เชื่อ DSI สาวคดีอั้งยี่ซ่องโจรฮั้ว สว.ได้ผ่านเส้นทางการเงิน

รัฐสภา 6 มี.ค. – นักวิชาการอิสระ เชื่อ DSI สาวคดีอั้งยี่ซ่องโจรฮั้ว สว.ได้ผ่านเส้นทางการเงิน ชี้หากสอบเส้นถึงเชื่อมโยงถึงพรรคการเมืองอาจถึงขั้นยุบพรรค


นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ให้ความเห็นภายหลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ คณะกรรมการ กคพ.ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สามารถดำเนินคดีฟอกเงินในการฮั้ว สว.ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องเสนอให้คณะกรรมการ กคพ.พิจารณาว่า จะต้องทำความเข้าใจว่า ไม่ใช่ DSI รับคดี แต่เป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการ กคพ.ตามกฎหมาย DSI เพราะปกติคดีตามปกติอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถพิจารณาได้เอง แต่คดีนี้ มีความละเอียดอ่อน จึงทำให้คณะกรรมการ กคพ.หารือกัน และมีมติ พร้อมมองว่า คำว่าผิดฐานฮั้ว ตอนนี้ทำให้สังคมสับสน รวมถึงยังมีการพูดคุยการฟอกเงิน ซึ่งตามกฎหมายไม่ได้ระบุถึงคำว่าฮั้ว แต่ความผิดที่คณะกรรมการ กคพ.ให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 เกี่ยวข้องกับการเสนอผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นตัวเงิน จึงเข้ามูลฐานการฟอกเงิน และเพื่อให้สังคมเห็นว่า DSI ไม่ได้ล้วงลูก กกต.แต่มีความเชื่อมโยงกับคดีพิเศษผ่านช่องทางกฎหมายช่องเงิน และเกี่ยวข้องกับการได้มา สว.ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติ จึงต้องระมัดระวัง เพราะหาก DSI รับเป็นคดีพิเศษเอง อาจทำให้อธิบดี DSI ต้องรับเผือกร้อนเพียงคนเดียว แต่เมื่อผ่านคณะกรรมการ กคพ.แล้ว ก็ถือว่าได้ดำเนินการรอบคอบ มีข้อกฎหมายรองรับ

นักกฎหมายอิสระ ยังมองว่า กรณีที่ DSI ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวการได้มาซึ่ง สว.มาตรา 77 แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 21 วรรค 2 ซึ่งให้อำนาจ DSI พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับการฟอกเงินได้ เมื่อมีการสืบสวนพบหลักฐานหลายชิ้นเชื่อมโยงการกระทำเดียวกัน ก็สามารถเชื่อมโยงหลายความผิดเป็นอั้งยี่ซ่องโจรได้ เมื่อมีหลายความผิดหลายความผิดเกี่ยวโยงกัน ก็จะเข้าข่ายการเป็นคดีพิเศษ ที่ DSI สามารถเรียกพยานหลักฐานได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง ดังนั้น หลังจากนี้ DSI ก็สามารถสืบสวนพยานหลักฐานทั้งโพยต่าง ๆ หรือ SMS และยังสามารถขอความร่วมมือจาก กกต.ในคดีได้


นักกฎหมายอิสระ ยังเห็นว่า ยังมีหลักฐานที่ไปร้องเรียนประธาน กกต.ที่เลขาธิการ กกต.รับทราบการพกโพยเข้าสถานที่ออกเสียง เลขาธิการ กกต.ก็จะต้องชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ เข้าข่ายการทุจริต เอื้อประโยชน์ได้ จึงจะต้องตรวจสอบผลของการใช้อำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ไปเกี่ยวข้องกับ DSI ด้วย ขณะนี้ จึงเป็นสัญญาณที่ดีที่ DSI รับคดีดังกล่าวในส่วนของการฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ พร้อมเรียกร้องให้เลขาธิการ กกต.ชี้แจง เหตุใดเมื่อมีการร้องเรียนเรื่องโพยแล้ว แต่กลับอนุญาตให้ผู้สมัครสามารถนำโพยเข้าไปได้อีก และยังมีการพบโพยที่ถูกขยำไว้อีก จึงขอให้ผู้ที่มีหลักฐาน เก็บพยานหลักฐานไว้ เพื่อให้ DSI สามารถตรวจสอบเศษหนังกำพร้าบนนิ้วมือ ที่ไปแตะบนโพยและตรวจ DNA ของผู้สมัครคนนั้นได้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะทำให้สามารถสืบหาผู้เขียนโพย การประชุม การแจกโพย เส้นทางการเงิน SMS ต่าง ๆ การขึ้นรถได้ และรายได้ 100 กว่าคนที่ถูกกล่าวอ้างร่วมกระทำความผิด DSI จะเริ่มกันไว้เป็นพยาน และอาจไม่เอาผิด ซึ่งอาจจะมีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ยอมสารภาพเพื่อกันไว้เป็นพยาน

ส่วนการที่ DSI รับเฉพาะส่วนคดีการฟอกเงินฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ ที่จะต้องใช้เวลาในการสืบสวนเส้นทางการเมือง จะเป็นการรับไว้ เพื่อเป็นตัวประกันต่อรองทางการเมืองหรือไม่นั้น นักกฎหมายอิสระ มองว่า การรับเฉพาะส่วนการฟอกเงิน เป็นเพราะมีความชัดเจนที่สุดแล้ว เพราะไม่สามารถรับในฐานอั้งยี่ ซ่องโจรได้ เพราะไม่ได้อยู่ในบัญชี และต้องอาศัยมติพิเศษ ซึ่งจะเกิดข้อถกเถียง ทั้งที่ฟอกเงินในความหมายคดี มาจากมาตรา 77 ของกฎหมายการได้มาซึ่ง สว.ก็เข้าเงื่อนไขอั้งยี่ ซ่องโจรกลาย ๆ เพราะเป็นการรวมตัวกันเสนอให้ผลประโยชน์ วางแผนเป็นองค์กรอาชญากรรม และอีกเงื่อนไขการได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศ เป็นองค์กรที่สำคัญทางรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญในอดีต เคยวางแนววินิจฉัยไว้แล้วหลังรัฐประหาร 2549 ขณะที่มี สว.เลือกตั้ง และแต่งตั้ง ซึ่งมีความพยายามแก้ที่มา สว.ให้เป็นการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ศาลฯ เห็นว่า ผู้ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ สว.ไม่คานอำนาจ สส.ผู้นั้น เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่คราวนี้ หาก DSI สืบสวนพบว่า การดำเนินการใด ๆ มีโพย SMS หรือโอนเงิน นัดเจอกันโรงแรม ลงคะแนนไปในทางเดียวกัน และโยงไปถึงพรรคการเมือง ที่มี สส.ในสภาได้ ก็อาจจะมีผู้เสนอให้ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยพยายามได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศ หรือล้มล้างการปกครอง เหมือนที่เคยมีการร้องเรียนในอดีต เพียงแก้รัฐธรรมนูญยังผิด แต่คราวนี้หากพบหลักฐาน และศาลระบุว่าผิด ก็อาจมีการตีความถึงการยุบพรรคการเมืองบางพรรคที่เกี่ยวข้องได้ แต่ตามกระแสข่าว มีผู้ที่มีหลักฐานพร้อมออกมาเปิดเผย เมื่อ DSI รับเป็นคดีพิเศษแล้ว ผู้ที่มีหลักฐานสามารถเข้าสู่สำนวนคดีได้เต็มที่ .-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]