“ทวี” ย้ำราชทัณฑ์ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด รับเข้าใจผิดเรื่องนักโทษหญิง

เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 11 มี.ค.-“ทวี” ย้ำราชทัณฑ์ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่สื่อมวลชนและประชาชนสงสัย ชี้ บทสัมภาษณ์ ถือเป็นข้อสั่งการจากรัฐมนตรี บอก 17 มี.ค.นี้ คณะกรรมการตรวจสอบฯ กรณี “อดีตผู้กำกับโจ้” ต้องมีความคืบหน้า โวรัฐบาลนี้ทำทุกอย่างโปร่งใส รับเข้าใจผิดเองเรื่องนักโทษหญิง ความจริงเป็น LGBTQ

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางเข้าร่วมสังเกตการณ์และศึกษาดูงานภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ของหัวหน้าพรรคประชาชน และ สส. โดยมาต้อนรับและดูแลในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม


โดยพันตำรวจเอกทวี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพื้นที่ด้านในเรือนจำพิเศษกรุงเทพถึงกรณีของ“อดีตผู้กำกับโจ้” ที่จะต้องมีการเตรียมคำตอบไปตอบในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น ว่า ไม่ต้องเตรียมเราเอาข้อเท็จจริงไปตอบ เพราะตัวเองก็อยากให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงและได้ข้อมูลจากพนักงานสอบสวน ทั้งในเรื่องการเสียชีวิตว่าเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายหรือถูกทำให้ตายหรือไม่ ส่วนตัวอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว แต่ทั้งหมดก็ยังต้องรอผลการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนและผลทางนิติวิทยาศาสตร์ในการผ่าชันสูตรรอบ 2

สำหรับประเด็นของสาเหตุการเสียชีวิตเชื่อว่าต้องรับฟัง พยานต่างๆรอบด้านเราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าซักถามในประเด็นที่สงสัย “ขอยืนยันว่าวันนี้ต้องทำความจริงให้ปรากฏ เป็นรัฐบาลโปร่งใส รัฐบาลตรวจสอบได้ และรัฐบาลที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องกลัวอะไร”


ส่วนที่วันนี้ครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้ไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ให้ตรวจสอบการเสียชีวิตภายในเรือนจำ พันตำรวจเอกทวี บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เร่งรัดให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจัดการประชุม ซึ่งในที่ประชุมนอกจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังมีฝ่ายปกครอง อัยการสูงสุด และตำรวจร่วมประชุมด้วย ซึ่งเราต้องการข้อมูลไปใช้ในการพิจารณา ตามพระราชบัญญัติอุ้มหายฯ เพราะมีเรื่องของสิทธิการได้รับการเยียวยา “ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่มีขึ้นมาจากกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้คลุมถุงดำ เราจึงต้อง ใช้กฎหมายตัวนี้ให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย” พร้อมย้ำว่าคดีการเสียชีวิตของผู้กำกับโจ้ภายในเรือนจำคลองเปรมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง ต้อง ต้องร่วมกันทำไม่ว่าหน่วยงานใดทำสำนวนคดี

ส่วนจะมีการเปิดเผยกล้องวงจรปิดตัวเต็มได้เมื่อไหร่นั้น พันตำรวจเอกทวี ตอบว่า ทางตำรวจได้กล้องวงจรปิดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ก็สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ หากสื่อมวลชนมีความสงสัยในประเด็นใดให้ถามได้ทั้งหมด สำหรับเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียและไม่อยากช่วยเหลือใครทั้งสิ้น แล้วต้องยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ทั้งเจ้าหน้าที่ของเรือนจำและผู้ต้องขังต่างฝ่ายต่างอยู่กันลำบาก / พันตำรวจเอกทวีย้ำว่า “โดยหลักแล้วผู้คุมไม่คิดร้ายกับผู้ต้องราชทัณฑ์สักคน เพราะเขาต้องอยู่กันเป็นครอบครัว”

ส่วนจะมีมาตรการใดที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พันตำรวจเอกทวี บอกว่า การเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติภายในเรือนจำนั้น การผูกคอตายถือว่ามากที่สุด ปีนี้ถือว่าน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเสียชีวิตภายในเรือนจำน้อยกว่าการเสียชีวิตข้างนอกมาก


สำหรับความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ พันตำรวจเอกทวี บอกว่า คาดหวังว่าในวันที่ 17 มีนาคมนี้จะได้รับรายงานความคืบหน้าและความชัดเจนเพิ่มขึ้น ส่วนจะมีเรื่องของการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวย้ำว่าหากพบว่ามีการทำร้ายผู้ต้องขังจริง ฝ่ายใดจะเป็นคนแจ้งความผิดตามมาตรา 157 พันตำรวจเอกทวี บอกว่า อย่าตั้งสมมุติฐานขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการ แต่ยืนยันจะไม่ช่วยเหลือใครทั้งนั้น

ส่วนครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้มีความประสงค์จะให้ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรมนั้น พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ขอให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายแต่จะไม่ปกป้องใคร ซึ่งทุกข้อเท็จจริงจะต้องเป็นไปตามข้อมูลพยานหลักฐาน

ส่วนที่ครอบครัวอ้างว่าเคยยื่นหนังสือร้องเรียน ไปถึงเรือนจำถึง 4 ครั้ง แต่กลับถูกเพิกเฉย พันตำรวจเอกทวี ตอบว่า ขอให้รอการสอบสวน เพราะความทุกข์ของทุกคนต้องได้รับการดูแล เพราะถือเป็นจริยธรรมของข้าราชการ

ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่าหากพบว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พันตำรวจเอกทวี บอกว่า ต้องเป็นผู้ที่ทำให้ตายต้องรับผิดชอบ

ส่วนประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์คำสัมภาษณ์ของตนกรณีห้องขังที่ติดกับห้องของอดีตผู้กำกับโจ้เป็นผู้หญิงหรือ LGBTQ นั้น พันตำรวจเอกทวี ตอบว่า ตัวเองเข้าใจผิด ผู้ต้องขังรายนั้นเป็นผู้ชายที่แปลงเพศ ซึ่งในเรือนจำคลองเปรมมีผู้ต้องขังที่เป็น LGBTQ ถึง 88 คนแปลงเพศแล้ว 18 คน ซึ่งหลักปฏิบัติทั้งหมดเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องของเลือดประจำเดือนตัวเองก็เข้าใจผิดเช่น

สับสนส่วนเรื่องที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ออกมาคลาดเคลื่อนตั้งแต่วันแรก และสร้างความสับสนให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นนั้น พันตำรวจเอกทวี บอกว่า ข้อเท็จจริงทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว

ส่วนในเรื่องประเด็นและขนาดผ้าขนหนู พันตำรวจเอกทวี บอกว่า เป็นในส่วนของงบประมาณที่กรมราชทัณฑ์นำไปจัดซื้อ เพื่อนำมาให้ผู้ต้องขัง ซึ่งขนาดผ้าที่ชัดเจนต้องถามจากพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่าผู้ต้องขังสามารถนำผ้าเช็ดตัวนอกเหนือจากผ้า 3 ผืนเข้ามาได้หรือไม่นั้น “เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์รวมถึงเครื่องแต่งกายด้วย”

ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทางกรมราชทัณฑ์จะนำผ้าขนหนูตัวอย่างนำมาโชว์แก่สื่อมวลชน พันตำรวจเอกทวี บอกว่า ก็สามารถทำได้เพราะไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนที่ต้องปิดบัง เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ย้ำว่าไม่เห็นมีอะไรต้องปิดบัง

พันตำรวจเอกทวี ยังย้ำว่า ที่สัมภาษณ์ตรงนี้ถือเป็นข้อสั่งการแล้วมีอะไรก็ต้องเปิดเผยทั้งหมด.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]