“จิราพร” เล็งสรุปมาตรการแก้บุหรี่ไฟฟ้า ชงตั้ง คกก.ดูแลระยะยาว

ทำเนียบ 6 มี.ค.- “จิราพร” เผยเตรียมสรุปมาตรการแก้บุหรี่ไฟฟ้า เสนอตั้งคณะกรรมการฯกำกับดูแลระยะยาว เสนอ “นายกฯ แพทองธาร” ไม่เกิน 15 มี.ค.นี้ ระบุเรียกแพลตฟอร์มออนไลน์-ขนส่ง หารือสกัดขายแล้ว เตรียมเปิดแพลตฟอร์มแจ้งเบาะแส คาดแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์


นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นประธานการประชุม ติดตามการแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า หลังจากประชุมไปแล้ว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการปราบปรามระยะเร่งด่วน และการประชาสัมพันธ์ ปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมาย พร้อมกับนำเสนอมาตรการแก้ปัญหาระยะยาว ทั้งนี้ สถิติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1-26 กุมภาพันธ์ 2568 มีการจับกุมปราบปรามไปแล้ว 666 คดี ยึดของกลางได้กว่า 4 แสนชิ้น รวมมูลค่า 41 ล้านบาทเศษ ตนจึงสั่งการในที่ประชุมว่าภายในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายและปราบปราม เช่น กรมศุลกากร กระทรวงมหาดไทย สคบ. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่มีการปิดกั้นเว็บยูอาร์แอลต่างๆ ให้สรุปข้อมูลทั้งหมดไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรวบรวมข้อมูลยอดการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าก่อนนำเรียนนายกรัฐมนตรีทุกสัปดาห์ และจะมีการแถลงข่าวให้ประชาชนได้รับทราบ

นางสาวจิราพร กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะมีหน่วยงานต่าง ๆ รับแจ้งเบาะแส เช่น สายด่วน สคบ. 1599 สายด่วนกระทรวงดีอีฯ 1212 หรือศูนย์ดำรงธรรมแต่ละจังหวัด ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสบุหรี่ไฟฟ้าได้ ขณะเดียวกัน สคบ.ได้มีการปรับปรุงเว็บไซต์ เพิ่มแบนเนอร์แจ้งเบาะแสบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะอีกด้วย ขณะที่การแก้ปัญหาระยะยาว สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (ดีจีเอ) กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ประชาชนแจ้งเบาะแส คาดว่าภายใน 1 – 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ โดยจะมีการรวบรวมเบาะแสต่างๆ ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งแบบฟอร์มนี้จะแสดงยอดการแจ้งเบาะแส และยอดการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อจะได้เห็นความคืบหน้าการทำงานของเจ้าหน้าที่


ส่วนการประชาสัมพันธ์จะสร้างการตระหนักรู้โทษของบุหรี่ไฟฟ้า และข้อกฎหมายต่าง ๆ จะเน้นไปที่สถานศึกษาซึ่งเป็นข้อกังวลของนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข จะต้องทำงานกันอย่างใกล้ชิด ส่วนการแก้ไขข้อกฎหมายได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปดูว่ามีกฎหมายฉบับใดที่ต้องปรับปรุง และในระยะยาวหากจำเป็นจะต้องมีคณะกรรมการเพื่อดูกฎหมายฉบับที่เกี่ยวข้องกันแล้วนำไปแก้ไข นอกจากนี้ ยังหารือถึงการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในระยะยาวที่จะต้องมีประสิทธิภาพ คือการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ซึ่งจะเรียนนายกรัฐมนตรีให้รับทราบตามกรอบระยะเวลา 15 วัน ที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานเรื่องนี้ คือไม่เกินวันที่ 15 มีนาคมนี้ จะได้มีการหารือกันในประเด็นนี้

ขณะที่การแจ้งเบาะแสเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ว่าหากมีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามากรณีร้านค้าออนไลน์ ทางกระทรวงดีอีจะมีเอไอตรวจจับตามคีย์เวิร์ด ซึ่งจะมีการประสานให้เอาลงจากแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกันจะมีการเก็บข้อมูลโดยเอไอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ ซึ่งจะทำในระยะเวลาที่เร็วที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เชิญแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งเพื่อกำชับไม่ให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ซึ่งผู้ให้บริการทุกแพลตฟอร์มให้ความร่วมมืออย่างดี และพร้อมดำเนินการได้ทันทีเพราะเขามีระบบอยู่แล้ว เพียงแต่จะใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการขนส่งทุกราย หลังจากนี้ตรงจุดส่งสินค้าจะมีการติดป้ายว่าไม่ให้มีการส่งบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะมีรายละเอียดที่ทางสคบ. ส่งให้ผู้ประกอบการไปดูต่อ

สำหรับการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า พบว่าลักลอบนำเข้าทางเรือมากที่สุด รวมถึงตามด่านชายแดนต่าง ๆ โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเราได้มีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน รวมถึงมาตรการปราบปรามร้านค้าทั้งที่มีที่ตั้ง และออนไลน์ด้วยภายในประเทศ ซึ่งศุลกากรจะเป็นหน่วยงานหลักที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง โดยจะบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นมากขึ้น ตนได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมศุลกากร ว่าต่อจากนี้ทุกเคสที่มีการจับกุมได้ที่ด่านศุลกากรจะไม่มีการระงับคดีเด็ดขาด แต่จะส่งให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สืบเส้นทางการเงิน และนำสู่การยึดทรัพย์ แล้วจะส่งให้ตำรวจสอบสวนกลางดำเนินคดีต่อ


นางสาวจิราพร กล่าวอีกว่า ส่วนของกลางที่ยึดจับกุมได้หากคดีถึงที่สุดแล้วจะมีการทำลาย ซึ่งขณะนี้ศุลกากรกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะทำลายรูปแบบไหน แต่ก็ทราบว่างบประมาณส่วนนี้ยังไม่เพียงพอซึ่งจะนำปรึกษานายกรัฐมนตรีต่อไป ส่วนของกลางที่จับกุมใหม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อนจึงจะทำลายได้

ทั้งนี้ เราต้องทำให้ผู้ลักลอบนำเข้ามีค่าใช้จ่ายมากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ทำผิดซ้ำได้อีก และมีการใช้กฎหมายที่เข้มข้นขึ้น หลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อย หากของกลางมูลค่าเกิน 5 แสนบาท จะส่งป.ป.ง.ดำเนินการต่อทันที แต่หากต่ำกว่า 5 แสนบาท จะมีการสืบทรัพย์ส่งป.ป.ง.ดำเนินการต่อเช่นกัน .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน

ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 8 นครศรีธรรมราช

ชาวนครศรีธรรมราช ในเขต 8 ซึ่งประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ ฉวาง พิปูน นาบอน และช้างกลาง ทยอยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส. หลังเปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ประธาน กกต. เผยยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง