“วิลเลียม ไฮเน็ค” นักธุรกิจระดับโลก เข้าพบ นายกฯ

ทำเนียบ 13 มี.ค.- “วิลเลียม ไฮเน็ค” นักธุรกิจระดับโลก เข้าพบ นายกฯ หารือความร่วมมือยกระดับประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว พร้อมเสนอเส้นทางรถไฟรูปแบบการท่องเที่ยวพักค้างคืน เชื่อมไทยไปประเทศในภูมิภาคเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว หนุนกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศถ่ายทำในไทย หลังกระแสซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต

นายวิลเลียม ไฮเน็ค (William Heinecke) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว ในประเทศไทย


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่ได้พบกับนายวิลเลียม และเชื่อมั่นว่าวันนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยร่วมกัน ซึ่งในปี 2568 นี้ เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ไทยมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลากหลายรูปแบบเพื่อตอกย้ำว่าประเทศไทยสามารถเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการทุกภาคส่วนให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว

ขณะที่นายวิลเลียม กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี โดยตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจในไทยมากกว่า30ปี ได้เห็นการเติบโตและการพัฒนาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ชื่นชมการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมาก โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต รวมไปถึงจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยที่ต่างมีศักยภาพในการขยายพื้นที่การท่องเที่ยว พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่าบริษัท ไมเนอร์ฯ รวมทั้งผู้ประกอบการอื่น ๆ ยินดีให้การสนับสนุนแนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล


สำหรับการหารือ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นวางเป้าหมายให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ซึ่งได้เพิ่มความสะดวกผ่านมาตรการและนโยบายต่าง ๆ โดยนายวิลเลียม ชื่นชมการออกมาตรการฟรีวีซ่า ซึ่งส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเห็นได้ชัด และเสนอให้ขยายมาตรการไปยังประเทศและดินแดนอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งการสนับสนุนกลุ่ม Digital Nomad โดยเห็นพ้อง และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวทางที่จะจัดทำไปยังประเทศอื่นๆ

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นว่าการพัฒนานโยบายที่เสริมสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่กำลังดำเนินธุรกิจในไทย

พร้อมกันนี้ยังได้แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก พร้อมสร้างระบบบริหารจัดการที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและนักท่องเที่ยวในระยะยาว โดยรัฐบาลพร้อมพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมศักยภาพของภูเก็ตให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


นายวิลเลียม ยังกล่าวว่า กระแสซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ที่ถ่ายทำในจังหวัดภูเก็ต ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาจองที่พักตามสถานที่ถ่ายทำจำนวนมาก ซึ่งทั้งสองต่างเห็นพ้องว่ามาตรการส่งเสริมกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่มาถ่ายทำในไทย ในรูปแบบเพิ่มเงินคืน (Cash Rebate) เป็นประโยชน์แก่ทั้งผู้ถ่ายทำและช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ในขณะเดียวกัน รวมถึงยังเห็นถึงศักยภาพในจังหวัดอื่น ๆ ของไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถเป็นที่นิยมสำหรับผู้ผลิตภาพยนตร์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีและถือเป็นตัวอย่างที่ดีว่าภาพยนตร์และซีรีส์สามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยวได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยตระหนักถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลมีแนวทางที่จะขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานและเครือข่ายเส้นทางรถไฟต่างๆ ซึ่งเห็นพ้องกับข้อเสนอของนายวิลเลียม ว่าการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตรงให้มากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนาโครงการ ท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ที่สามารถพักค้างคืนบนโบกี้รถไฟ ที่ อาจวิ่งตั้งแต่สิงคโปร์มาเลเซียมาจนถึงไทยผ่านไปยังลาว จีน หรือเวียดนามได้จะช่วยสร้างมูลค่า และจะนำไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]