เชื่อ DSI สาวคดีอั้งยี่ซ่องโจรฮั้ว สว.ได้ผ่านเส้นทางการเงิน

รัฐสภา 6 มี.ค. – นักวิชาการอิสระ เชื่อ DSI สาวคดีอั้งยี่ซ่องโจรฮั้ว สว.ได้ผ่านเส้นทางการเงิน ชี้หากสอบเส้นถึงเชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองอาจถึงขั้นยุบพรรค


นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ให้ความเห็นภายหลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ คณะกรรมการ กคพ.ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สามารถดำเนินคดีฟอกเงินในการฮั้ว สว.ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องเสนอให้คณะกรรมการ กคพ.พิจารณาว่า จะต้องทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ DSI รับคดี แต่เป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ กคพ.ตามกฎหมาย DSI เพราะปกติคดีตามปกติอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถพิจารณาได้เอง แต่คดีนี้ มีความละเอียดอ่อน จึงทำให้คณะกรรมการ กคพ.หารือกัน และมีมติ พร้อมมองว่า คำว่าผิดฐานฮั้ว ตอนนี้ทำให้สังคมสับสน รวมถึงยังมีการพูดคุยการฟอกเงิน ซึ่งตามกฎหมายไม่ได้ระบุถึงคำว่าฮั้ว แต่ความผิดที่คณะกรรมการ กคพ.ให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 เกี่ยวข้องกับการเสนอผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นตัวเงิน จึงเข้ามูลฐานการฟอกเงิน และเพื่อให้สังคมเห็นว่า DSI ไม่ได้ล้วงลูก กกต.แต่มีความเชื่อมโยงกับคดีพิเศษผ่านช่องทางกฎหมายช่องเงิน และเกี่ยวข้องกับการได้มา สว.ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติ จึงต้องระมัดระวัง เพราะหาก DSI รับเป็นคดีพิเศษเอง อาจทำให้อธิบดี DSI ต้องรับเผือกร้อนเพียงคนเดียว แต่เมื่อผ่านคณะกรรมการ กคพ.แล้ว ก็ถือว่าได้ดำเนินการรอบคอบ มีข้อกฎหมายรองรับ

นักกฎหมายอิสระ ยังมองว่า กรณีที่ DSI ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 21 วรรค 2 ซึ่งให้อำนาจ DSI พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับการฟอกเงินได้ เมื่อมีการสืบสวนพบหลักฐานหลายชิ้นเชื่อมโยงการกระทำเดียวกัน ก็สามารถเชื่อมโยงหลายความผิดเป็นอั้งยี่ซ่องโจรได้ เมื่อมีหลายความผิดหลายความผิดเกี่ยวโยงกัน ก็จะเข้าข่ายการเป็นคดีพิเศษ ที่ DSI สามารถเรียกพยานหลักฐานได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง ดังนั้น หลังจากนี้ DSI ก็สามารถสืบสวนพยานหลักฐานทั้งโพยต่าง ๆ หรือ SMS และยังสามารถขอความร่วมมือจาก กกต.ในคดีได้


นักกฎหมายอิสระ ยังเห็นว่า ยังมีหลักฐานที่ไปร้องเรียนประธาน กกต.ที่เลขาธิการ กกต.รับทราบการพกโพยเข้าสถานที่ออกเสียง เลขาธิการ กกต.ก็จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ เข้าข่ายการทุจริต เอื้อประโยชน์ได้ จึงจะต้องตรวจสอบผลของการใช้อำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ไปเกี่ยวข้องกับ DSI ด้วย ขณะนี้ จึงเป็นสัญญาณที่ดีที่ DSI รับคดีดังกล่าวในส่วนของการฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ พร้อมเรียกร้องให้เลขาธิการ กกต.ชี้แจง เหตุใดเมื่อมีการร้องเรียนเรื่องโพยแล้ว แต่กลับอนุญาตให้ผู้สมัครสามารถนำโพยเข้าไปได้อีก และยังมีการพบโพยที่ถูกขยำไว้อีก จึงขอให้ผู้ที่มีหลักฐาน เก็บพยานหลักฐานไว้ เพื่อให้ DSI สามารถตรวจสอบเศษหนังกำพร้าบนนิ้วมือ ที่ไปแตะบนโพยและตรวจ DNA ของผู้สมัครคนนั้นได้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะทำให้สามารถสืบหาผู้เขียนโพย การประชุม การแจกโพย เส้นทางการเงิน SMS ต่าง ๆ การขึ้นรถได้ และรายได้ 100 กว่าคนที่ถูกกล่าวอ้างร่วมกระทำความผิด DSI จะเริ่มกันไว้เป็นพยาน และอาจไม่เอาผิด ซึ่งอาจจะมีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ยอมสารภาพเพื่อกันไว้เป็นพยาน

ส่วนการที่ DSI รับเฉพาะส่วนคดีการฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ที่จะต้องใช้เวลาในการสืบสวนเส้นทางการเมือง จะเป็นการรับไว้ เพื่อเป็นตัวประกันต่อรองทางการเมืองหรือไม่นั้น นักกฎหมายอิสระ มองว่า การรับเฉพาะส่วนการฟอกเงิน เป็นเพราะมีความชัดเจนที่สุดแล้ว เพราะไม่สามารถรับในฐานอั้งยี่ ซ่องโจรได้ เพราะไม่ได้อยู่ในบัญชี และต้องอาศัยมติพิเศษ ซึ่งจะเกิดข้อถกเถียง ทั้งที่ฟอกเงินในความหมายคดี มาจากมาตรา 77 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว.ก็เข้าเงื่อนไขอั้งยี่ ซ่องโจรกลาย ๆ เพราะเป็นการรวมตัวกันเสนอให้ผลประโยชน์ วางแผนเป็นองค์กรอาชญากรรม และอีกเงื่อนไขการได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศ เป็นองค์กรที่สำคัญทางรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญในอดีต เคยวางแนววินิจฉัยไว้แล้วหลังรัฐประหาร 2549 ขณะที่มี สว.เลือกตั้ง และแต่งตั้ง ซึ่งมีความพยายามแก้ที่มา สว.ให้เป็นการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ศาลฯ เห็นว่า ผู้ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ สว.ไม่คานอำนาจ สส.ผู้นั้น เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่คราวนี้ หาก DSI สืบสวนพบว่า การดำเนินการใด ๆ มีโพย SMS หรือโอนเงิน นัดเจอกันโรงแรม ลงคะแนนไปในทางเดียวกัน และโยงไปถึงพรรคการเมือง ที่มี สส.ในสภาได้ ก็อาจจะมีผู้เสนอให้ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยพยายามได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ หรือล้มล้างการปกครอง เหมือนที่เคยมีการร้องเรียนในอดีต เพียงแก้รัฐธรรมนูญยังผิด แต่คราวนี้หากพบหลักฐาน และศาลระบุว่าผิด ก็อาจมีการตีความถึงการยุบพรรคการเมืองบางพรรคที่เกี่ยวข้องได้ แต่ตามกระแสข่าว มีผู้ที่มีหลักฐานพร้อมออกมาเปิดเผย เมื่อ DSI รับเป็นคดีพิเศษแล้ว ผู้ที่มีหลักฐานสามารถเข้าสู่สำนวนคดีได้เต็มที่ .-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]