กทม. 15 มี.ค.-“กัณวีร์” ระบุสหรัฐฯ จำกัดวีซ่า จนท.รัฐบาลไทย ปมส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ชี้เป็นการตอบสนองต่อการตัดสินใจของไทย ที่ไร้จุดยืนทางการทูตตามหลักสากล ไม่ควรเลือกข้าง ต้องยึดมั่นหลักสิทธิมนุษยชน-มนุษยธรรม
ภายหลังสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการจำกัดและควบคุมด้านวีซ่า ต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่มีความเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม กับกระบวนการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน กลับไปยังจีน
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ข้อความว่า
“Travel Ban ของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อผู้บริหารไทย ซึ่งน่าจะรวมถึงนักการเมืองและข้าราชการไทยที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 40 ชีวิตกลับจีนเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 68 คืออีก 1 การตอบสนองจากต่างประเทศต่อการตัดสินใจที่ไร้ซึ่งจุดยืนทางการทูตตามหลักสากลของไทย
สหรัฐฯ คืออีก 1 ประเทศต่อจากสหภาพรัฐสภายุโรปที่ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อไทยในการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 40 คน กลับจีน
นโยบายข้อจำกัดเกี่ยวกับวีซ่าของสหรัฐฯ นี้เป็นตามมาตรา 212(a)(3)(C) แห่งรัฐบัญญัติตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐฯ (Immigration and Nationality Act) จำกัดเกี่ยวกับวีซ่ากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบันหรือในอดีต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบต่อหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์หรือชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์หรือศาสนากลุ่มอื่นที่อาจไม่ได้รับความคุ้มครองกลับประเทศจีน ซึ่งอาจรวมถึงสมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่ต่างชาตินี้ด้วย
ที่เคยเสนอไปครับประเด็นอุยกูร์นี้คือประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ มันจะกระทบการเมืองภาพใหญ่จริงๆ หากไทยเราไม่มีจุดยืนทางการทูตตามมาตรฐานสากล จริงๆ เราไม่ต้องเลือกข้างหรอกครับว่าจะเข้าข้างประเทศใดอย่างออกหน้าออกตา เราเลือกได้ครับ ยึดมั่นในหลักการสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม มันจะเป็นเกราะป้องกันเราเอง !!
มาตรการจำกัดการเข้าประเทศนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออก เคยออกเมื่อช่วงสงครามเย็นและ 9/11 ต่อเจ้าหน้าที่รัฐของต่างชาติที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง รมว.กต.สหรัฐฯ สามารถปฏิเสธการเข้าประเทศของบุคคลได้ หากเห็นว่าการเดินทางเข้าหรือกิจกรรมที่วางแผนไว้ของบุคคลนั้นอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อการต่างประเทศของสหรัฐฯ อย่างร้ายแรง
อีกอย่าง โดยส่วนใหญ่ travel ban นี้ มีแต่กลุ่มก่อการร้าย กองกำลังชนกลุ่มน้อยหัวรุนแรง และ จนท.รัฐเผด็จการต่างๆ และตอนนี้ผู้บริหารรัฐบาลและข้าราชการของไทย โดนลด teir ไปอยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว
รอดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปครับ !!” .-315.-สำนักข่าวไทย