก่อสร้างมีมาตรฐาน

ทั้งนี้ จะมีกระแสสังคม อยากให้รัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบลาออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสุริยะ กล่าวว่า สิ่งที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการมาตลอด จนในที่สุดมีมาตรการที่ชัดเจนแบล็คลิสต์ผู้รับเหมา ตนเชื่อว่า ความปลอดภัยจะดีขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ ยืนยันว่า การก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 จะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปี 68 แน่นอน.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]