“วิสุทธิ์” บอกฝ่ายค้านฝันกลางวัน หวังผลซักฟอกถึงขั้นยุบสภา

รัฐสภา 3 มี.ค.-“วิสุทธิ์” บอกฝ่ายค้านฝันกลางวัน หวังผลซักฟอกถึงขั้นยุบสภา ท้าให้รอดูจะยุบสภา หรือยุบพรรคฝ่ายค้าน เย้ยรอมาเป็นรัฐบาลก่อนค่อยกำหนดอภิปราย 5 วัน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) กล่าวถึงความชัดเจนการกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า จะต้องรอนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม จากนั้นจะมีการนัดหารือ 3 ฝ่ายทั้ง ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และผู้แทนคณะรัฐมนตรี มากำหนดกรอบเวลาร่วมกัน แต่วันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ได้ข้อสรุปแล้วว่า จะเริ่มในวันที่ 24 มีนาคม 2568

ส่วนจะเป็นกรอบเวลาการอภิปรายเพียงวันเดียวหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ ย้ำว่า หากฝ่ายค้านอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว การอภิปรายเพียงวันเดียวก็น่าจะเหมาะสมแล้ว เพราะในอดีตมีการอภิปรายรัฐมนตรีกว่า 10 คน ยังใช้เวลาการอภิปราย 3 วัน และลงมติอีก 1 วัน ครั้งนี้อภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว วันเดียวก็น่าจะพอ เริ่มตั้งแต่ 09.00-24.00 น.

“ผมเห็นฝ่ายค้านออกมาเรียกร้อง 5 วัน ซึ่งโดยปกติตามกติกา และมารยาท จะต้องรอหารือร่วมกัน 3 ฝ่ายก่อน เพื่อกำหนดเวลาร่วมกัน แต่ก็เห็นฝ่ายค้าน ออกมาเรียกร้อง 2-3 สัปดาห์แล้ว หากรัฐบาลไม่กำหนด 5 วัน ก็ถือว่าใจไม่กว้าง ฉะนั้น ก็รอให้ฝ่ายค้านมาเป็นรัฐบาลก่อนค่อยให้อภิปราย 5วัน 10วัน แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จึงให้วันเดียวก่อน” นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาระบุจะมีการอภิปรายตีแผ่ไปยังกระทรวงต่าง ๆ แต่จะลงมตินายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวว่า รัฐธรรมนูญ และข้อบังคับบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ไม่ว่าจะอภิปรายกระทรวงใดก็แล้วแต่ แต่รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะรู้ดีที่สุด ดังนั้น นายกรัฐมนตรี สามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงแทนได้

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี เตรียมตั้งองค์รักษ์เผื่อในกรณีที่ตนเองคอแห้งนั้น นายวิสุทธิ์ ชี้แจงว่า ในกรณีการตั้งองครักษ์ หมายถึงการให้รัฐมนตรีชี้แจงแทน เพราะจะให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงทุกเรื่องคงไม่ได้ จะต้องมีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงใด มาเป็นผู้ชี้แจง และพรรคเพื่อไทย สส.ก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว หากมีการทำผิดข้อบังคับ พาดพิงภายนอก สส.ในพรรค ก็พร้อมลุกขึ้นประท้วงเป็นธรรมดา

ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเป็นจะต้องมาที่สภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่ เพราะฝ่ายค้าน ก็มีการพาดพิงภายในญัตติด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ ย้ำว่า ตามข้อบังคับการประชุม ไม่อนุญาตให้มีการอภิปรายพาดพิงบุคคลนอก จะอภิปรายได้เฉพาะนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี การอภิปรายบุคคลนอก ข้อบังคับไม่ได้เปิดช่องให้ และไม่เคยมีการอภิปรายบุคคลภายนอกมาก่อนามประวัติศาสตร์ แม้ตามญัตติจะระบุถึงเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรีก็ตาม

ส่วนกังวลจะมีการอภิปรายเสี้ยมให้แตกคอกันระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ เห็นว่า วิธีการจะใช้บ่าง จะไม่บังเกิดผลในการอภิปรายครั้งนี้

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงฝ่ายค้านที่ตั้งเป้าภายหลังการอภิปรายครั้งนี้ จะนำไปสู่การยุบสภา โดยได้ย้อนถามไปถึงฝ่ายค้านว่า “ฝันกลางวันรึเปล่า” พร้อมขอให้คอยดูว่า จะยุบสภา หรือจะยุบพรรคฝ่ายค้าน

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านระบุหากมติที่พรรคร่วมรัฐบาลจะลงให้กับนายกรัฐมนตรี หากหายไปแม้แต่คะแนนเดียว ก็อาจสร้างแรงกระเพื่อมภายในพรรคร่วมรัฐบาลได้นั้น นายวิสุทธิ์ มั่นใจว่า ไม่กระเพื่อม เพราะในการอภิปรายทุกครั้ง ไม่มีรัฐมนตรีคนใดได้คะแนนเต็ม 100% ทุกคน อาจจะมี สส.ที่ไม่สบาย ป่วย ไม่ได้มาร่วมประชุม ซึ่งตั้งแต่ตนเป็น สส.มา 20 กว่าปี ก็ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนใด ได้คะแนนไว้วางใจครบ 100% แต่ก็มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด แม้จะมีความคิดบางอย่างแตกต่างกันบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งไม่น่ากังวลใด ๆ

นายวิสุทธิ์ ยังปฏิเสธให้ความเห็นภายหลังการอภิปรายฯ ที่มักจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีตามมา เนื่องจากเป็นอำนาจฝ่ายบริหารของนายกรัฐมนตรี ที่รู้ดีกว่า รัฐมนตรีคนใดบกพร่อง ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการดูแล ตนเองเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ.-319.-สำนักข่าวไทย