รมว.ต่างประเทศ เผยไทย-กัมพูชา สัมพันธ์ดีทุกระดับ

กัมพูชา 9 มี.ค.- “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เผยไทย-กัมพูชา สัมพันธ์ดีทุกระดับ พร้อมหารือร่วมแก้ปัญหาลุ่มน้ำโขง ฝุ่น PM 2.5 เตรียมป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานซุกกัมพูชา และเพื่อนบ้านไทย พร้อมตอบปมสร้างกำแพงกั้น เป็นแค่แนวคิดเจ้าหน้าที่ ไม่ถึงขั้นข้อสั่งการนายกฯ ต้องรับฟังผลดี ผลเสีย ผลกระทบประชาชน 2 ฝั่ง

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเดินทางมาเยือนกัมพูชาระหว่างวันที่ 7-9 มี.ค. ว่าการเดินทางมาที่กัมพูชาครั้งนี้ เนื่องจากและนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา เชิญตนมาเป็นประธานร่วมในการเปิดการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร สนับสนุนโดยสถาบันโพธิคยาวิชาลัย 980 เป็นการแข่งขันของภาคประชาชน เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเข้าไปในการแข่งกีฬา


แต่ภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยและกัมพูชา ถือว่าดีมากทั้งในส่วนของผู้นำทุกระดับ รวมถึงตน และนายปรัก สุคน แม้กระทั่งรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในหลากหลายมิติมีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว การเดินทางมาที่กัมพูชาในครั้งนี้ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐกับรัฐซึ่งดีมากอยู่แล้ว ได้ถ่ายทอดไปสู่สังคมทุกระดับ ทั้งนักธุรกิจ ประชาชน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น

“ความร่วมมือทั้งหลายของรัฐต่อรัฐ ในท้ายที่สุดแล้วก็จะได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่จะทำให้นโยบายที่ดี ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐต่อรัฐสามารถถ่ายทอดลงไปได้อย่างทั่วถึง และทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมีความยั่งยืน นั่นคือสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาลุ่มแม่น้ำโขง หรือการเจรจาความร่วมมือในการแก้ไขป้องกันฝุ่น PM 2.5 ความร่วมมือในการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ซึ่งก็มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุนมาเนต ซึ่งมีการพูดคุยหารือกันอยู่ตลอดเวลา นี่แสดงให้เห็นว่าทุกๆ มิติ ความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาเป็นไปด้วยดี และค่อนข้างยั่งยืน เพราะว่ามีอะไรก็สามารถพูดคุยกันได้” นายมาริษ กล่าว


เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่วมกัน นายมาริษ กล่าวว่า เราพยายามมองเรื่องของเส้นแดนไทยกับเมียนมายังไม่สำเร็จเต็มที่ 100% ยังต้องแก้ไขปัญหาต่อในเรื่องของการเอาคนที่เป็นเหยื่อสแกมเมอร์กลับประเทศให้ได้มากที่สุด ส่วนปัญหานี้ในฟากของกัมพูชานั้น ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็ได้พูดคุยกับนายปรัก สุคน และในส่วนของทหารก็มีความร่วมมือกัน ซึ่งขณะนี้เราพยายามจะควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้การปราบปรามที่เมียนมาแล้ว ขยายตัวมาที่กัมพูชา ซึ่งสัญญาณว่าจะมาหรือไม่นั้นมันมีอยู่แล้ว ส่วนมากหรือน้อยเราก็จับตาอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันดีว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่กลุ่มนี้มีอิทธิพลมาจากประเทศอื่นด้วย เราจึงต้องมีความร่วมมือกันทุกๆ ฝ่าย ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญอยู่แล้ว และขอเรียนว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ที่เราต้องการแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

“ตอนนี้เรามอนิเตอร์อยู่ตลอด ถ้ามีสัญญาณเราก็จะต้องมีความร่วมมือกันอย่างเข้มข้นมากขึ้น ขณะนี้เราคุยกันไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรหากมีการย้ายฐานของการกระทำผิดกฎหมายไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แค่กัมพูชาเท่านั้น กับลาวก็ได้มีการพูดคุยกัน นี่ก็เป็นนโยบายของนายกฯ แพทองธารเหมือน เมื่อไหร่มีสัญญาณมาเราก็เริ่มเลย แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้ไม่ทำอะไร เราก็ทำอยู่” นายมาริษ กล่าว


เมื่อถามถึงกรณี นายกฯ สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม หารือกับฝ่ายกัมพูชา ร่วมกันศึกษาแนวคิดสร้างกำแพงกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา หวังช่วยปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การลักลอบข้ามแดนหรือลักลอบขนสินค้า มีการหารือกันหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้ เป็นความคิดของหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่ว่านายกฯ จะสั่งการทุกสิ่ง แต่เป็นเรื่องการคิด เพราะฉะนั้น ต้องมีการพูดคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียก่อน เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่หน่วยงานของไทยเท่านั้น แต่เรายังต้องคุยกับกัมพูชาด้วย แต่ ณ ขณะนี้ ตนคิดว่ามันยังเป็นแค่ความคิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเรา เพราะฉะนั้น จึงยังไม่จำเป็นที่จะต้องยกขึ้นมาคุยกับเขา เพราะว่า มันยังเป็นแนวความคิดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องปรึกษาหารือกันต่อไปว่า มีปัจจัยต่างๆ อะไรเข้ามาเกี่ยวข้องอีก จะกระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงเรื่องงบประมาณมีความคุ้มหรือไมา เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ใช่ข้อสั่งการ ไม่ใช่เป็นแนวทางที่จะทำกัน แต่ตอนนี้อยู่ในการรับฟังดูว่า แต่ละคนมีความเห็นกันอย่างไร แล้วเรื่องนี้ตนก็ยังไม่ได้มีการรับฟังอะไรจากทางกัมพูชา

“มันเป็นความพยายามแก้ไขปัญหาเท่าที่จะสามารถทำได้ อยู่บนพื้นฐานว่าจะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งต้องฟังข้อดี ข้อเสียที่จะเกิดขึ้น จึงให้พื้นที่คิดกันว่าอย่างไรเหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย มันต้องคุยกัน” นายมาริษ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

เสียงปืนสนั่นชายแดนพบพระ ผู้ปกครองไม่กล้าพาลูกไป รร.

ตาก 28 พ.ค. – เช้านี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตึงเครียดหนัก ทหารกะเหรี่ยงและทหารเมียนมายิงปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ปกครองไม่กล้าพาบุตรหลานมาโรงเรียนแนวชายแดน และบางส่วนพึ่งหลุมหลบภัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ( KNLA ) พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชน (PDF) จำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมาได้บุกโจมตีทหารเมียนมา จากกองบังคับการควบคุมยุทธการที่ 13 จำนวนกว่า 70 คน ที่กำลังเดินทัพไปเสริมกำลังที่ฐานบ้านทิบาโบ แต่ระหว่างทางถูกทหารกะเหรี่ยงเข้าสกัดจนเกิดการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่บริเวณสนามกีฬาบ้านส่งซี่เมี่ยน อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1กิโลเมตร รวมถึงทหารเมียนมาจากฐานทิบาโบ ซึ่งเป็นฐานขนาดใหญ่ ก็ได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าช่วยเหลือทหารเมียนมาด้วย เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้าน หมู่บ้านมอเกอไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านฝั่งไทยที่ติดกับพื้นที่ยิงปะทะ เตรียมความพร้อมไปอยู่ในหลุมหลบภัย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน มอเกอไทย เผยว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติแต่มีเด็กมาเรียนน้อย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงเรื่องความปลอดภัยจึงให้บุตรหลานหยุดเรียน โดยมีทหารชุดเฉพาะกิจราชมนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมอเกอ […]

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.-มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

paper with statement supports Harvard

ม.ฮาร์วาร์ดแสดงพลังหนุนนักศึกษาต่างชาติ

เคมบริดจ์ 28 พ.ค.- นักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของสหรัฐ ชุมนุมแสดงพลังสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติ และเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยยืนหยัดท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลกลาง การชุมนุมเมื่อวานนี้มีขึ้นที่ด้านนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ นักศึกษาและอาจารย์หลายคนผลัดกันขึ้นพูดบนโต๊ะที่ใช้เป็นเวทีชั่วคราว ประธานนักศึกษาชุมชนชาวยิวในฮาร์วาร์ดกล่าวว่า กระแสต่อต้านชาวยิวเป็นปัญหาในฮาร์วาร์ดและปัญหาของสหรัฐมายาวนาน แต่นโยบายของรัฐบาลไม่ช่วยแก้ปัญหานี้เลย ขณะที่อาจารย์รัฐศาสตร์คนหนึ่งกล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการล้มมหาวิทยาลัยที่ยืนหยัดเรื่องการมีความคิดและการแสดงออกอย่างเสรี เพราะเป็นสิ่งที่ขวางทางเผด็จการ และในวันเดียวกัน สำนักงานบริหารงานบริการทั่วไปได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทบทวน และอาจยกเลิกสัญญาที่เหลืออยู่กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,270 ล้านบาท) หลังจากที่ได้ยกเลิกเงินให้เปล่าด้านการวิจัยมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 98,150 ล้านบาท) ไปแล้ว รวมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ในการรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมีอยู่ราว 6,800 คน คิดเป็นร้อยละ 27 ของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]