เชื่อ DSI สาวคดีอั้งยี่ซ่องโจรฮั้ว สว.ได้ผ่านเส้นทางการเงิน

รัฐสภา 6 มี.ค. – นักวิชาการอิสระ เชื่อ DSI สาวคดีอั้งยี่ซ่องโจรฮั้ว สว.ได้ผ่านเส้นทางการเงิน ชี้หากสอบเส้นถึงเชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองอาจถึงขั้นยุบพรรค


นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ให้ความเห็นภายหลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ คณะกรรมการ กคพ.ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สามารถดำเนินคดีฟอกเงินในการฮั้ว สว.ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องเสนอให้คณะกรรมการ กคพ.พิจารณาว่า จะต้องทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ DSI รับคดี แต่เป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ กคพ.ตามกฎหมาย DSI เพราะปกติคดีตามปกติอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถพิจารณาได้เอง แต่คดีนี้ มีความละเอียดอ่อน จึงทำให้คณะกรรมการ กคพ.หารือกัน และมีมติ พร้อมมองว่า คำว่าผิดฐานฮั้ว ตอนนี้ทำให้สังคมสับสน รวมถึงยังมีการพูดคุยการฟอกเงิน ซึ่งตามกฎหมายไม่ได้ระบุถึงคำว่าฮั้ว แต่ความผิดที่คณะกรรมการ กคพ.ให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 เกี่ยวข้องกับการเสนอผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นตัวเงิน จึงเข้ามูลฐานการฟอกเงิน และเพื่อให้สังคมเห็นว่า DSI ไม่ได้ล้วงลูก กกต.แต่มีความเชื่อมโยงกับคดีพิเศษผ่านช่องทางกฎหมายช่องเงิน และเกี่ยวข้องกับการได้มา สว.ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติ จึงต้องระมัดระวัง เพราะหาก DSI รับเป็นคดีพิเศษเอง อาจทำให้อธิบดี DSI ต้องรับเผือกร้อนเพียงคนเดียว แต่เมื่อผ่านคณะกรรมการ กคพ.แล้ว ก็ถือว่าได้ดำเนินการรอบคอบ มีข้อกฎหมายรองรับ

นักกฎหมายอิสระ ยังมองว่า กรณีที่ DSI ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 21 วรรค 2 ซึ่งให้อำนาจ DSI พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับการฟอกเงินได้ เมื่อมีการสืบสวนพบหลักฐานหลายชิ้นเชื่อมโยงการกระทำเดียวกัน ก็สามารถเชื่อมโยงหลายความผิดเป็นอั้งยี่ซ่องโจรได้ เมื่อมีหลายความผิดหลายความผิดเกี่ยวโยงกัน ก็จะเข้าข่ายการเป็นคดีพิเศษ ที่ DSI สามารถเรียกพยานหลักฐานได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง ดังนั้น หลังจากนี้ DSI ก็สามารถสืบสวนพยานหลักฐานทั้งโพยต่าง ๆ หรือ SMS และยังสามารถขอความร่วมมือจาก กกต.ในคดีได้


นักกฎหมายอิสระ ยังเห็นว่า ยังมีหลักฐานที่ไปร้องเรียนประธาน กกต.ที่เลขาธิการ กกต.รับทราบการพกโพยเข้าสถานที่ออกเสียง เลขาธิการ กกต.ก็จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ เข้าข่ายการทุจริต เอื้อประโยชน์ได้ จึงจะต้องตรวจสอบผลของการใช้อำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ไปเกี่ยวข้องกับ DSI ด้วย ขณะนี้ จึงเป็นสัญญาณที่ดีที่ DSI รับคดีดังกล่าวในส่วนของการฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ พร้อมเรียกร้องให้เลขาธิการ กกต.ชี้แจง เหตุใดเมื่อมีการร้องเรียนเรื่องโพยแล้ว แต่กลับอนุญาตให้ผู้สมัครสามารถนำโพยเข้าไปได้อีก และยังมีการพบโพยที่ถูกขยำไว้อีก จึงขอให้ผู้ที่มีหลักฐาน เก็บพยานหลักฐานไว้ เพื่อให้ DSI สามารถตรวจสอบเศษหนังกำพร้าบนนิ้วมือ ที่ไปแตะบนโพยและตรวจ DNA ของผู้สมัครคนนั้นได้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะทำให้สามารถสืบหาผู้เขียนโพย การประชุม การแจกโพย เส้นทางการเงิน SMS ต่าง ๆ การขึ้นรถได้ และรายได้ 100 กว่าคนที่ถูกกล่าวอ้างร่วมกระทำความผิด DSI จะเริ่มกันไว้เป็นพยาน และอาจไม่เอาผิด ซึ่งอาจจะมีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ยอมสารภาพเพื่อกันไว้เป็นพยาน

ส่วนการที่ DSI รับเฉพาะส่วนคดีการฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ที่จะต้องใช้เวลาในการสืบสวนเส้นทางการเมือง จะเป็นการรับไว้ เพื่อเป็นตัวประกันต่อรองทางการเมืองหรือไม่นั้น นักกฎหมายอิสระ มองว่า การรับเฉพาะส่วนการฟอกเงิน เป็นเพราะมีความชัดเจนที่สุดแล้ว เพราะไม่สามารถรับในฐานอั้งยี่ ซ่องโจรได้ เพราะไม่ได้อยู่ในบัญชี และต้องอาศัยมติพิเศษ ซึ่งจะเกิดข้อถกเถียง ทั้งที่ฟอกเงินในความหมายคดี มาจากมาตรา 77 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว.ก็เข้าเงื่อนไขอั้งยี่ ซ่องโจรกลาย ๆ เพราะเป็นการรวมตัวกันเสนอให้ผลประโยชน์ วางแผนเป็นองค์กรอาชญากรรม และอีกเงื่อนไขการได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศ เป็นองค์กรที่สำคัญทางรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญในอดีต เคยวางแนววินิจฉัยไว้แล้วหลังรัฐประหาร 2549 ขณะที่มี สว.เลือกตั้ง และแต่งตั้ง ซึ่งมีความพยายามแก้ที่มา สว.ให้เป็นการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ศาลฯ เห็นว่า ผู้ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ สว.ไม่คานอำนาจ สส.ผู้นั้น เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่คราวนี้ หาก DSI สืบสวนพบว่า การดำเนินการใด ๆ มีโพย SMS หรือโอนเงิน นัดเจอกันโรงแรม ลงคะแนนไปในทางเดียวกัน และโยงไปถึงพรรคการเมือง ที่มี สส.ในสภาได้ ก็อาจจะมีผู้เสนอให้ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยพยายามได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ หรือล้มล้างการปกครอง เหมือนที่เคยมีการร้องเรียนในอดีต เพียงแก้รัฐธรรมนูญยังผิด แต่คราวนี้หากพบหลักฐาน และศาลระบุว่าผิด ก็อาจมีการตีความถึงการยุบพรรคการเมืองบางพรรคที่เกี่ยวข้องได้ แต่ตามกระแสข่าว มีผู้ที่มีหลักฐานพร้อมออกมาเปิดเผย เมื่อ DSI รับเป็นคดีพิเศษแล้ว ผู้ที่มีหลักฐานสามารถเข้าสู่สำนวนคดีได้เต็มที่ .-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้

นางสงกรานต์ปี 68 นาม “ทุงสะเทวี” ธัญญาหาร-ประชาชนสุขสมบูรณ์

ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ ปี 2568 วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี

ขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมียวดีกลับจีน รอบ 2

เริ่มแล้วปฏิบัติการขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมืองเมียวดี กลับจีน รอบ 2 จำนวน 4 วัน 19 เที่ยวบิน รวมกว่า 1,400 คน

ฮั้วเลือก สว.

DSI รับเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ

6 มี.ค. – คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงิน ด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้ โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน […]