รมว.ต่างประเทศ เผยไทย-กัมพูชา สัมพันธ์ดีทุกระดับ

กัมพูชา 9 มี.ค.- “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เผยไทย-กัมพูชา สัมพันธ์ดีทุกระดับ พร้อมหารือร่วมแก้ปัญหาลุ่มน้ำโขง ฝุ่น PM 2.5 เตรียมป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานซุกกัมพูชา และเพื่อนบ้านไทย พร้อมตอบปมสร้างกำแพงกั้น เป็นแค่แนวคิดเจ้าหน้าที่ ไม่ถึงขั้นข้อสั่งการนายกฯ ต้องรับฟังผลดี ผลเสีย ผลกระทบประชาชน 2 ฝั่ง

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเดินทางมาเยือนกัมพูชาระหว่างวันที่ 7-9 มี.ค. ว่าการเดินทางมาที่กัมพูชาครั้งนี้ เนื่องจากและนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา เชิญตนมาเป็นประธานร่วมในการเปิดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร สนับสนุนโดยสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 เป็นการแข่งขันของภาคประชาชน เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าไปในการแข่งกีฬา


แต่ภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยและกัมพูชา ถือว่าดีมากทั้งในส่วนของผู้นำทุกระดับ รวมถึงตน และนายปรัก สุคน แม้กระทั่งรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในหลากหลายมิติมีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว การเดินทางมาที่กัมพูชาในครั้งนี้ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐกับรัฐซึ่งดีมากอยู่แล้ว ได้ถ่ายทอดไปสู่สังคมทุกระดับ ทั้งนักธุรกิจ ประชาชน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น

“ความร่วมมือทั้งหลายของรัฐต่อรัฐ ในท้ายที่สุดแล้วก็จะได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่จะทำให้นโยบายที่ดี ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐต่อรัฐสามารถถ่ายทอดลงไปได้อย่างทั่วถึง และทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมีความยั่งยืน นั่นคือสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาลุ่มแม่น้ำโขง หรือการเจรจาความร่วมมือในการแก้ไขป้องกันฝุ่น PM 2.5 ความร่วมมือในการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ซึ่งก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุนมาเนต ซึ่งมีการพูดคุยหารือกันอยู่ตลอดเวลา นี่แสดงให้เห็นว่าทุกๆ มิติ ความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาเป็นไปด้วยดี และค่อนข้างยั่งยืน เพราะว่ามีอะไรก็สามารถพูดคุยกันได้” นายมาริษ กล่าว


เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่วมกัน นายมาริษ กล่าวว่า เราพยายามมองเรื่องของเส้นแดนไทยกับเมียนมายังไม่สำเร็จเต็มที่ 100% ยังต้องแก้ไขปัญหาต่อในเรื่องของการเอาคนที่เป็นเหยื่อสแกมเมอร์กลับประเทศให้ได้มากที่สุด ส่วนปัญหานี้ในฟากของกัมพูชานั้น ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็ได้พูดคุยกับนายปรัก สุคน และในส่วนของทหารก็มีความร่วมมือกัน ซึ่งขณะนี้เราพยายามจะควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้การปราบปรามที่เมียนมาแล้ว ขยายตัวมาที่กัมพูชา ซึ่งสัญญาณว่าจะมาหรือไม่นั้นมันมีอยู่แล้ว ส่วนมากหรือน้อยเราก็จับตาอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันดีว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่กลุ่มนี้มีอิทธิพลมาจากประเทศอื่นด้วย เราจึงต้องมีความร่วมมือกันทุกๆ ฝ่าย ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญอยู่แล้ว และขอเรียนว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ที่เราต้องการแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“ตอนนี้เรามอนิเตอร์อยู่ตลอด ถ้ามีสัญญาณเราก็จะต้องมีความร่วมมือกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น ขณะนี้เราคุยกันไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรหากมีการย้ายฐานของการกระทำผิดกฎหมายไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น กับลาวก็ได้มีการพูดคุยกัน นี่ก็เป็นนโยบายของนายกฯ แพทองธารเหมือน เมื่อไหร่มีสัญญาณมาเราก็เริ่มเลย แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้ไม่ทำอะไร เราก็ทำอยู่” นายมาริษ กล่าว


เมื่อถามถึงกรณี นายกฯ สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม หารือกับฝ่ายกัมพูชา ร่วมกันศึกษาแนวคิดสร้างกำแพงกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา หวังช่วยปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การลักลอบข้ามแดนหรือลักลอบขนสินค้า มีการหารือกันหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้ เป็นความคิดของหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่ว่านายกฯ จะสั่งการทุกสิ่ง แต่เป็นเรื่องการคิด เพราะฉะนั้น ต้องมีการพูดคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียก่อน เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่หน่วยงานของไทยเท่านั้น แต่เรายังต้องคุยกับกัมพูชาด้วย แต่ ณ ขณะนี้ ตนคิดว่ามันยังเป็นแค่ความคิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเรา เพราะฉะนั้น จึงยังไม่จำเป็นที่จะต้องยกขึ้นมาคุยกับเขา เพราะว่า มันยังเป็นแนวความคิดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องปรึกษาหารือกันต่อไปว่า มีปัจจัยต่างๆ อะไรเข้ามาเกี่ยวข้องอีก จะกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงเรื่องงบประมาณมีความคุ้มหรือไมา เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ใช่ข้อสั่งการ ไม่ใช่เป็นแนวทางที่จะทำกัน แต่ตอนนี้อยู่ในการรับฟังดูว่า แต่ละคนมีความเห็นกันอย่างไร แล้วเรื่องนี้ตนก็ยังไม่ได้มีการรับฟังอะไรจากทางกัมพูชา

“มันเป็นความพยายามแก้ไขปัญหาเท่าที่จะสามารถทำได้ อยู่บนพื้นฐานว่าจะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งต้องฟังข้อดี ข้อเสียที่จะเกิดขึ้น จึงให้พื้นที่คิดกันว่าอย่างไรเหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย มันต้องคุยกัน” นายมาริษ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย