นายกฯ ชูวิสัยทัศน์ Thailand Tourism

เยอรมนี 5 มี.ค.- นายกฯ ชูวิสัยทัศน์ Thailand Tourism ในงาน “Amazing Thailand Networking Event” เบอร์ลิน ยกระดับไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก พร้อมเชิญชวนร่วมกิจกรรมใหญ่ตลอดปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025”
 
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 12.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 6 ชั่วโมง ณ CityCube กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาในงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2025 (ITB Berlin 2025) โดยสรุปสาระสำคัญของปาฐกถา ดังนี้


รัฐบาลประกาศให้ปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวในฐานะหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในปี 2567 รัฐบาลประสบความสำเร็จในการเพิ่ม GDP ของประเทศจากการท่องเที่ยวไทยได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกินเป้าหมาย 35 ล้านคน สร้างรายได้รวมกว่า 47.40 พันล้านยูโร หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของ GDP และในปี 2568 นี้รัฐบาลตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 39 ล้านคน สร้างรายได้ 98 พันล้านยูโร คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากยุโรป 10.62 ล้านคน จะสร้างรายได้ 24.22 พันล้านยูโร และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการสำคัญ 5 ประการ ผ่านวิสัยทัศน์ Thailand Tourism เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกได้แก่
 
1) การเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะการปรับปรุงมาตรการการตรวจลงตรา เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว ซึ่งรวมถึงการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับชาวต่างชาติจาก 93 ประเทศ/ดินแดน การตรวจลงตราประเภท Long Term Resident Visa และการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เช่น ระบบ E-Visa ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System) ในสนามบิน 6 แห่งทั่วประเทศ และเตรียมให้บริการระบบ ตม.6 ออนไลน์ (Thailand Digital Arrival Card: TDAC) นอกจากนี้ รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด โดยเสริมสร้างระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินและมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดในสถานที่ท่องเที่ยว จึงมั่นใจได้ว่ารัฐบาลห่วงใยถึงความปลอดภัยและความมั่นใจของนักท่องเที่ยว
 
2) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลมุ่งพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถและผู้ใช้บริการเป็น 250 ล้านคนต่อปี ผ่านการดำเนินการ ดังนี้ (1) ขยายสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง (2) ปรับปรุงสนามบินภูมิภาค ได้แก่ สนามบินอู่ตะเภาภูเก็ต และเชียงใหม่ และ (3) ก่อสร้างสนามบินใหม่ เช่น สนามบินอันดามันและล้านนา นอกจากนี้ รัฐบาลผลักดันการเพิ่มเที่ยวบิน และเปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ สู่ประเทศไทย พร้อมทั้งขยายเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงไทยกับลาวและจีน และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีและกระจายการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ทั่วประเทศ
 
3) ซอฟต์พาวเวอร์ ไทย ด้วยประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์และเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไม่เพียงอยู่ในความภาคภูมิใจของชาติ แต่ยังอยู่ในรอยยิ้ม อาหาร ศิลปะ และการเป็นเจ้าบ้านที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น และนำเสนอให้เห็นในซีรีย์ The White Lotus ทั้งนี้ รัฐบาลได้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและเอกลักษณ์ของไทย รวมถึงแรงงานที่มีทักษะสูงและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของประเทศ
 
4) ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพ รัฐบาลมุ่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้วยราคาที่แข่งขันได้ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย สถานพยาบาลที่มีมาตรฐานสากลในภูมิภาค และการต้อนรับที่อบอุ่นของคนไทย จึงทำให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 1 ล้านล้านบาท โดยไทยพร้อมเปิดรับการลงทุนและขยายระบบนิเวศการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพอย่างครบวงจรต่อไป
 
5) การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ถือเป็นอีกกุญแจสำคัญที่รัฐบาลกำลังพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และร่วมมือกับทุกภาคส่วน สนับสนุนมาตรฐานด้านความยั่งยืนในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน (Green Destinations) ทั่วประเทศเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ส่งเสริมความสมดุล และนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ทุกคน โดยการได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการประชุมระดับโลก Global Sustainable Tourism Conference 2026 (GSTC 2026) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและครอบคลุมมากขึ้นสำหรับการท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในปี 2568 รัฐบาลประกาศให้เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งจะจัดขึ้นตลอดทั้งปี เริ่มจากเดือนเมษายน การเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย Summer Festival MahaSongkran การฉลอง Pride Month 2025 ในเดือนมิถุนายน เทศกาลลอยกระทง Loi Krathong: Rivers of Light ในเดือนพฤศจิกายน และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ช่วงปลายปีในงาน Amazing Thailand Countdown ทั้งนี้ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น FIVB Women’s Volleyball World Championship 2025 และ SEA Games 2025 โดยนายกรัฐมนตรีย้ำความมุ่งมั่นการจัดงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ตลอดจน ขอบคุณการเป็นพันธมิตรและความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย พร้อมเชิญชวนร่วมเฉลิมฉลองปีที่พิเศษนี้ไปด้วยกัน


สำหรับงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้งาน ITB Berlin 2025 ซึ่งเป็นงานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก จัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2509 และในปีนี้เป็นครั้งที่ 58 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 มีนาคม 2568โดยในแต่ละปีมีประเทศต่าง ๆ จากทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 180 ประเทศ สำหรับในปีนี้ ททท. ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย 160 รายจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]

ดีเปรสชันทะเลจีนใต้ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ”

กรุงเทพฯ​ 23 ส.ค.​ – กรม​อุตุฯ ​เผยเช้า​นี้​ “ดีเปรสชัน” ทะเลจีนใต้ตอ​นบน ​ทวีกำลังเป็น “พายุโซนร้อนคาจิกิ” แล้ว​ คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วง 25–26 ส.ค.นี้ ส่งผลกระทบไทยตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน​ “คาจิกิ” มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนประมาณ​วันที่​ 25​ -​26​ สิงหาคม​ ก่อนเข้าสู่สปปลาวและภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​ หลังจาก​ขึ้นฝั่ง​ที่​เวียดนาม​ คาดว่า​พายุ​โซน​ร้อน​จะอ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ภาคตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​จะเป็​นหย่อม​ความกดอากาศ​ต่ำ​ แต่ยังคงส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่ โดยเส้นทางพายุใกล้เคียงกับพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” ร่วมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24–27 สิงหาคม 2568 โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ครอบคลุมหลายภาค ได้แก่​ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน​ ภาคเหนือ​ ภาคกลางภาคตะวันออก​ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ คาดว่า​ […]